ตำรวจไซเบอร์ เปิดยุทธการปิดหลุมดำโจรกรรมรถข้ามทวีป ลุยค้น 7 จุด หลังพบมีขบวนการแยกชิ้นส่วนรถกระบะ สำแดงเท็จ ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ ส่งยุโรป ,ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ยึดของกลางมูลค่า172ล.
วันที่ 24 ต.ค.66 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ รรท.รองผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผบช.สอท. พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว รอง ผบก.ตอท. นำกำลังตำรวจบช.สอท. สนธิกำลังนายวาริส วิสารทานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการตรวจสอบสินค้า สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ,เจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบก, สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เปิดปฎิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 7 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ,จ.ชลบุรี ,จ.ปทุมธานี ตามยุทธการปิดหลุมดำโจรกรรมรถข้ามทวีป
สำจุดที่น่าสนใจคือการเข้าตรวจสอบศูนย์เอ๊กเรย์ ท่าเรือแหลมฉบัง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ 2 ตู้ ซึ่งมีการสำแดงในเอกสารว่าเป็นอุปกรณ์ชื้นส่วนรถยนต์ทั่วไป เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เชิญตัวแทนบริษัทซิปปิ้งและเจ้าหน้าที่ศุลกากรขอให้มาเปิดตู้ หลังแนวทางสืบสวนพบว่ามีการลำเลียงชิ้นส่วนรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมนำมาชำแหละและซุกซ่อนในตู้คอนเทรนเนอร์ เพื่อเตรียมส่งออกไปต่างประเทศ
จากการตรวจสอบพบภายในตู้คอนเทรนเนอร์ พบซุกซ่อนเครื่องยนต์รถกระบะ12 ตัว หัวเก๋งรถยนต์กระบะ ซากรถยนต์ ชิ้นส่วนรถกระบะ ประตูรถยนต์อะไหล่อื่นๆจำนวนมาก ทั้งหมดอยู่ในสภาพใหม่เอี่ยม จึงได้ยึดไว้ตรวจสอบ
นอกจากนี้ยังได้เข้าตรวจสอบโกดังชำแหละรถย่าน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตรวจยึดรถยนต์,ซากรถยนต์ รวม 16 คัน เครื่องยนต์ จำนวน 2 เครื่อง ,โกดัง ซอยรามอินทรา 47 ตรวจสอบพบหัวเก๋งรถยนต์ 22 ชิ้น รถกระบะ 5 คัน ,โกดังย่านลาดกระบังพบเครื่องยนต์ 98 เครื่อง หัวเก๋ง 8 ชิ้น รถกระบะ 3 คัน เป็นต้น
พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า บช.สอท. ได้รับการประสานจากสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ว่าในแต่ละปีมีรถหายในระบบเช่าซื้อ 30,000 คัน มูลค่าความเสียหายกว่า 20,000 ล้านบาท ประกอบกับบช.สอท. ได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมายบนสื่อสังคมออนไลน์ ใช้ระบบวิเคราะห์สื่อสังคมออนไลน์และเว็บไซต์ใต้ดินในการสืบสวนสอบสวน จนพบบัญชีเฟซบุ๊กต้องสงสัยโพสต์เสนอขายซากและอุปกรณ์ส่วนควบรถยนต์
พบว่าซากรถและอุปกรณ์มีลักษณะใหม่ และไม่มีร่องรอยการเกิดอุบัติเหตุหนัก จึงเชื่อว่าได้มาโดยผิดกฎหมาย ได้สืบสวนเพิ่มเติม พบสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว จนไปสู่การขอหมายศาลเข้าตรวจค้นในวันนี้รวม 7 จุด
ด้าน พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่ามีการกระทำในลักษณะเป็นขบวนการ ของกลางส่วนใหญ่ที่ตรวจยึดวันนี้เป็นซากและอุปกรณ์ส่วนควบรถยนต์ กว่า 160 คัน มูลค่ากว่า 172 ล้านบาท เชื่อว่าของกลางทั้งหมดผ่านการถูกโจรกรรม ก่อนนำมาชำแหละใส่ตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อเตรียมส่งออกนอกประเทศ ส่วนมากเป็นรถกระบะโตโยต้า รุ่นรีโว่ และอีซูซุ ดีแม็กซ์ โดยมีปลายทางเป็นประเทศในทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง และทวีปแอฟฟริ
กา อีกทั้งขบวนการนี้ยังใช้วิธีการหลบเลี่ยงในการสำแดงเท็จ โดยระบุว่าเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ แต่ในความเป็นจริงเป็นชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นคันเดียวกัน ยัดใส่ตู้โดยมีการระบุหมายเลขต่างๆ เมื่อไปถึงปลายทางจะได้นำมาประกอบเป็นคันได้ทันที หลังจากนี้จะตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนตรวจสอบพิสูจน์ทราบการกระทำความผิด พร้อมขยายผลไปยังผู้สั่งการต่อไป