เมื่อวันที่18 มิ.ย.64 ตำรวจโครงการพระราชดำริ นำโดย ร.ต.อ.พิเชษฐ วิเศษโชค รองสว.กก.6 บก.จร.นำตำรวจโครงการพระราชดำริ11 นาย
เข้าร่วมภารกิจอำนวยความสะดวกให้ทีมแพทย์ นำหัวใจจากผู้ป่วยที่บริจาคอวัยวะจาก รพ.พิษณุโลก เปลี่ยนถ่ายให้กับผู้ป่วยคนหนึ่งที่ รพ. ศิริราช
ด.ต.อารยะ ป้อมค่าย ผบ.หมู่งาน 2 กก.6 บก.จร. เล่าว่าภารกิจพิชิตหัวใจภารกิจครั้งนี้เป็นหัวใจดวงที่ 38
ในอดีตครั้งแรกได้รับการประสานจากสภากาชาดไทยให้ทำภารกิจนำส่งหัวใจ ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ที่ผ่านมาคิดว่ามีแต่ในหนัง คิดว่านี่คือหัวใจของคนไม่ใช่อวัยวะ เช่น แขน ขา ที่จะนำไปส่งต่อเพื่อมอบชีวิตใหม่ให้อีกชีวิต
ครั้งนั้นปฎิบัติภารกิจด้วยเฮลิคอปเตอร์ ที่สนามบุญยะจินดา ได้รับแจ้งว่าผู้มอบต้องการส่งต่อชีวิตใหม่เพื่อสร้างบุญกุศลให้ตัวเอง เนื่องจากผู้มอบเกิดภาวะสมองตาย
ภารกิจแรกในตอนนั้นทราบจากทีมแพทย์ ว่า เมื่อถึงเวลาผู้รับโดยแพทย์จะต้องเปิดช่องอกรอหัวใจที่ผู้มอบส่งให้เพื่อมีชีวิตใหม่
ภารกิจพิชิตหัวใจต้องทำให้เสร็จภายใน 4 – 5 ชั่วโมง ตั้งแต่ขั้นตอนแรกคือการตัดเส้นเลือดใหญ่จากผู้มอบ จนถึงการผ่าตัดใส่หัวใจ
ทุกครั้งต้องแข่งกับเวลา ห้ามมีความผิดพลาดแม้แต่นาทีเดียว เพราะนั้นหมายถึงชีวิตที่กำลังรอ
แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องขอบคุณพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 และ ในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่สร้างโครงการตำรวจจราจรในพระราชดำริขึ้นมา
ทุกครั้งที่ฝนตก ฟ้าร้อง ระหว่างปฎิบัติภารกิจจะนึกถึงและอธิษฐานถึงพระบารมีพระองค์ท่านเสมอ สิ่งที่เป็นอุปสรรคจะหายไป
นอกจากนี้ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่คอยหลีกทางทำให้ภารกิจสำเร็จด้วยดีทุกอย่างต้องปลอดภัยทุกครั้ง
เราต้องนึกถึงผู้ป่วยที่รอรักษาอยู่ แม้ไม่เคยเจอผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว แต่ทุกครั้งที่มีข่าวออกไป มีญาติเข้ามาขอบคุณมีคนมาขอบคุณในเฟซบุ๊กเพจตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร ก็รู้สึกดีแล้ว
ต้องขอบคุณพระองค์ท่านที่สร้างโครงการนี้ขึ้นมาทำให้พวกเราได้ช่วยเหลือประชาชน
“ดีใจที่ได้ทำหน้าที่นี้และภูมิใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลาที่ไปช่วยประชาชนแล้วได้ยินว่าตำรวจพ่อหลวงมาแล้ว ตำรวจของพระราชา มาแล้ว พวกเราปลอดภัยได้
พวกเรามีความสุขที่สุดที่ได้เห็นเสื้อกั๊กสีน้ำเงินแบบนี้ แค่นี้พวกผมตำรวจโครงการพระราชดำริก็ภูมิใจแล้ว”
นี่คือเรื่องดีๆของตำรวจโครงการพระราชดำริที่พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น.นำมาเปิดเผยครับ