รวบเครือข่ายอุ้มบุญข้ามชาติลักลอบขนน้ำเชื้ออสุจิข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สร้างสัญชาติใช้ฟอกเงินจีนเทา
วันที่ 24 ก.พ.67 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. จับกุม นายธีระพงษ์ อายุ 33 ปี ข้อหาเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นนำหรือพาของต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่น นำเข้าหรือส่งออกอสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน ออกไปนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” จับได้ที่หน้าบ้านพัก ในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2560 เจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคายได้สกัดจับกุมแก๊งลักลอบขนถังไนโตรเจน ข้างในบรรจุเชื้ออสุจิมนุษย์แช่แข็ง 6 หลอด กำลังจะนำข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว จากนั้นจึงขยายผลเรื่อยมา
ก่อนทราบว่าทำกันเป็นขบวนการใหญ่ มีกลุ่มนายทุนจีนอยู่เบื้องหลังว่าจ้างให้ลักลอบนำเชื้ออสุจิ ออกไปส่งให้กับคลินิกมีบุตรยากที่ฝั่ง สปป.ลาว และกัมพูชา เพื่อนำมาผสมกับไข่ของหญิงชาวลาวหรือชาวกัมพูชาที่รับจ้างอุ้มบุญ หวังผลให้เด็กที่เกิดมาได้รับสัญชาติจากผู้รับจ้างอุ้มบุญ
ทั้งนี้เพื่อหวังผลทางกฎหมายนำมาใช้เป็นกลไกในการฟอกเงินจากกลุ่มจีนเทาอีกรูปแบบหนึ่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ต่อมาชุดจับกุมสืบพบเบาะแสว่า นายธีระพงษ์ หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมงานลักลอบขนน้ำอสุจิ ข้ามไปส่งยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันหนีมาอยู่ใน จ.นนทบุรี จึงนำกำลังตามจับกุมตัวได้
สอบสวนรับสารภาพว่าอยู่ร่วมในขบวนการดังกล่าวจริง ทำหน้าที่คอยควบคุมทีมงานให้นำน้ำเชื้ออสุจิ ไปส่งตามคลินิกฝั่ง สปป.ลาว และกัมพูชา ทำมาตั้งแต่ปี 2557 ถึงปี 2560 รับส่งตัวอ่อนครั้งละประมาณ 100 หลอด ได้ค่าจ้างหลอดละ 10,000 – 15,000 บาท
นอกจากนี้นายธีระพงษ์ ยังยอมรับอีกว่า สาเหตุที่ไม่มีการฝากอุ้มบุญในไทยเนื่องจาก การขออนุญาตเป็นเรื่องยากและเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ส่วนทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีกฎหมายรองรับ ทำได้ง่ายกว่า และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่ามาก นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินคดีต่อไป
