Thursday, April 18, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันปส.แถลงจับยาเสพติดส่งท้ายบิ๊กป๋อขึ้นผู้ช่วย

    ปส.แถลงจับยาเสพติดส่งท้ายบิ๊กป๋อขึ้นผู้ช่วย

    ปส.ทลายเครือข่ายกัญชาเจ๊อ้อยเดลิเวอรี่-สกัดจับพัสดุต้นทางเมืองเบียร์ซุกยาอี-ล่อซื้อแก๊งขายยาไอซ์ออนไลน์

    สายวันที่ 29 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.

    พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบช.ปส.3 พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ และ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3

    แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดหลายคดี พร้อมยึดของกลางยาบ้า 2,004,000 เม็ด ไอซ์ 23.5 กิโลกรัม ยาอีหรือเอ็กซ์ตาซี่ 57,160 เม็ด เคตามีน 20 กิโลกรัม และยึดทรัพย์สินได้รวมค่ากว่า 19 ล้านบาท

    พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า คดีแรกจับกุม น.ส.อทิตยา หรืออ้อย อายุ 36 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 406/2563 ข้อหาร่วมกันครอบครองกัญชาไว้ขายโดยผิดกฎหมาย

    จับกุมได้ที่ปั๊มน้ำมันริมถนนเลี่ยงเมืองแยกคำน้ำแซบ มุ่งหน้าเข้าเมืองอุบลราชธานี หลังจาก บก.ปส.2 สืบสวนขยายผลการจับกุมเครือข่ายลักลอบขนกัญชาจากพื้นที่ภาคอีสานเข้าประเทศเพื่อส่งออกไปประเทศที่ 3

    ในห้วง 1 ปีที่ผ่านมา ได้จับกุมเครือข่ายนี้ 5 ครั้ง กัญชา 1,500 กก.ล่าสุดสืบสาวถึงผู้สั่งการคือเจ๊อ้อย กัญชาเดลิเวอรี่ รวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ

    พร้อมยึดทรัพย์สินเป็นบ้าน 1 หลัง รถยนต์ 5 คัน รวมค่ากว่า 7 ล้านบาท ก่อนติดตามจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายที่เหลือต่อไป

    คดีต่อมาจับกุม น.ส.ผุสชา  อายุ 22 ปี และนายสัชฌุกร อายุ 40 ปี พร้อมไอซ์ 700 กรัม ยาอี 160 เม็ด ยาบ้า 4 พันเม็ด บัตรกดเงินสด 12 ใบ

    ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ครอบครองเพื่อขาย หลังจากตำรวจเปิดปฏิบัติการสยบไพรี 10/2563 เมื่อวันที่ 14 พ.ค.63 ได้จับกุมนายวัฒนา กับพวกซึ่งเป็นผู้ลอบขายยาเสพติดผ่านไลน์

    ทราบว่ามีผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อ “WEE” คือนายสัชฌุกร พักอยู่คอนโดมิเนียมย่านพระราม 9 รวบรวมหลักฐานเข้าตรวจค้นจับกุมได้ที่สุด

    ยึดของกลางเป็นรถยนต์เบนซ์ ราคา 1.5 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่น 5 ล้านบาทเศษ ก่อนคุมตัวดำเนินคดี

    อีกคดี บก.ปส.2 ตรวจยึดรถกระบะได้ที่ปั๊มน้ำมัน ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบยาบ้า 2 ล้านเม็ด ซุกซ่อนภายใน ยึดเป็นของกลางก่อนติดตามสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

    พล.ต.ต.วัชระ กล่าวต่อว่า คดีต่อมา บก.ปส.3 จับกุม น.ส.พัชรา หรือกุ้ง อายุ 37 ปี น.ส.นิตยา หรืออ้อม อายุ 40 ปี และนายมิเคลลี่ จอห์น อายุ 32 ปี

    พร้อมยาอี 7 พันเม็ด แจ้งข้อหาร่วมกันนำยาอีเข้าประเทศและมีไว้ครอบครองเพื่อขาย หลังตรวจพบพัสดุระหว่างประเทศต้องสงสัยซุกซ่อนยาเสพติด ต้นทางประเทศเยอรมนี

    เมื่อแกะตรวจพบยาอี 7 พันเม็ด จึงสืบสวนขยายผลก่อนจับกุม น.ส.พัชรา ได้ที่อาคารที่พัก ถ.ช่างอากาศอุทิศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ

    จับกุม น.ส.นิตยา ได้ที่ลานจอดรถศูนย์การค้าย่านบางนา กรุงเทพฯ และจับกุมนายมิเคลลี่ ผู้ว่าจ้าง 2 ผู้ต้องหาสาว ได้ที่ย่านประเวศ กรุงเทพฯ คุมตัวดำเนินคดี

    คดีต่อมาจับกุมนายสุพล หรือแมว อายุ 32 ปี พร้อมไอซ์ 2 กิโลกรัม ได้ที่บริษัทรับส่งพัสดุระหว่างประเทศ ใน ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย

    หลังสืบทราบว่ามีผู้เตรียมลอบส่งยาเสพติดออกนอกประเทศโดยมีปลายทาง ประเทศอิสราเอล เฝ้าติดตามผู้ต้องสงสัยคือนายแมว พบว่ากำลังถือพัสดุต้องสงสัยไปยังบริษัทจัดส่งดังกล่าวจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบของกลางเป็นไอซ์ จึงแจ้งข้อหาดำเนินคดี

    พล.ต.ต.วัชระ กล่าวอีกว่า บก.ปส.3 ยังจับกุม น.ส.อินธิลา อายุ 38 ปี ในข้อหาสมคบกัน 2 คนขึ้นไปกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดโดยกระทำผิดตามที่สมคบกันแล้ว ได้ที่บ้านพักในพื้นที่แม่สาย จ.เชียงราย

    หลังจากตำรวจ สภ.เมืองพังงา จับกุมนายไพวัลย์ ในความผิดเกี่ยวกับยาบ้า เมื่อปี 2561 แล้วขยายผลทราบว่านายไพวัลย์ สั่งยาบ้ามาจากนายทุนทางภาคเหนือชื่อเจ๊หวาน

    ตำรวจจึงให้นายไพวัลย์ ล่อซื้อยาบ้าจากเจ๊หวานจำนวน 2 แสนเม็ด ต่อมามีนายอิสดอแระ และ น.ส.นันท์กัส นำยามาส่งจึงจับกุมดำเนินคดี

    แต่ตำรวจยังคงสืบสวนติดตามพฤติกรรมเครือข่ายเรื่อยมา จนทราบว่าเจ๊หวาน คือ น.ส.นัน คำอ้น หรือ อินธิลา จึงรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับกุมพร้อมยึดทรัพย์สินเป็นบ้านและรถยนต์กว่า 7 ล้านบาท ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย

    นอกจากนี้ บก.ปส.3 ยังตรวจยึดพัสดุจากประเทศเยอรมนี ต้องสงสัยเป็นยาเสพติด ได้ที่จุดคัดแยกไปรษณีย์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

    พบเป็นถุงบรรจุกาแฟและขนม ซุกซ่อนยาอีกกว่า 5 หมื่นเม็ด ยึดไว้สืบหาตัวผู้ส่งหรือรับพัสดุนี้ต่อไป

    อย่างไรก็ตาม ในการจับกุมที่ผ่านมาพบว่าคนร้ายมักซุกซ่อนพัสดุใส่ถุงชา แต่ระยะหลัง เริ่มเปลี่ยนเป็นถุงอื่นๆ และถุงเวย์โปรตีน รวมถึงการผ่าก้อนสบู่ซุกซ่อนเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

    ด้าน พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวทิ้งท้ายก่อนอำลาตำแหน่งว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด พบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดเปลี่ยนพฤติกรรมไปขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น

    อีกทั้งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่ามีการลักลอบส่งออกและนำเข้ายาเสพติดมากพอสมควร

    ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ตำรวจ ปส.ได้รับความร่วมมือในการบูรณาการกำลังปราบปรามยาเสพติดร่วมกันหลายหน่วย มีการติดตามจับกุมและยึดทรัพย์สินผู้ต้องหาคดีเก่ามากมายเป็นผลงานให้สังคมได้เห็นเป็นที่ประจักษ์

    พล.ต.ท.วิสนุ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตร.ได้วางมาตรการด้านความร่วมมือกับผู้ประกอบการรับส่งพัสดุโดยให้ตรวจสอบบัตรประชาชน ถ่ายรูปให้เห็นหน้าชัดเจน ต้องระบุชื่อผู้รับส่งชัดเจน และให้ช่วยกันสอดส่องใครที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยอีกทางหนึ่ง

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments