ถ้าให้เรียงรายชื่อ “ตัวละคร” ที่เป็น “ที่รัก” ในโลกของภาพยนตร์แอนิเมชัน
เชื่อว่า “โป” แพนด้าหนุ่มตัวเขื่อง พระเอกดังในตระกูล “กังฟูแพนด้า” (Kung Fu Panda) งานจากค่าย “ดรีมเวิร์กส์ แอนิเมชัน” ที่ปล่อยออกมาภาคแรกคือ “กังฟูแพนด้า จอมยุทธ์พลิกล็อค ช็อคยุทธภพ” ในปี 2551น่าจะทำให้ผู้คนก็หลงรักไปในทันใด และติดอันดับเป็น “ตัวละครอันเป็นที่รัก” ของหลายคน
ความสำเร็จของภาคแรกได้กรุยทางให้กับ “กังฟูแพนด้า 2” ออกฉายในปี 2554 มาจนถึง “กังฟูแพนด้า 3” ฉายในปี 2559 และตอนนี้ก็ถึง “ภาค 4” งานกำกับของ ไมค์ มิทเชลล์ ที่เพิ่งฝากผลงานก่อนหน้านี้ในปี 2562 กับแอนิเมชันบู๊ผจญภัยเรื่อง “The Lego Movie 2: The Second Part”
“กังฟูแพนด้า” ไม่ใช่เพียงเรื่องราวของ “โป” เท่านั้น แต่ยังมีผองเพื่อนต่างสายพันธุ์ที่ผูกพันกันอย่างลึกซึงแน่นเหนียว รวมตัวกันในฐานะ “ผู้พิทักษ์” เพื่อปราบ “เหล่าอธรรม” ได้แก่ นางพยัคฆ์, นกกระเรียน , ตั๊กแตน , อสรพิษ และ วานร
ถ้าให้เล่าอย่างย่นย่อนับจากภาคแรกของ “กังฟูแพนด้า” ก็คือการเริ่มต้นความฝันของ “โป” แพนด้าที่มีพ่อบุญธรรมเป็น “ห่าน” อาชีพขายบะหมี่ ซึ่ง “โป” เป็นแฟนพันธุ์แท้ “กังฟู” และหวังแค่ชมการประลองการต่อสู้ประเภทนี้เท่านั้น แต่สุดท้ายดันจับพลัดจับผลูกลายเป็น “ผู้ถูกเลือก” จากบิ๊กปรมาจารย์เต่า “อูเกว” ตามคำทำนายโบราณ
ทำให้ “โป”กลายเป็นศิษย์รับการถ่ายทอดวิชา “กังฟู” จากปรมาจารย์ “ชิฟู” แพนด้าแดงที่เป็นลูกศิษย์ของ “อูเกว” อีกที ในหุบเขาสันติภาพ และในที่สุด “โป”ต้องทำภารกิจร่วมกับ “ผู้พิทักษ์ทั้ง 5” ปราบวายร้ายเสือดาวหิมะนาม“ไต้ลุง” ให้สิ้นฤทธิ์
ในภาค 2 “โป” กลายเป็น “นักรบมังกร” แต่ชีวิตของ “ฮีโร่” หวังจะอยู่สบายคงไม่ใช่วิถีฮีโร่ ต้องมีศัตรูตัวร้ายมาให้คอยกำราบ ซึ่งภาคนี้ทีม “โป แอนด์ โค.” ต้องออกไปสยบ “อ๋องเชน” นกยูงรัชทายาทที่หวังจะทำลายเมืองจีนและวิชา “กังฟู” ให้สิ้นซาก
ขณะที่ภาค 3 นั้น “โป” ได้พบกับบิดาที่แท้จจริง และภาคนี้เขาต้องรับมือกับ “ไค” นักรบวิญญาณที่ดูยังไงก็แลคล้าย “กระบือ”
ส่วน “กังฟูแพนด้า 4” บอกเล่าการเดินทางครั้งใหม่ของ “โป” เพื่อขัดขวางแผนร้ายของ “กิ้งก่าแปลงกาย” ที่ต้องการช่วงชิงพลังของ “บรรดาศัตรูคู่อริของโป” จากภาคก่อน ๆ ทว่าเหล่าร้ายพวกนี้ต่างไปอยู่ปรโลกกันหมดแล้ว
แต่ “โป” มี “กุญแจสำคัญ” ที่จะช่วยให้แผนการของ “นางกิ้งก่าคาเมเลียนจอมโหด” สำเร็จได้
ซึ่งดูทรงแล้วงานนี้ไม่ง่ายสำหรับแพนด้าพระเอกขวัญใจผู้ชม เพราะเหล่า “ผู้พิทักษ์” ที่เคยร่วมสู้กันเคียงบ่าเคียงไหล่จากภาคก่อน ๆ ต่างไปมีวิถีและหน้าที่ของตนเอง
ดังนั้น ภาค 4 จึงเปิดตัวละครใหม่ที่วางให้เป็น “คู่หู” ของ “โป” ซึ่งก็คือ “เจิน” จิ้งจอกสาวจอมเจ้าเล่ห์ผู้มีอดีตเป็นปริศนา และคงไม่เกินเลยไปนักหากจะเข้าใจได้ว่า นี่เป็นการเปิดทางให้กับภาคต่อ ที่จะทำให้แฟรนไชส์ “กังฟูแพนด้า” อยู่ยงกอบโกยรายได้ไปได้อีกนาน
ความสนุกในเรื่องของ “วิทยายุทธ” การต่อสู้ที่เป็น “สัญลักษณ์”สำคัญของ “กังฟูแพนด้า” ยังอยู่ครบในภาค 4 สีสันความน่ารักของตัวละคร “สิงสาราสัตว์” ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมสมราคามาตรฐาน https://www.youtube.com/watch?v=0o-F16mNs20&t=26s
นักแสดงฝีมือจัดจ้านอย่างแจ็ค แบล็ก ที่ครองเสียงพากย์ “โป” มาตั้งแต่ภาคแรก ก็ยังมีฝีปากพากย์ได้เข้าฝักแบบไม่ผิดหวัง ส่วน อควาฟินา นักแสดงสาวชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ที่ให้เสียงจิ้งจอก “เจิน” รวมถึง วิโอลา เดวิสที่สวมเสียงพากย์ “กิ้งก่าคาเมเลียน” ก็ทำได้แพรวพราวสบายหายห่วง
ขณะที่แก่นสาระในเรื่องของ “คุณธรรมน้ำมิตร” ก็ไม่ขาดพร่อง ทั้งยังเติมประเด็นพวกนี้ให้เห็นอย่างชัดแจ้งผ่านตัว “โป” ที่ยังคงเป็น “ตัวแทน”แห่งความสัตย์ซื่อ กตัญญู มีน้ำใจ ไม่เอารัดเอาเปรียบใคร กล้าหาญและให้อภัย
นี่มันบุคลิกของ “ก๊วยเจ๋ง” แห่งจักรวาล “มังกรหยก” บทประพันธอมตะของ กิมย้ง ชัด ๆ
ไม่เพียงเท่านั้น “ความดีงาม” เหล่านี้ที่อยู่ในตัวของ “โป” ยังสอดแทรกอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น “บิดาผู้ให้กำเนิด” หรือ “บิดาบุญธรรม” ของ “โป” หรือแม้แต่ในเหล่าตัวละครที่อยู่ในโลกของ “วายร้าย” ก็ยังมีแสงแห่งความดีเล็ดลอดออกมาให้เห็นคล้ายจะสื่อว่า “ต่อให้ใครเคยทำผิดทำเลว ก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ไข กลับตัวกลับใจได้เสมอ”
ตราบเท่าที่ชีวิตยังมีลมหายใจ และหัวใจยังมีเชื้อแห่งความดี!
Blue Bird9/3/67