สูงยาว เข่าดี มีซิคแพค นักโปโลน้ำ นักว่ายน้ำ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ น้องเอิร์น นรต.รุ่น 72
นรต.ธนภูมิ ริมฝาย สูง 185 ซม.
1.ความฝันวันเยาว์ ก่อนเข้าโรงเรียน
ผมเคยฝันว่าอยากจะเป็นนักบินอวกาศครับ ผมเป็นเด็กสาย วิทย์-คณิต มาตลอดจึงมีความชอบในวิชาฟิสิกส์ และคณิตศาตร์ไปในตัว แต่เนื่องด้วยคนครอบครัวมีทั้งตำรวจ นักกฎหมาย ทหาร พอได้เห็นบ่อยๆกลับกลายเป็นว่าชอบและอยากเป็นคนในเครื่องซะอย่างนั้น เลยเปลี่ยนแนวทางชีวิตใหม่ตั้งใจอ่านหนังสือจนสามารถสอบเข้ารร.เตรียมทหาร ได้และเลือกเหล่าตำรวจครับ
2.ทำไมถึงเลือกเหล่าตำรวจ
ที่อยากเป็นตำรวจก็เพราะว่าความคิดในตอนนั้นอยากปราบปรามโจรผู้ร้ายคอยดูแลช่วยเหลือประชาชนในยามที่เดือดร้อน คอยดูแลความสงบสุขของบ้านเมือง รวมถึงต้องผ่านความเหนื่อยยากความลำบาก”
3 “กว่าจะได้เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจนั้นไม่ง่ายเลย ต้องเรียนรู้ศึกษาวิชากฎหมายและฝึกอย่างหนัก น้ำหนักลดเกือบทุกคน”
การได้เข้ามาเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจแล้ว ก็ตรงกับที่คิดไว้ครับ เราทุกคนได้เรียนรู้การเป็นตำรวจ ได้ฝึกทั้งระเบียบวินัยฝึกความเป็นผู้นำ เรียนรู้กฎหมาย ยุทธวิธีตำรวจต่างๆ ได้มีเครื่องแบบเท่ห์ๆใส่ แต่กว่าจะได้เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจนั้นไม่ง่ายเลย ต้องเรียนรู้ศึกษาวิชากฎหมาย เรียนรู้วิชาชีพตำรวจที่เกี่ยวข้องกับตำรวจอย่างหนัก รวมถึงต้องผ่านความเหนื่อยยากความลำบากที่รุ่นพี่ๆและนายตำรวจปกครองได้สั่งสอนได้ปลูกฝัง ต้องอดทนอดกลั้นทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อหล่อหลอมให้เราเป็นนายตำรวจที่ดีมีคุณภาพ พร้อมที่จะรับใช้ประเทศชาติและพร้อมที่จะเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต่อไป
4.”จงใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย”
เป็นคติพจน์ประจำใจที่ผมใช้มาตลอดจนถึงทุกวันนี้ครับ ส่วนคำสอนตำรวจที่ผมชอบคือ “อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความอยากลำบาก” เป็นอุมคติตำรวจที่ผมชอบ เพราะผมคิดว่าการเป็นตำรวจได้นั้นจิตใจของเราและความอดทนของเราต้องมากกว่าคนอื่นๆเพราะอาชีพตำรวจต้องเจอสิ่งที่ไม่ดีต่างๆในสังคมที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถอดทนหรือรับได้
6.”ตำรวจในอุมคติในความคิดของผมต้องเป็นคนดี คนเก่ง ทำเพื่อสังคม มีคุณธรรม มีความโปร่งใส เที่ยงธรรม มีความยุติธรรม ช่วยเหลือประชาชนทุกชนชั้นไม่แบ่งแยกชนชั้น ”
แน่นอนครับตำรวจต้องเป็นผู้พิทักษ์และรับใช้ประชาชน ปัญหาในสังคมเมื่อเกิดขึ้นประชาชนมักนึกถึงตำรวจเป็นก่อนอันดับแรกเลยครับ ไม่ว่างูเข้าบ้าน ขโมยขึ้นบ้าน หรือแม้กระทั่งปัญหาครอบครัวสามีภรรยาทะเลาะกัน ก็จะโทรแจ้งตำรวจเสมอฉะนั้นงานตำรวจของเราจึงมีความสำคัญและมีอิทธิพลมากๆในสังคมครับ
8. “การทำงานทุกอย่างย่อมมีทั้งคนชื่นชมและคนด่าครับ ในทุกงานทุกอาชีพย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ต่อให้จะถูกสังคมต่อว่าขนาดไหน เราเพียงแค่ทำตามหน้าที่เราให้ดีที่สุดก็พอแล้ว” งานตำรวจเรานั้นเป็นงานที่คอยจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด ซึ่งบางครั้งต้องไปขัดต่อความรู้สึก ขัดต่อความสะดวกสบายของประชาชน จึงไม่แปลกครับที่ตำรวจจะถูกสังคมว่า แต่ผมเชื่อว่า หากเราทำดี ทำเพื่อประชาชน อย่างเป็นธรรม เท่าเทียม อย่างไรเสียประชาชนต้องเข้าใจครับ
9.ยุค4.0 ตำรวจจะต้องปรับตัวอย่างไรได้บ้าง
ปัจจุบันสังคมเราเปลี่ยนไปมากทั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี ต่างๆ เราไม่ได้เพียงแค่เจอกับอาชญกรรมธรรมดาทั่วไป แต่เรายังต้องเจอกับอาชญากรรมในด้านเทคโนโลยี และตำรวจต้องรู้เท่าทันโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คเพราะประชาชนทุกวันนี้ใช้สมาร์ทโฟนที่บันทึกวิดีโอได้ เวลาถูกจับหรือเจอด่านตำรวจก็มักจะนำมาใช้เสมอ ซึ่งการทำงานของตำรวจทุกวันนี้ยากมาก เราต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยี รู้เท่าทันสังคมยุคใหม่เพื่อปรับตัวในการทำงานมากขึ้น
10. นักกีฬาชมรมว่ายน้ำและโปโลน้ำ ของชมรม
ผมชอบว่ายน้ำตั้งแต่เด็กครับเวลาปิดเทอมคุณพ่อก็ชอบพาไปสระว่ายน้ำ อยู่กับสระว่ายน้ำทั้งวันกินข้าวที่สระ บางครั้งถึงกับนอนพักทำแบบนี้ทุกวันในช่วงปิดเทอม จึงกลายเป็นคนชอบว่ายน้ำมากๆ กีฬาว่ายน้ำเป็นกีฬาที่ต้องข้ามขีดจำกัดของร่างกายมากๆครับ ต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกาย ที่สำคัญจิตใจต้องเข้มแข็งมากๆ บางครั้งว่ายน้ำนานๆเป็นชั่วโมงก็แทบขาดใจครับ เมื่อเข้ามาโรงเรียนนายร้อยตำรวจชมรมว่ายน้ำไม่ใช่แค่ว่ายน้ำอย่างเดียวครับ มีการเล่นโปโลน้ำด้วยครับเป็นกีฬาทางน้ำที่สนุกและน่าสนใจมาก กีฬานี้คือการเล่นคล้ายๆฟุตบอลเล่นเป็นทีม ใช้มือเล่นมีโกลสองฝั่ง ต้องยิงเข้าโกลเพื่อให้ได้แต้ม เป็นกีฬาที่สนุกมากครับ ต้องว่ายน้ำเร็ว ลอยตัวได้เป็นชั่วโมง รวมถึงต้องคิดวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อส่งลูกบอลไปให้ถึงโกลฝั่งตรงข้าม เป็นกีฬาที่ท้าทายมากครับ
“การซ้อมกีฬานั้นทุกคนเหนื่อยครับแต่เราได้อะไรหลายๆอย่าง ทั้งความเป็นพี่น้องในชมรมความผูกพัน เราดูแลกันช่วยเหลือกันให้กำลังใจกันเสมอไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร ผมรักชมรมนี้ครับ รักกีฬาว่ายน้ำ และโปโลน้ำ ” ครับ
ฝากน้องเอิรนหนุ่มนักกีฬาว่ายน้ำและนายแบบเสื้อกีฬาเหล่าตำรวจ ไว้ในอ้อมใจของทุกคนนะคะ