Wednesday, May 22, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันปอท. Lockdown the Cat ล้างบาง2เครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์

    ปอท. Lockdown the Cat ล้างบาง2เครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์

    ผบช.ก.แถลงตำรวจ ปอท. เปิดปฏิบัติการ Lockdown the Cat ปิดประตูข้ามแดน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ล้างบางสองเครือข่ายใหญ่ พร้อมเผยไล่ปิดลิ้งค์ปลอมที่ใช้หลอกลวงประชาชนไปแล้วเกือบ 5 พัน ucl

    วันที่ 29 เม.ย.67 ที่ ห้องประชุมชั้น 2 บก.ป. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รายใหญ่ 2 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้รวม 6 คน พร้อมของกลางจำนวนมาก

    พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า  คดีแรก เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปอท.  จับกุม นายเฉิน อายุ 32 ปี ชาวจีน และ นายอนันต์ อายุ 44 ปี สองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันทุจริตโดยนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, สมคบฟอกเงิน”

    ของกลาง เงินสด 11 ล้านบาท, คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง, โทรศัพท์ 7 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 8 เล่ม, บัตรกดเงินสด 13 ใบ, รถยนต์ 5 คัน เครื่องนับเงินสด 1 เครื่อง และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 42 ล้านบาท จับนายเฉิน ได้ ที่ บ้านหรูย่านถนนราชพฤกษ์ แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ส่วน นายอนันต์ จับกุมตัวได้ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา

    พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. กล่าวว่า  เมื่อช่วงปลายปี 2566 ได้มีการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สร้างเว็บไซต์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ปลอมขึ้นมาหลอกลวงเงินผู้คน  ครั้งนั้นจับกุมผู้กระทำผิดได้  5 ราย ก่อนจะขยายผลเรื่อยมา กระทั่งทราบว่าทำกันเป็นขบวนการใหญ่ ยังมีผู้ร่วมขบวนการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องคนอื่นๆอีกหลายราย

    โดยเฉพาะนายเฉิน กับ นายอนันต์ ผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการกระเป๋าดิจิทัลที่ใช้ในการทำผิด และ คอยแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลให้กลายเป็นเงินสดเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายเงินของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์

    รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 8 จุด แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 4 จุด, สมุทรปราการ 2 จุด ฉะเชิงเทรา 2 จุด และ นครราชสีมา 1 จุด จนจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง  นอกจากนี้ยังเชิญตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบปากคำอีก 5 ราย

    “จากการสอบสวน นายเฉิน กับ นายอนันต์ ให้การปฏิเสธ แต่จากตรวจสอบโทรศัพท์มือถือที่ตรวจยึดได้จากนายเฉิน พบว่ามีการใช้แอปพลิเคชันหนึ่งในการบริหารจัดการกระเป๋าดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวนหลายใบ มียอดเงินหมุนเวียนของกระเป๋ารวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท รวมถึงมีข้อมูลตรงกับระบบรับแจ้งความออนไลน์ กว่า 30 คดี” ผกก.2 บก.ปอท. กล่าว

    รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า นายเฉิน ถือเป็นกุญแจสำคัญของขบวนการดังกล่าว จะทำหน้าที่ฟอกเงินแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิตอลเป็นเงินสกุลต่างๆ ให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีฐานปฏิบัติการในประเทศกัมพูชา อีกทั้งตัวนายเฉิน ยังใช้ชื่อของบุคคลอื่นที่มีสัญชาติไทยในการทำธุรกรรมเพื่อซื้อและถือครองทรัพย์สินหลายรายการด้วยเงินสด อาทิเช่น บ้านเดี่ยว 2 ชั้น, ที่ดิน, รถยนต์และทรัพย์สินมีค่าเครื่องประดับ

    อีกทั้งจากการตรวจสอบวีซ่าของ นายเฉิน ยังพบว่าเป็น วีซ่าประเภท อีลิท การ์ด แพคเกจแบบ 5 ปี และในวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ยังพบภรรยาชาวจีนของ นายเฉิน พักอาศัยอยู่ด้วยกันกับ ลูก 3 คน โดย นายเฉิน ได้ให้ภรรยาจดทะเบียนสมรสกับชายไทยและให้ชายไทยคนดังกล่าวรับเป็นบิดาของลูกทั้ง 3 คน  มีจุดประสงค์เพื่อให้ลูกที่เกิดมาได้รับสัญชาติไทยอีกด้วย

    อีกคดี พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จับกุมขบวนการลักลอบขนทีมงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข้ามพรมแดนธรรมชาติ บริเวณ อ.อรัญประเทศ ประกอบด้วย นายเชง อายุ 31 ปี ชาวจีน ในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย”ตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของตำรวจสากล (Red Notice) ในความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ความเสียหายกว่า 40 ล้านหยวน ,

    และ ร.ต.ท.อังคะ  อายุ 70 ปี อดีตตำรวจ , นายดาเล็ก อายุ 35 ปี และ นายซุ่น อายุ 31 ปี ทั้งสอง ชาวกัมพูชา  ตามหมายจับ “ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรฯ”

    จับกุมนายเซง ชาวจีน ได้บนทางหลวงหมายเลข 33 อ.เมืองสระแก้ว ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือจับได้ที่ตลาดโรงเกลือ ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

    พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์  กล่าวว่า สืบเนื่องจากศูนย์ AOC: Anti Online Scam Operation Center กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้สืบสวนเกี่ยวกับการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อนำไปใช้ในการกระทำความผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

    โดยพบว่ามีนายหน้าเข้าไปติดต่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ จ.สระแก้ว ให้เปิดบัญชีธนาคารแบบออนไลน์และเดินทางข้ามชายแดนไทยกัมพูชา เพื่อไปทำสแกนหน้ารับโอนเงิน เมื่อมีเงินจากผู้เสียหายโอนเข้ามาที่บัญชีม้าและทำรายการโอนเงินให้กับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

    พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์  กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนพบว่า บุคคลที่ถูกว่าจ้างให้ไปเปิดบัญชีม้าเหล่านี้ จะเดินทางออกไปจากไทย ด้วยเส้นทางธรรมชาติบริเวณตลาดผลไม้ (ภายในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ) ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และยังพบว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีการเดินทางออกไป เฉลี่ยวันละ 60-70 คน

    มีนายทุนชาวกัมพูชาชื่อ “ดาใหญ่” เป็นผู้เก็บเงิน ครั้งละ 3,000 บาทต่อคนต่อครั้ง  นอกจากนี้ตรวจสอบพบอีกว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางเดียวกันกับที่ชาวจีน ซึ่งเป็นเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้ในการหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยอีกด้วย

    พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์  กล่าวอีกว่า  เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตการณ์เรื่อยมา กระทั่งพบว่ามีกลุ่มชาวจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์  ลักลอบเข้ามาในไทยผ่านเส้นทางดังกล่าวจริง  ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสกัดจับนายเชง ขณะกำลังนั่งรถรับจ้างเดินทางไป กทม. เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศลาว

    จากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนพบว่า เป็นบุคคลที่มีการออกหมายจับของตำรวจสากล (Red Notice Interpol) และรัฐบาลจีนต้องการนำตัวกลับไปดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งในส่วนนั้นมีผู้เสียหาย  121 ราย คิดเป็นความเสียหายกว่า 40 ล้านหยวน 

    พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์  กล่าวด้วยว่า  ตรวจสอบทราบว่า นายเซง มีหน้าที่วางแผนทางการเงินของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การจัดการองค์กรและการฟอกเงิน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำตัวส่ง สภ.เมืองสระแก้ว ดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และผลักดันตัวคนร้ายเพื่อไปดำเนินคดีต่อในประเทศจีน

    ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือพบว่ามีหน้าที่รับจ้างนำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลักลอบเข้าประเทศกัมพูชา ทางช่องทางธรรมชาติ โดยคิดค่าหัวคนละ 3,000 บาท ก่อนนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ดำเนินการตามกฎหมาย จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัว นายดาใหญ่ ที่ยังหลบหนี มาดำเนินคดีต่อไป

    พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อปลายปี 66 จนถึงวันที่ 28 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC) ได้ปิดกั้นลิงก์ปลอมประกอบด้วย ลิ้งค์ปลอมบุคคลที่มีชื่อเสียง 1664 ucl ลิ้งค์ปลอมหน่วยงานรัฐ 1030 ucl ลิ่งปลอมหน่วยงานที่ไม่มีอยู่จริง 1911 ucl ลิ้งปบอมองค์กรเอกชน 380 ucl และลิ้งค์ปลอมอื่นๆ 10 ucl รยมที่ปิดไปแล้ว 4995 ucl ซึ่งการปิดลิ้งค์ปลอมเหล่านี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและปิดลิ้งค์ปลอมที่หลอกลวงประชาชนต่างๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว พล.ต.ท.จิรภพ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ศูนย์ AOC กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมตัวแทนจากธนาคารพาณิชย์ ยังได้ส่งมอบเช็คเงินสดจำนวน 1.8 ล้านบาท กลับคืนให้กับคุณยายผู้เสียหาย หลังสามารถให้การช่วยเหลืออายัดเงินจำนวนดังกล่าวได้ทันเวลาขณะกำลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเงินด้วย

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments