เป็นเรื่องเป็นข่าวแซงทางโค้ง ข่าว “ครูแพะ” เข้าเส้นชัยแบบเฉียดฉิว กรณีเรื่องอื้อฉาวในวงการลูกหนัง ยุค “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่เปิดแถลงข่าว ช่วงชิงพื้นที่หน้า 1 มาจาก สับ วาปี ครูอ๋อง ครูจอมทรัพย์ มาได้อย่างตื่นเต้น
กับข่าว 12 ตัวการอยู่เบื้องหลังล้มบอล มีทั้งฝ่ายบริหาร ผู้ตัดสิน กองหลัง ผู้เล่น เรียกว่าครบองค์ประชุมทีเดียวเชียว กลายเป็นดาบสองคมที่ทิ่มแทงวงการลูกหนังไทยขึ้นมาในบัดดล
หลายคนตั้งคำถามว่า แล้วต่อไปนี้ ใครจะเชื่อมั่นวงการฟุตบอลไทยอีก เพราะว่าตัวละครที่ถูกตั้งข้อหา และออกหมายจับนั้น กระจายไปทั่วสารทิศและเกือบครบแผนก
อะไรจะมาการันตีได้ว่า สมาคมฟุตบอล ได้ตัดรากถอนโคนไปหมดสิ้นแล้วหรือยัง และรับประกันได้หรือไม่ว่า จะไม่เกิดขึ้นมาอีก
และเรื่องที่เกิด ทำไมเพิ่งมาเกิดขึ้นในยุค “บิ๊กอ๊อด” ทำไมไม่ถูกเปิดโปงตั้งแต่ยุค “บังยี” ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นถึง อดีต ผบ.ตร.ไม่ชำระสะสางเสียตั้งแต่ตอนนั้น
คงต้องอธิบายความกันสักเล็กน้อยว่า เหตุที่ตอน “บิ๊กอ๊อด” ยังดำรงตำแหน่งใหญ่สุดในวงการสีกากีนั้น ท่านมีหน้าที่ปราบปราม ทุกเรื่องราวในประเทศไทย คงไม่มีเวลามาคุ้ยเขี่ยเรื่องฟุตบอลแน่ๆ
อีกอย่างช่วงนั้น คงมีผู้สมประโยชน์กันถ้วนหน้า จึงไม่มีใครอยากออกมาเปิดโปง เหตุการณ์อันก่อเกิดรายได้มหาศาลเป็นแน่แท้
จวบจน “บิ๊กอ๊อด” หมดอำนาจทางราชการ หันมาเอาดีทางวงการลูกหนัง ซึ่งท่านคงระแคะระคายมาไม่มากก็น้อย เมื่อทิ้งความรับผิดชอบระดับภูเขา เข้ามารับงานระดับ กองขยะ จึงไม่ใช่เรื่องยาก ที่อดีตมือปราบ จะเขี่ยกองขยะ จนสิ่งปฏิกูลฟุ้งออกมา จนเป็นเรื่องเป็นราวอย่างที่ทราบกันไป
ถ้ามองในมุมของคนที่มีใจรักกีฬา ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ถือว่า การจับกุม 12 เหลือบวงการลูกหนัง ที่มามีเอี่ยวล้มบอลนั้น เป็นผลดีมากกว่าผลลบ
อย่างน้อย สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากแฟนบอล และต่างชาติที่จับตามองลีกบ้านเราอย่างตาไปกะพริบว่า
เอาจริงนะเว้ยเฮ้ย
แต่…ทุกสิ่งทุกอย่างยังมีแต่ เพราะสมาคมฟุตบอลชุดนี้ พร้อมที่จะขจัดเสี้ยนหนามวงการฟุตบอลให้หมดสิ้นไป จริงๆ จังๆ แค่ไหน
เพราะเรื่องที่ปล่อยให้อดีตมาเฟียเชิ้ตดำยุคก่อน กลับมามีบทบาทในการจัดผู้ตัดสินอย่างเป็นร่ำเป็นสัน ก็ถือเป็นการตบหน้าฉาดใหญ่ พออยู่แล้ว
เรื่องของ เจ้าแม่เชิ้ดดำล่ะ ท่านได้ระแคะระคายอะไรมั่งมั้ย ตอนนี้ ได้สร้างความปั่นป่วน เดือดร้อน ในวงการไปแค่ไหนแล้ว
จากที่ว่ามี2ผู้ตัดสินที่เข้าไปเกี่ยวข้องในล็อตแรก2คนจากที่ตำรวจเคยไปล็อกตัวผู้ตัดสินจำนวนหนึ่งร่วม10คนมาสอบ และหวยเลยมาออกที่”เปาภูมิ”ภูมินทร์ คำรื่น เปาดาวรุ่งหมายเลข1ของไทย และเป็นลูกรักของ”เจ้าแม่เชิ้ตดำ”กับ”เปาเก๋”ธีรจิตร สิทธิสุข คนที่กุมความลับทั้งหมด ที่โดนตำรวจค้นที่คอนโดมาร่วม2เดือนแล้ว หิ้วไปสอบที่กองสืบสวนนครบาล ได้คายออกมาหมด และได้พบนายกสมาคม พร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
งานนี้ถ้า”เปาเก๋”ไม่คาย บอกได้เลยว่าไม่มีทางได้
และมีคำถามต่อมาว่าทำไม”เปาภูมิ”เขาได้จัดให้ไปทำหน้าที่เป่า23เกมในฟุตบอลโตโยต้าไทยลีกปีนี้ ซึ่งมากกว่าทุกๆคน แต่ละแมทช์จะได้รับค่าตอบแทน9000บาทสำหรับการลงทำหน้าที่ ถ้าวันไหนๆได้ลงเป็นผู้ตัดสินที่4ก็จะได้ค่าจ้างลดลงมา ไม่รวมเกมฟุตบอลถ้วยอื่นๆและที่เดินทางไกลไปทำหน้าที่ต่างประเทศอีก
ที่สำคัญมันอยู่ตรงที่ว่า”หัวหน้า”คนจัดผู้ตัดสินไปทำหน้าที่ก็คือ”เจ้าแม่เชิ้ตดำ”ที่มีบารมีมากที่สุดในยุคนี้ และ”เจ้าแม่เชิ้ตดำ”จะพูดเสมอว่า”นายกสมาคม”เป็นคนจัด เลยไม่มีใครกล้าหือ….เพราะว่า”เจ้าแม่เชิ้ตดำ”เป็นคนทำเองแล้วจะเอาไปให้”นายกสมาคม”ดูหรือเปล่านั้นไม่มีใครทราบ
แต่ถ้าเป็นไปอย่างที่”เจ้าแม่เชิ้ตดำ”พูดมาตลอดก็แสดงว่า”นายกสมาคม”ก็ต้องมีส่วนที่จะต้องรับผิดชอบต่อสังคม ทางที่ดี”นายกสมาคม”จะต้องปลด”เจ้าแม่เชิ้ตดำ”ออกไปไม่ใช่ว่ามา”อุ้ม”เอาไว้ ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลมาจาก”เจ้าแม่เชิ้ตดำ”ทั้งสิ้น ถ้าหากปล่อยใ้ห้เธอลอยนวลไป มีแต่ผลเสียคนดีๆเก่งไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงไม่เล่นพรรคเล่นพวกมีตั้งเยอะแยะ วันก่อน”เจ้าแม่เชิ้ตดำ”ให้สัมภาษณ์ทางทีวี ก็ไปพูดในเรื่องประเด็นอื่นๆ ซึ่งมันไม่ตรงกับความจริงที่เกิดขึ้น
ถ้าหาก”ฟ้ามีตา สวรรค์เป็นใจ”ให้”นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล”ปลด”เจ้าแม่เชิ้ตดำ”ออกไปจากการทำหน้าที่ วงการผู้ตัดสินคงจะเจริญขึ้นไปกว่านี้หลายเท่าตัว เหมือนกับสมัยตำรวจกองปราบสามยอดเคยจุดประทัดไล่นายตำรวจชื่อดังในสมัยนั้น เชื่อได้เลยว่าผู้ตัดสินฟุตบอลก็คงจะคิดเหมือนๆกันนะ
จัดการกับผี ก็ต้องจับใส่หม้อถ่วงน้ำให้หมดป่าช้า อย่าให้ กระสือ กระหัง ทั้งหลายยังอาศัยรัตติกาล มาล้วงควักไส้ หรือหาอาจมกินอีกต่อไปเลยครับ…หมอผีอ๊อด…..
ยันแข้ง