จู้กหู้กกู้กราบสวัสดีและก็มาถึงเดือนสุดท้ายของปีทีมีวิกฤติโควิด-19
หลังจากที่มีการอนุญาตให้แฟนบอลสามารถเข้าชมเกมในสนามของหลายๆคู่ในพรีเมียร์ลีก โดยมีเงื่อนไขก็คือ
แฟนบอลจะเข้าสนามได้ไม่เกิน 2,000 คน ต้องใส่แมสก์ตลอดเวลา ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ เข้า-ออกจากสนามตามที่กำหนด และห้ามตะโกนเชียร์หรือร้องเพลงเชียร์
แต่จากภาพที่ออกมามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เพราะแฟนบอลยังคงตะโกนและร้องเพลงเชียร์ตามปกติ
ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือแฟนบอลบางส่วนก็ได้ถอดแมสก์ออก และมีการรวมกลุ่มกันด้วย
จู้กหู้กกู้ก็รู้สึกดีที่ได้ยินเสียงเชียร์จากแฟนๆในสนาม
แต่ก็อดห่วงไม่ได้ การห้ามตะโกนเชียร์ ห้ามร้องเพลงเชียร์ มันดูเป็นไปไม่ได้ แค่ข้อกำหนดที่บอกว่าต้องใส่แมสก์ตลอดเวลาก็ไม่น่าจะทำได้
ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ซึ่งพอมันเป็นแบบนี้ ควรจะมีวิธีการป้องกันที่ดีกว่า และห้ามในสิ่งที่ควรจะห้ามมากกว่า
สิ่งที่ทางพรีเมียร์ลีกควรจะทำก็คือ เว้นระยะห่างของแฟนบอลให้มากยิ่งขึ้น เพื่อลดโอกาสที่แฟนบอลจะรวมตัวกันให้ได้มากที่สุด แล้วก็อนุญาตให้มีการตะโกนเชียร์ และร้องเพลงเชียร์ไปเลย
แต่ต้องเคร่งครัดเรื่องการใส่แมสก์ตลอดเวลา และถ้าหากเห็นว่าใครจงใจถอดแมสก์ ก็ให้เชิญออกจากสนามทันที
การสวมแมสก์จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการแพร่เชื้อได้มากกว่าที่ทำอยู่ตอนนี้ ซึ่งมันเหมือนเป็นการตั้งกฎมางั้นๆ และมันก็ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง
ในเมื่อมีการทดลองให้มีการเข้าชมแล้ว ก็ควรจะทำให้มันรัดกุม เพราะถ้าหากมันเกิดข้อผิดพลาด และเกิดการระบาดจากการเข้าชมเกมในสนามเมื่อไหร่
สุดท้ายเรื่องนี้อาจจะถูกหยุด และนั่นทำให้โอกาสที่แฟนบอลจะได้เข้าสนามในจำนวนมากกว่าที่เป็นอยู่มันลดน้อยลงไป
หรืออาจจะทำให้แฟนบอลเค้าชมเกมต่อไม่ได้ !!!
ทีจู้กหู้กกู้แปลกใจคือให้คนเข้าได้ไม่กี่พัน ดันไปจำกัดโซนอยู่ที่เดียวกัน คนก็มารวมกันได้สิ ทั้งๆที่สามารถกระจายไปทั่วให้ห่างๆ ได้.
นี่ถ้ามีกรณีติดเพิ่มจากการไปดูบอลนี่ จบกันเลยคราวนี้
หันกลับมาดูบอลถ้วยบ้านเรา นัดบิ๊กแมตช์บอลถ้วยแฟนบอล แออัดกันเลย หวั่นๆยังไงไม่รู้..มาตรการ การ์ดหายไปไหน
สิ้นสุดปีนี้ขอให้สิ่งร้ายๆจากโควิด-19พ้นไปจากกีฬาด้วยเถิด