Saturday, May 4, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันตำรวจคุมตัว“ไอ้ทิพย์”โจรหื่นจะขยี้สาวจีนทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

    ตำรวจคุมตัว“ไอ้ทิพย์”โจรหื่นจะขยี้สาวจีนทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

    ตั้ง 5 ข้อหาหนัก ”ไอ้ทิพย์“ พร้อมคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยผู้ต้องหามีประวัติโชกโชน ก่อเหตุเพื่อชิงทรัพย์ไม่ได้หวังฆ่า

    ภายหลังการจับกุม นายทิพย์   อายุ 41 ปี ชาวจ.อุตรดิตถ์ผู้ต้องหาก่อเหตุ พยายามข่มขืน , กระทำอนาจาร , และชิงทรัพย์ นางสาวหลิน อายุ 29 ปี นักท่องเที่ยวสาวชาวจีนจับกุมได้ ในบ้านพักแห่งหนึ่ง ย่านนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุต จ.ระยอง  เมื่อคืนที่ผ่านมา ( 20 ก.พ.67 )ผู้ต้องหายอมรับทุกข้อกล่าวหา แต่ปฏิเสธในกรณีจุดไฟเผาฆ่าปิดปาก

    มีรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ( 21 ก.พ.67 ) พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี  เดินทางมาสอบปากคำ นายทิพย์   ผู้ต้องหารายนี้ด้วยตนเอง ก่อนคุมตัวออกจากห้องขัง ไปสอบปากคำนานกว่า 3 ชม.

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดรถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุแคป สีดำ ทะเบียน ผจ 2255 พิษณุโลก ของผู้ต้องหา และมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี เนื่องจาก เป็นรถที่ใช้ในการ หลบหนีหลังก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟินน์ สีดำ เทา  ทะเบียน 3 กฉ 7744 ชลบุรี ที่ใช้ในการก่อเหตุจอดไว้เพื่อรอทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หน้า สภ.หนองปรือ  เบื้องต้นพบว่ารถยนต์กระบะ สวมทะเบียนปลอม และอยู่ในระหว่างการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม

    ต่อมาเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ เผยว่า ภายหลังการจับกุม นายทิพย์   ผู้ต้องหายอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา อีกทั้งยอมรับว่าวางแผนมาเป็นอย่างดี ในการลงมือก่อเหตุผู้เสียหาย  ส่วนกรณีจุดไฟเผาป่า ผู้ต้องหายืนยันว่า ไม่มีความประสงค์จะลงมือสังหาร หรือ ฆ่าปิดปาก แต่เป็นการเผาทำลายหลักฐาน อาทิ เสื้อผ้า และ เอกสารสำคัญ ของผู้เสียหายเพื่อทำลายพยานวัตถุหลักฐาน

    จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหา พบว่าเคยต้องคดีชิงทรัพย์ ในจ.เชียงใหม่ และ คดีอาวุธปืน เพิ่งจะพ้นโทษออกมา เมื่อปี 2560 หลังจากพ้นโทษได้เดินทางมาทำงาน ในจ.ระยอง และจะตระเวนลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหาย  ในส่วนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดบ้าง

    นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหา ใช้รถ 2 คัน ในการก่อเหตุ  รถคันแรกเป็นรถจักรยานยนต์  ตรวจสอบ พบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีการแจ้งความหายไว้เมื่อ ปลายปี 2566 จากนั้นจะขับมาเปลี่ยน เป็นรถยนต์กระบะ เพื่อใช้ในการหลบหนี

    ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องหารายนี้ลงมือก่อเหตุ เพราะต้องการประสงค์ต่อทรัพย์ และยังให้การยอมรับว่าทรัพย์สินที่ได้ไป เป็นเงินสดไทย 10,800 บาท และเงินสกุลหยวน 1,600 หยวน โดยเงินสกุลหยวน  นำกลับมาคืนผู้เสียหายได้ทั้งหมด ส่วนเรื่องของการได้เงินมาแล้ว จะนำไปใช้อะไรนั้น ทางผู้ต้องหาไม่ได้ให้การ แต่ตำรวจ พบว่าในโทรศัพท์มือถือ มีการเล่นพนันออนไลน์ อีกทั้งมีการส่งตัวไปตรวจสอบหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นยังไม่พบ

    สำหรับการดำเนินคดี ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา 5 ข้อ 1.ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด และ พาทรัพย์นั้นไป 2.พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, 3.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นการกระทำโดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมีใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศหรือทวารหนักของบุคคลนั้น, 4.วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น และ 5.หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยแต่ละข้อหา มีโทษสูงสุด คือจำคุก 10-20 ปี

    จนกระทั่วในเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาออกไปที่ชี้ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยผู้ต้องหา บอกกับสื่อมวลชนว่าอยากจะขอโทษนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสีย ไม่ได้ตั้งใจและไม่มีเจตนาที่จะฆ่า

    หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาเดินทางไป ยังจุดเกิดเหตุ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกจุดที่ผู้ต้องหาจอดรถ และนำเหยื่อลงจากรถ จากนั้นผู้เสียหายวิ่งหนีผู้ก่อเหตุก็วิ่งตามไปจับ โดยหยิบเชือกที่อยู่ในกระเป๋าออกมามัดมือตามที่ได้นำเสนอข่าวไป ก่อนนำเหยื่อเข้าไปในป่าและชิงทรัพย์ในป่า  ยืนยันว่าไม่ได้กระทำมิดีมิร้ายเลย  หลังได้เงินของกลางเป็นคนแก้มัด และปล่อยตัวให้เหยื่อวิ่งหนีไปด้วยซ้ำ.

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments