วันที่ 25 ธ.ค.64 .พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายมานะ อายุ 50 ปี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จับได้ภายในซอยรามอินทรา34 แยก 22 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
ช่วงระหว่างปี 2561-2562 นายมานะ ร่วมกับพวกคนไทยและชาวเวียดนาม อ้างตัวเป็นนักค้าเงินสกุลดิจิทัล หรือคริปโตเคอเรนซี่ ทำกันเป็นขบวนการมีทั้งคนเปิดบัญชี คนเจรจาหลอกลงทุน และคนคุมเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด
ในส่วนของนายมานะ เปรียบเหมือนหัวหน้าขบวนการ มักอ้างตัวเป็น “พ่อมด คริปโตเคอเรนซี่” (ผู้ที่ชำนาญด้านการค้าเงินสกุลดิจิตอล) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ให้กับกลุ่มผู้เสียหายร่วมลงทุนในเงินสกุลดิจิตอลต่างๆ ได้ง่าย
รวมถึงยังอ้างว่าหากนำเงินมาร่วมลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสูง กำไรดี เช่น ลงทุนเงินเพียง 200 วัน จะได้กำไรทันที 400 % เป็นต้น
นอกจากนี้แก๊งของนายมานะ ยังมีพฤติการณ์ชักชวนกลุ่มผู้เสียหายให้ลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลสกุลเงินวันคอยน์ อ้างว่าได้เปิดร้านขายสินค้าบนแพลตฟอร์มการซื้อขายสินค้าขึ้นมา เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้มีการซื้อขายสินค้าโดยใช้เงินดิจิตอลสกุลวันคอยน์โดยเฉพาะ
ในแพลตฟอร์มดังกล่าวจะมีสินค้าลงประกาศขายด้วยกันหลายรายการ อาทิ บ้านพักอาศัย, รถยนต์, ที่ดิน, ทองคำ, อาหารเสริม, เครื่องสำอาง และเสื้อผ้า การลงทุนเหล่านี้นายมานะยังอ้างว่า ผู้ลงทุนจะได้รับอัตราค่าตอบแทนสูง และมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เช่น แลกสินค้าต่างๆ, แลกทองคำ, แลกรถเบนซ์ หรือแลกบ้านเดี่ยว เป็นต้น
ทำให้ประชาชนจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ หลงเชื่อ ร่วมลงทุนไปรวมเป็นเงินกว่า 500 ล้านบาท ช่วงแรกมีการจ่ายเงินปันผลจริง แต่ต่อมาเมื่อเห็นว่าเหยื่อมากขึ้นเริ่มออกลายไม่จ่ายค่าตอบแทน ก่อนจะตัดขาดการติดต่อหนีไปในที่สุด
กลุ่มผู้เสียหายจึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความตามท้องที่ต่างๆจนมีการออกหมายจับ ก่อนจะถูกตำรวจกองปราบปราม จับกุมตัวได้เมื่อปลายปี 2562
หลังถูกจับกุม คดีเข้าสู่ชั้นศาลนายมานะ ได้ยื่นขอประกันตัวสู้คดี แต่เมื่อได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว กลับหลบหนีการพิจารณาในชั้นศาล จนทำให้มีการออกหมายจับตามมา กระทั่งมาถูกตำรวจกองปราบปรามฯตามจับได้อีกครั้ง
สอบถามนายมานะ ให้การปฏิเสธ ตรวจสอบประวัติพบยังมีหมายจับในคดีลักษณะเดียวกันติดตัวอีก 14 หมายจับ นำตัวส่งศาลจังหวัดพิจิตร ดำเนินการต่อไป