นโยบายรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดในช่วงโควิด -19
พล.ต.อ.จักรทิพย์. ชัยจินดาผบ.ตร.,พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(ปป),สั่งการรับมือการส่งสินค้าพัสดุไปรษณีย์ทั้งใน และต่างประเทศ โดยบูรณาการร่วมกับทีมงาน AITF ( บช.ปส., ปปส, ศุลกากร และ ศรภ)
วันที่ 20 ส.ค.63 เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. นายนิยม เติมศรีสุข และ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.
พล.ต.ต.พรชัย. เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.วัชระ. ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.อดิศ. เจริญสวัสดิ์ พ.ต.อ.ธีรเดช. ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3
นำกำลังสยบไพรี ,บก.ปส.3 และจนท.สำนักงาน ปปส. จับกุมผู้ต้องหาคือ
นายเกรียงไกร อายุ 32 ปี ชาวจ.นครสวรรค์
พร้อมยึดของกลาง เฮโรอีน 75 กก.
ซุกซ่อนในอะไหล่รถยนต์กำลังส่งออกไปประเทศไต้หวัน
พฤติกรรมในคดี ทีมงาน AITF ( บช.ปส., ปปส, ศุลกากร และ ศรภ) การสืบสวนกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติ ว่า นายเกรียงไกรฯ ได้ติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อให้ส่งพัสดุไปยังไต้หวัน ผ่านทางเรือ
จากการตรวจสอบพบว่าพัสดุดังกล่าวเป็นอะไหล่รถยนต์ 7ชิ้น. หน่วยงาน AITF ประกอบด้วย บก.ปส.3 บช.ปส. ศุลกากร ศรภ. พร้อมอุปกรณ์เครื่องเอ็กซเรย์เคลื่อนที่ ตรวจสอบฯ พบวัตถุแปลกปลอมอยู่ภายใน
เปิดออกดูด้านในพบแท่งเฮโรอีน 200 แท่ง น้ำหนัก 75 กก. ได้ร่วมตรวจยึด และสืบสวนขยายผลเมื่อเข้ามาแสดงตนว่าเป็นผู้จัดส่งสินค้าดังกล่าว
ต่อชุดจับกุมพบนายเกรียงไกร เข้ามาที่บริษัทเพื่อเซ็นเอกสารหลักฐานในการจัดส่งสินค้า จึงได้จับกุม
โดยกล่าวหาว่า “พยายามส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สถานที่จับกุม บริเวณบริษัทส่งออกแห่งหนึ่งย่านท่าพระ แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.
ผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้รับจ้างให้ส่งสินค้าไปต่างประเทศ ประมาณ 6 ครั้งในรอบ2 เดือน ในราคาครั้งละ 10,000 บาท