ป.รวบลูกเขยปืนโหด ยิงเมียกับพ่อตาดับคาบ้าน เผยชนวนเหตุ ถูกหลอกแต่งงาน บอกอยู่เดี๋ยวก็รักกันเอง แต่เอาเข้าจริง อยู่กินกันมา 1 ปี ได้หลับนอนกันแค่ครั้งเดียว สุดท้ายฝ่ายเมียหนีกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว ตามไปง้อกลับถูกด่า บันดาลโทสะก่อเหตุไปเพราะอารมณ์ขั่ววูบ
จากกรณีเหตุนายสมหมาย อาสากูล อายุ 34 ปี ลูกเขยโหด ใช้ปืนสั้น ชนิดลูกโม่ ขนาด .38 ก่อเหตุยิงน.ส.อรณี ยอดสว่าง อายุ 25 ปี ภรรยา และใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงนายสำเนา ยอดสว่าง อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นพ่อตา เสียชีวิตหลังจากตามง้อขอคืนดีกับภรรยาไม่สำเร็จ เหตุเกิดที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 76 บ้านหนองมะค่า ม.14 ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา01.45 น. วันที่ 17 เม.ย. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุมนายสมหมาย อาสากูล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ม. 14 ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ตามหมายจับศาลอาญาจังหวัดนางรอง ที่ 67/2561 ลงวันที่13 เม.ย. ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จับได้ภายในห้องเช่าไม่มีเลขที่ ม.12 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้ก่อเหตุมีปัญหากับครอบครัวผู้ตาย หลังแต่งงานครอบครัวฝ่ายภรรยาได้กีดกันไม่ให้ยุ่ง ด้วยความสงสัยและน้อยใจ วันก่อเหตุจึงเดินทางมาคุยกับครอบครัวฝ่ายภรรยาและก่อเหตุดังกล่าว หลังก่อเหตุได้ขึ้นรถหนีมาที่กบินทร์บุรี ทั้งนี้จากการตรวจสอบภายในห้องเช่าของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่พบจดหมายลาตายเขียนวางไว้ในห้องพักด้วย คาดว่าหากเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ช้ากว่านี้น่าจะก่อเหตุฆ่าตัวตาย ส่วนปืนที่ใช้ยิงมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแต่เป็นของพ่อนายสมหมายเอง
จากการสอบสวน นายสมหมาย ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง วันเกิดเหตุได้ไปตามง้อปรับความเข้าใจกับ น.ส.อรณี ภรรยาแต่ไม่เป็นผล พร้อมทั้งถูกด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรงเหมือนกับรำคาญ จึงเกิดบันดาลโทสะ ใช้อาวุธปืนของพ่อที่แอบขโมยมายิงใส่ น.ส.อรณี จนเสียชีวิต ระหว่างนั้นนายสำเนา พ่อของ น.ส.อรณี เห็นเหตุการณ์เข้า วิ่งปรี่เข้ามายื้อยุดฉุดกระชากปืนจากตนด้วยความตกใจจึงลั่นไกใส่นายสำเนา จนเสียชีวิตไปอีกราย หลังเกิดเหตุตนทำอะไรไม่ถูกจึงรีบหนีขึ้นรถโดยสารเดินทางไปหาที่กบดานตามต่างจังหวัดแบบไม่มีจุดหมาย ก่อนจะมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว
นายสมหมาย ให้การต่อว่า สำหรับปมเหตุเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างตนและภรรยาเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2560 หลังครอบครัวตนและภรรยาต้องการให้แต่งงานกัน โดยที่ทั้งคู่ไม่เคยรักใคร่หรือชอบพอกันมาก่อน ตกลงสินสอดเป็นเงิน 8 หมื่นบาท ทองคำหนัก 1 บาท หมู100โล พอแต่งงานกันแล้วตนพา น.ส.อรณี มาอยู่กินกันที่ จ.ฉะเชิงเทรา เนื่องจากต้องมาทำงานเป็นช่างประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ที่โรงงานแห่งหนึ่ง
แต่พอหลังจากใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้เพียงแค่ 1-2 สัปดาห์ น.ส.อรณี เริ่มมีท่าทีเปลี่ยนไป ทำตัวห่างเหินเหมือนรังเกียจและไม่ยอมใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ก่อนจะหนีกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด ที่ผ่านมาอยู่กินกันมา 1 ปี ตนและ น.ส.อรณี เคยร่วมรักกันเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น อีกทั้งเวลาที่ตนกลับมาตามง้อจะถูกคนในครอบครัวของน.ส.อรณี กีดกัน มีเพียงแม่ของ น.ส.อรณี เท่านั้นที่เอ็นดูตน รักตนเหมือนลูกจริงๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตนรู้สึกน้อยใจ เหมือนกับถูกหลอกแต่งงานเอาเงินสินสอด
“ก่อนแต่งงาน ผู้ตายเคยบอกผมว่า อยู่ๆกันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง แต่พอเอาเข้าจริงกลับกลายเป็นผมที่รักเธอฝ่ายเดียว ส่วนเธอกลับทำเหมือนผมเป็นคนน่ารังเกียจ ไม่ยอมให้เข้าใกล้ แม้แต่ตอนนอนยังต้องเอาหมอนข้างมาวางกั้นกลางไม่ให้ใกล้ชิดกัน สุดท้ายผมอยากฝากขอโทษที่ก่อเหตุดังกล่าว ที่ทำไปเพราะเป็นอารมณ์ชั่ววูบ “
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป