ตำรวจกับพระเป็นของคู่กัน ในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและวัตถุมงคล เกิดเป็นเรื่องผสานผสมเล่าเป็นตำนานหลายเรื่อง
มีจังหวะไปภูเก็ต ได้แวะเยี่ยมพูดคุยหลายเรื่องกับ บิ๊กชัด-พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 นายตำรวจนักสืบระดับอาจารย์ ชื่อชั้นผลงานเป็นที่ประจักษ์ อยู่เบื้องหลังปิดเกมหลายคดีดังมาตลอด
ระหว่างพูดคุยกันเรื่องพระไม่ว่าจะเป็นพระหลวงปู่ทวดรุ่นชนะมาร จัดทำโดยบิ๊กต้อย-พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ อดีตผู้ช่วยผบ.ตร.สร้างในสมัยเป็นผบช.ภ.9 และ พระโสธร รุ่น108 ปี ตำรวจ จัดสร้างโดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ อดีต ผบ.ตร.
เพราะพระเครื่องทั้ง2 รุ่นที่2บิ๊กตำรวจสร้าง พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ บอกว่า อยู่ในพิธีทั้ง2พิธี เห็นความศักดิ์สิทธิ์ พระดีพิธีขลัง
ทั้ง2 องค์ ปรากฏพุทธคุณในเวลาต่อมา
ไม่ว่าจะมีผู้สวมใส่หลวงปู่ทวดรุ่นชนะมาร แล้วไม่เป็นอะไรจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติตกกลางป่า หรือชุดสืบสวนภาค 8 เข้าจับกุมคนร้ายไอ้อึ่ง เขาพระ ถูกปาระเบิดใส่ แต่ตำรวจที่เข้าจับกุมทุกคนสวมใส่พระโสธรรุ่น108ปีตำรวจ ปลอดภัย ระเบิดที่ตกใส่กลุ่มด้าน ก่อนวิสามัญคนร้ายได้ในที่สุด
อีกเหตุการณ์ 1ในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ที่บิ๊กชัดเล่าให้ฟัง เป็นเบื้องหลังการจับกุมแก๊งขโมยพระเมื่อ10กว่าปีก่อนสมัยยังเป็นผกก.สืบสวนอยู่ภาค3อีสานใต้
วันที่15 ม.ค. 54 วัดมะกอกสีมาราม ปราจีนบุรี ประกาศตั้งรางวัล 5 หมื่นบาท หากใครชี้เบาะแสจนตามคืนพระพุทธรูปเชียงแสน ปางมารวิชัย อายุไม่ต่ำกว่า500ปี พระเกศดอกบัวตูม เนื้อสำริด หน้าตักกว้าง 1 ศอกเศษ ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า หลวงพ่อเชียงแสนประดิษฐานอยู่ในมณฑป ถูกคนร้ายขโมยเหลือไว้แค่ฐานรองเท่านั้น
ตามประวัติสร้างสมัยพุทธศตวรรษที่ 20-23 ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีอัญเชิญมาจากเมืองเชียงแสน ครั้งสมัยปราบฮ่อ พ.ศ. 2430 แล้วนำมาไว้ที่วัดราชบพิธสถิตสีมาราม ก่อนที่จะอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดมะกอกสีมาราม เมื่อพ.ศ.2460 จนเป็นที่เคารพสักการะของชาวปราจีนบุรี ก่อนจะถูกขโมย
คนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ปะปนเข้ามากับพุทธศาสนิกชนที่มากราบไหว้พระ เมื่อสบโอกาสจึงเข้ามาตัดสายยูประตูชั้นนอกหน้ามณฑป แล้วเข้าไปตัดกุญแจประตูเลื่อน ก่อนที่จะเข้าไปตัดกุญแจกับโซ่ที่คล้องประตูเหล็กเป็นชั้นที่สาม แล้วอุ้มองค์พระพุทธรูปไป
ตำรวจเชื่อว่าน่าจะมีใบสั่งจากนักสะสมพระพุทธรูปเก่าแก่ เนื่องจากหลวงพ่อเชียงแสนเป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามแบบศิลปะล้านนา มีอายุหลายร้อยปี กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุเมื่อปีพ.ศ. 2547
ศิษยานุศิษย์และชาวบ้าน พยายามติดตามสืบเสาะหาข่าว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบพระพุทธรูปเชียงแสนองค์ดังกล่าว จึงทำพิธีบวงสรวงขอให้หลวงพ่อเชียงแสนได้กลับมาประดิษฐานที่วัดมะกอกสีมารามอย่างเดิม พร้อมประกาศให้รางวัล5 หมื่นบาท เมื่อกลางเดือนมี.ค.54
“คือตอนที่พี่เป็น ผกก.สืบ อยู่ที่ภาค 3 ผบ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ขึ้นเป็น ผบ.ตร. กรมการศาสนาทำหนังสือมา ให้ช่วยสืบจับพระที่ถูกโจรกรรมจากวัดมะกอกศรีมาราม กลัวว่าจะถูกส่งออกนอก
พูดแล้วขนลุกนะ มีคนโจรกรรมไป 3 ครั้ง ตามกลับมาได้หมดตอนนี้ยังอยู่ที่วัดนี้
พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ ฟิ้นความหลังเล่าต่อ
มันไม่เกี่ยวอะไรกับพี่เลยนะ คือพระถูกลักที่ปราจีนบุรี เขตภาค 2 พี่อยู่ภาค 3 หนังสือเวียนถึง ผบ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี บอกให้ตามหาพระองค์นี้ เพราะกลัวจะถูกนำออกนอกประเทศ
อยู่ดีๆ ลูกน้องสืบภาค 7 โทร.มา เย็นวันนั้นเลย บอกเจ้านายมีข่าวเรื่องพระ เอาไหม พี่ก็บอกเฮ้ยเอาดิ ไปคุยกัน มีแก๊งโจรกรรมแก๊งใหญ่อยู่แก๊งหนึ่งอยู่แถวพระราม 2 โจรกรรมทั่วประเทศ
แต่มันไม่ได้บอกว่าเป็นพระองค์นี้นะ บอกของภาค 3 มีไหม มันก็บอกว่าสงสัยว่าจะมี นายก็ไปดูละ
มันอยู่ที่ตลาด ให้ตาพลอยรอง ผกก.พลอย พิมพิสาร ตายไปแล้ว ลูกน้องท่านเพรียวพันธ์ ขึ้นไปเฝ้าตึกแถวที่พระราม 2 รถจอดที่ตลาดไม่ยอมเคลื่อนตัว เพราะรู้ว่าตำรวจมา พี่ก็บอกพี่ประยนต์ –พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.ภ.3ในขณะนั้น พี่ๆ เดี๋ยวผมไปดูเรื่องพระ ที่ กทม. หน่อย ขับรถจากโคราชมาถึง เจอลูกน้อง 2 คน บอกว่าไปดูหน่อยซิ มันอยู่ไหน ก็เฝ้าไว้ 5 วัน ยังไม่ได้ตัว
มันก็พาเราไป พบรถจอดไว้จนฝุ่นเขรอะแต่ตัวมันไม่ลงมา อยู่บนชั้น 4 พี่ก็บอกเฮ้ยมึงพาพี่ไปดู ไอ้ตึกนั่นมันอยู่ตรงไหน
ไม่น่าเชื่อนะ เหมือนท่านศักดิ์สิทธิ์ มันกลับมาปั๊บพี่ก็แหงนดู มันดูดบุหรี่อยู่ชั้น 4 เหมือนอะไรดลจิตดลใจ บอกลูกน้องไอ้ท๊อป 63 กรกฤษ งามวงษ์วาน รองสารวัตร กองสืบ (ตอนนี้ เจริญเติบโตเป็นรอง ผกก .ปคม.) มึงจอด
พี่เดินถือปืนขึ้นไปคนเดียววนไปขึ้นไปจนถึงห้องไปถึงก็เอาปืนจี้ลงมาเค้น
มี พ.ต.ท.ขวัญชาติ วงศ์ขจรไพบูลย์ 41 (รอง ผู้การ ปปป ) กับ ไอ้แมน 51-แมน เม่นแย้ม ตอนนี้เป็น รอง ผบก ทล ตามขึ้นไปด้วยความเป็นห่วง ช่วยกันหิ้ว มารศาสนา ลงมา
จากนั้นเรียก ไอ้ต่อ สิทธิศักดิ์ พรหมหมื่นไวย์ และ ไอ้อู้ด พ.ต.ท.ศุภชัย ปักโคทานัง มาช่วยจนยอมรับสารภาพว่า ลักไป 50 กว่าวัด แล้วได้ของกลางมารวมกันเต็มเลย
มาแถลงข่าวครั้งแรกของ ผบ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี คือคดีที่ภาค 3 ก็เอาไปแถลงที่ ตร.ดังเลย พี่ประวุฒิ เป็นโฆษก ประวุฒิ ถาวรศิริ อันนี้แถลงครั้งแรก ที่ ตร.
ไม่น่าเชื่อนะ เราไม่น่าได้เลยแต่จับได้เฉย
เหมือนอะไรดลจิตดลใจ เห็นหน้ามันปุ๊บ ขึ้นไปเอาปืนจี้ลงมา ขึ้นไปคนเดียว มันอยู่กัน 4 คน จะบอกเป็นโชค เป็นดวงหรือไม่ อะไรก็ไม่รู้
คนร้ายแก๊งนี้เป็นขบวนการใหญ่ มีเครือข่ายทั่วประเทศ พฤติการณ์จะทำทีไปทำบุญที่วัดต่างๆ เพื่อดูลาดเลาก่อนลงมือโจรกรรม บางครั้งก็มีการโจรกรรมตามใบสั่ง
พระพุทธรูปที่โจรกรรมมาได้จะส่งจำหน่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ตรวจสอบประวัติคนร้ายแก๊งนี้มีคดีติดตัวกว่า 40 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีลักทรัพย์
สำหรับรายละเอียดวันแถลงข่าวคดีนี้ เมื่อวันที่18 มี.ค.54 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.ภ.3 และนายอนันต์ ชูโชติ ผอ.สำนักพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ แถลงจับกุมแก๊งโจรกรรมพระพุทธรูปโบราณ ประกอบด้วย นายอดิศร หรือ สิงห์ อายุ 44 ปี ชาวอ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และนายปราโมทย์ หรือโมทย์ อายุ 42 ปี อยู่ ซ.พระยามนธาตุ แยก 35 แขวงและเขตบางบอน กทม.
พร้อมของกลางพระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา อายุกว่า 500 ปี ถูกโจรกรรมจากวัดมะกอกศรีมาราม ต.รอบเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี พระพุทธรูป 6 รายการ ที่ถูกโจรกรรมจากพิพิธภัณฑ์วัดบัว อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา และเชิงเทียน เรือสุพรรณหงส์ ที่ถูกโจรกรรมจากวัดโคกสว่าง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ที่ตรวจยึดได้อีก 45 รายการ
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ได้รับการประสานจากกรมศิลปากรให้ติดตามหลวงพ่อเชียงแสน พระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา อายุกว่า 500 ปี ถูกคนร้ายโจรกรรมจากวัดมะกอกศรีมาราม ต.รอบเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 15 ม.ค.54สั่งการ พล.ต.ท. เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภ.3 เร่งจัดชุดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย และติดตามพระพุทธรูปดังกล่าวกลับคืน
กระทั่งวันที่ 9 มี.ค.54 พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.ภ.3 พ.ต.อ.ภาณุ บุรณศิริ รองผบก.สส.ภ.3 นำกำลังจับกุมนายอดิศร และนายปราโมทย์สอบสวนรับสารภาพร่วมกับนายชยพล หรือต๋อง นายพนม และน.ส.แอน บุญไชย ที่อยู่ระหว่างหลบหนี โจรกรรมพระของกลางและยังเคยร่วมกันโจรกรรมพระพุทธรูปจากวัดต่างๆ รวม 7 วัด
1.วันที่ 15 ม.ค.54 วัดมะออกศรีมาราม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี 2.วันที่ 5 พ.ย.53 พิพิธภัณฑ์วัดบัว อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา 3.เมื่อปี 52 วัดไม่ทราบชื่อใน จ.ขอนแก่น 4.เมื่อวันที่ 8 พ.ย.53 วัดกัลปพฤกษ์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร 5.เมื่อวันที่ 27 พ.ย.53 วัดปทุมวัน อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา 6.เมื่อวันที่ 16 ม.ค.54 วัดสัมปทาน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 7.เมื่อเดือน มี.ค.54 วัดชัยชนะวิหาร ,วัดโนนจาน อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ
หลังการแถลงข่าว พล.ต.อ.วิเชียรได้ส่งมอบหลวงพ่อเชียงแสนให้แก่นายธนิตย์ ฤทธิเจริญ ไวยาวัจกร วัดมะกอกศรีมาราม เพื่อนำกลับไปประดิษฐานไว้ที่วัด ขณะเดียวกัน นายธนิตย์ได้มอบช่อดอกไม้ให้แก่ พล.ต.อ.วิเชียร เพื่อขอบคุณตำรวจที่ติดตามพระพุทธรูปกลับคืนมาได้
นี่คือเบื้องหลังอีก1คดีที่“บิ๊กชัด”พิชิตได้ครับ
เฮียเก๋21/4/67
