Friday, April 19, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันบิ๊กแป๊ะสั่ง ห้ามตร.ลา ขาด ช่วงปีใหม่

    บิ๊กแป๊ะสั่ง ห้ามตร.ลา ขาด ช่วงปีใหม่

    บิ๊กแป๊ะ สั่งตำรวจ ห้ามลา ห้ามขาด ผู้บังคับบัญชาลงไปกำกับ เคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้องดูแลประชาชน ห้วงเทศกาลหยุดยาวปีใหม่2563 พร้อมคาดโทษหากนายใดไม่ปฎิบัติตาม

    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ในห้วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2563 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และต้องการให้ประชาชนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย อีกทั้งได้เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่พร้อมครอบครัวอย่างมีความสุข ปลอดภัย

    โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามลา ข้ามขาด ให้อยู่ปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ ผู้บังคับบัญชาลงไปกำกับพร้อมเคียงบ่าเคียงไหล่ผู้ใต้บังคับบัญชาในการทำงานดูแลประชาชน พร้อมคาดโทษหากนายใดไม่ปฎิบัติตาม

    อีกทั้ง ผบ.ตร. ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ทุกพื้นที่ในการดูแลประชาชนห้วงเทศกาลหยุดยาวปีใหม่2563

    มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะกำกับดูแลศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ,

    พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงไปกำกับดูแลการปฎิบัติของตำรวจทั่วประเทศ เตรียมพร้อมในการอำนวยความสะดวกการจราจร

    ลดอุบัติเหตุและนำจิตอาสาร่วมปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกการจราจรให้แก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวในต่างจังหวัดให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด

    มุ่งเน้นการลดการเกิดอุบัติเหตุการบาดเจ็บ การสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ในช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2563 

    โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ จัดกำลังดูแลการเดินทาง โดยบูรณาการกับทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ตามด่านตรวจ จุดบริการ อยู่ตลอดทุกเส้นทางสำคัญ

    ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือสัญจรไปมา หากพบประสบปัญหาในเรื่องของการเดินรถ เส้นทางการใช้รถใช้ถนน พบเจออุบัติเหตุบนท้องถนน หรือพบเห็นเหตุการณ์ที่คิดว่าน่าจะเป็นภัยต่อสังคม

    แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเส้นทางการเดินรถ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอำนวยความสะดวก และเติมเต็มความสุขให้พี่น้องประชาชนตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่

    การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร ในช่วงที่มีประชาชนออกเดินทางจำนวนมาก  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดเตรียมความพร้อมด้านกำลังพล อุปกรณ์เครื่องมือ และระบบการสื่อสาร เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ประชาชนสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกและปลอดภัย 

    รวมถึงการจัดการจราจรติดขัดบริเวณทางแยก และหน้าสถานีบริการน้ำมันหรือจุดแวะพักรถที่มีผู้เข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการจราจรบนเส้นทางหลัก 

    มีศูนย์ควบคุมสั่งการจราจรอยู่ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง หมายเลขสายด่วน 1193 หรือดาวน์โหลด line application @highway1193

     ไว้สำหรับสอบถามเส้นทาง แจ้งอุบัติเหตุ รับข้อมูลประชาสัมพันธ์เส้นทาง พร้อมทั้งได้มีการดำเนินการในการอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการใช้รถและถนนสำหรับประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนี้

    1.ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ได้ออกข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร ว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปเดินในถนนบางสาย (ระหว่าง 27 ธ.ค.62 – 3 ม.ค.63)

    เส้นทางห้ามวิ่ง 5 เส้นทาง ระยะทางรวม 139 กม. ได้แก่ 1.มิตรภาพ:ทับกวาง– คลองไผ่ กม.15-93 ระยะทาง 78 กม.

    2. กบินทร์บุรี-ปักธงชัย: กบินทร์ฯ-นาดีกม.165-195 ระยะทาง 30 กม.

    3. อรัญประเทศ-นางรอง ทัพราช กม.71-80 ระยะทาง 9 กม.

    4.พหลโยธิน: นครสวรรค์ กม.332-347 ระยะทาง 15 กม.

    5.รังสิโยทัย (ทล.117) : นครสวรรค์ กม.0-7 รวมระยะทาง 7 กม.

    ในกรณีรถบรรทุกบางประเภทที่มีความจำเป็นต้องเดินรถในถนนดังกล่าวข้างต้น สามารถขออนุญาตหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดนั้นๆ (ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด)

    2.ออกข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร ว่าด้วยการกำหนดช่อง หรือแนวทางเดินรถขึ้นและล่องในถนนบางสาย (ขาขึ้น 9 จุด ระหว่าง 21 -31 ธ.ค.62 และขาล่อง 16 จุด ระหว่าง (1 – 3 ม.ค.63) ใช้เป็นช่องทางพิเศษ เพื่อระบายรถช่วงที่หนาแน่นให้คล่องตัว (Reversible Lane)

    3.การประชาสัมพันธ์ข้อมูลเส้นทางเลี่ยงของถนนสายต่างๆ ทั้ง 4 ภาค (ภาคเหนือ อีสาน ตะวันออกและใต้)  ตามภาพ Infographic ที่ได้แจกจ่ายแล้ว

    อีกทั้งได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยบังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลัก (10 รสขม) และ พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551  อย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง โดย 10 ข้อหาหลัก

    (10 รสขม) ได้แก่ 1ร – ขับขี่รถโดยใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ,

    2ส – ขับขี่รถย้อน- ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร, 

    3ข – ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย – ไม่มีใบขับขี่ – แซงในที่คับขัน ,

    4ม – ขับขี่รถในขณะเมาสุรา – ไม่สวมหมวกนิรภัย   – ไม่ขับขี่รถจยย.ดัดแปลง- ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่รถ เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่อาจเกิดขึ้น และอาจนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน ทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น

    ทั้งนี้ ตร. ได้กำชับให้เข้มงวดในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ทุกราย กรณีมีเหตุ อันควรสงสัยหรือเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามโครงการ “ขับขี่ปลอดภัย มั่นใจ ไร้แอลกอฮอล์” 

    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข และกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) และร่วมกับขนส่งทางทางบก 

    ตรวจสอบความปลอดภัยรถตู้ และรถโดยสารสาธารณะ ที่สถานีขนส่งรถโดยสารทั่วประเทศและมีการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ จะต้องปราศจากแอลกอฮอล์และสารเสพติด ตรวจสอบชั่วโมงการขับรถจากสมุดประจำรถอย่างต่อเนื่อง 

    นอกจากนี้ ตร.เน้นการบูรณาการกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้กลไกการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ซึ่งจะมีการประชุมทุกวันเวลา09.00น. 

    เพื่อหารือแนวทางการลดอุบัติเหตุร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย เช่น ฝ่ายปกครอง กรมทางหลวงองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วกำหนดจุดเสี่ยง เพื่อตั้งจุดตรวจบริเวณจุดที่มีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง 

    โดย ตร.จะมีการประชุมกับพื้นที่ในช่วงบ่ายกรณีมีข้อสั่งการเพิ่มเติม หรือพื้นที่มีอุบัติเหตุสูงกว่ากำหนด

    โดยช่วงเทศกาลดังกล่าว มีการนำจิตอาสาร่วมปฏิบัติในช่วงเทศกาล โดยศูนย์อำนวยการจิตอาสา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.จอส.(ตร.)) บูรณาการ สำหรับในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563 ที่จะมาถึงนี้  เพื่อบริการและอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments