Saturday, May 4, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน“บิ๊กเด่น” สั่งปรับโฉม ศปอส.ตร.

    “บิ๊กเด่น” สั่งปรับโฉม ศปอส.ตร.

     

    วันที่ 29 ตุลาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 458/2565 ลงวันที่ 21 ต.ค.65

    เรื่องการรับแจ้งความและการบริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการมอบหมายอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ”ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) “

    เนื่องจากปัจจุบันคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการกระทำความผิดที่หลากหลายซับซ้อนมากขึ้น เพื่อให้การดำเนินการรับแจ้งความและการบริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  ได้ออกคำสั่ง 20 ข้อ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.65 เป็นต้นไป

    คำสั่งดังกล่าว มีใจความสำคัญ อาทิ

    ขั้นตอนการปฏิบัติกรณีผู้แจ้งมาแจ้งความร้องทุกข์ หรือกล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่สถานีตำรวจหรือหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวน (Walk in)ขั้นตอนการปฏิบัติกรณีผู้แจ้งได้แจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์

    การกำหนดลักษณะคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้สถานีตำรวจหรือหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนรับผิดชอบทำการสอบสวน ดังนี้

    คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า ซื้อขายบริการ คดีข่มขู่หรือคุกคามทางเพศ คดีหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือข่มขู่คุกคาม คดีหลอกลวงให้โอนเงินที่ไม่มีลักษณะเป็นขบวนการ

    ให้สถานีตำรวจหรือหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนในสังกัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1-9 รับผิดชอบการสอบสวน

    คดีหลอกลวงเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน คดีหลอกลวงให้รักแล้วโอนเงิน คดีหลอกลวงให้รักแล้วลงทุน คดีข่าวปลอม คดีที่กระทำต่อระบบหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยผิดกฎหมาย คดีเรียกค่าไถ่ทางคอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม คดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่เป็นขบวนการ

    คดีหลอกลวงให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน คดีหลอกลวงเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล คดีหลอกลวงให้ลงทุนที่ไม่เข้าลักษณะฉ้อโกงประชาชน คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัลหรือสิทธิประโยชน์ คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า บริการ ข่มขู่คุกคาม หลอกโอนเงินที่เป็นขบวนการ หรือมีผู้เสียหายจำนวนมากหลายพื้นที่

    ให้หน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนในสังกัดตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รับผิดชอบการสอบสวน

    คดีหลอกลวงให้ลงทุนที่เข้าลักษณะฉ้อโกงประชาชน แชร์ลูกโซ่ คดีกู้เงินออนไลน์ที่เรียกดอกเบี้ยเกิดอัตรา คดีหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศ หรือค้ามนุษย์ที่มีลักษณะเป็นขบวนการ

    ให้หน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง รับผิดชอบทำการสอบสวน

    ทั้งนี้ให้ ศปอส.ตร. เป็นหน่วยรับแจ้งคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ และรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบวิเคราะห์ความเชื่อมโยงและลักษณะคดี ควบคุมระบบรับแจ้งความออนไลน์ ส่งเรื่องไปยังสถานีตำรวจ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ เพื่อให้พนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์หรือคำกล่าวโทษตามระเบียบและทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังได้ประชุมศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ครั้งที่ 8/2565 ประจำเดือนตุลาคม

    การประชุมครั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติ บูรณาการการทำงานร่วมกัน เสมือนว่าเป็น “สถานีตำรวจประเทศไทย” สามารถประสานการปฏิบัติกันได้โดยตรง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ให้มีผู้ประสานงานแต่ละสถานี ศูนย์ PCT, บก. และภาค

    นอกจากนี้ได้สั่งการให้ ผบช. และผบก.ให้ความสำคัญ และเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองทุกครั้ง โดยให้ประชุมติดตามงานในหน่วยอย่างน้อยเดือนละ2-4 ครั้ง

    ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ออกตรวจเยี่ยมเยียนสถานีตำรวจ กองบังคับการ ตรวจสอบกำกับดูแลให้มีการลงข้อมูลให้ครบถ้วน ถูกต้องเป็นปัจจุบัน และการดำเนินการของสถานีตำรวจในภารกิจหลัก และภารกิจสนับสนุนการปฏิบัติของสอท.และบช.ก. ซ

    ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับออกตรวจการปฏิบัติงานของหน่วยในสังกัดเพื่อรับทราบปัญหาข้อขัดข้องแล้วนำมาแก้ไขหากหน่วยปฏิบัติต่างๆ เกิดปัญหาข้อขัดข้องในระหว่างการปฏิบัติงาน สามารถเสนอปัญหา รวมทั้งข้อเสนอแนะมายังศปอส.ตร. ได้ตลอดเวลา

    กรณีผู้เสียหาย walk in ให้พนักงานสอบสวนแนะนำและช่วยเหลือให้ผู้เสียหายลงในระบบรับแจ้งความออนไลน์ทุกรายและให้สอบสวนปากคำผู้เสียหายตามคำสั่ง ตร.ที่ 468/2565 ลง 21 ต.ค.65 เรื่องการรับแจ้งความและการบริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบฯ

    หากตรวจพบว่าไม่มีการลงในระบบและสอบสวนปากคำผู้เสียหายตามนัยคำสั่งข้างต้น จะพิจารณาข้อบกพร่องหัวหน้าสถานีและผู้เกี่ยวข้อง

    ทั้งนี้ให้ผบช.สอท./เลขานุการศปอส.ตร. กำหนดแบบฟอร์ม สำหรับการตรวจกำกับดูแลของผู้บังคับบัญชาระดับ บช./ภ. บก./ภ.จว. เพื่อให้การกำกับดูแลในการรับแจ้งความออนไลน์เป็นไปแนวทางเดียวกัน

    พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรมจำหน่ายอาวุธปืนออนไลน์ ระหว่างวันที่ 10 ต.ค.-8 พ.ย. 65 แบ่งเป็น 3 ห้วง ดังนี้

    ห้วงแรกระหว่างวันที่ 10-19 ต.ค. 65

    ห้วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 20-29 ต.ค. 65

    ห้วงที่ 3 ระหว่างวันที่ 30 ต.ค.-8 พ.ย. 65

    โดยให้รายงานผลภาพรวมในวันที่ 9 พ.ย.65

    และให้ตำรวจช่วยกันประชาสัมพันธ์โครงการที่สร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของตร. เช่น โครงการไซเบอร์วัคซีน โครงการประสานความร่วมมือกับบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด โครงการประสานความร่วมมือกับเครือเจริญโภคภัณฑ์

    เพื่อให้ประชาชนทราบถึงภัยออนไลน์ และวิธีการป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อและรู้เท่าทันกลโกงของคนร้าย และให้ฝ่ายเลขานุการ ศปอส.ตร. จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานฝ่ายสืบสวน และสอบสวน ของ สอท.และศูนย์ PCT ภาค และ บก. เพื่อสร้างครูแม่ไก่ในแต่ละภาค กองบังคับการ ไปอบรมกับพนักงานสอบสวน และฝ่ายสืบสวนในระดับสถานีต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments