อาชญา (ลง) กลอน ธนก บังผล
วงการผ้าเหลืองสะเทือนอีกครั้ง หลังประเด็น “เงินทอนวัด” เขย่าศรัทธามาอย่างต่อเนื่อง
กล่าวกันว่าคนมีทั้งดีและไม่ดี ทุกสังคมก็มีคนทั้ง 2 ประเภทปะปนกันไป แต่ “พระสงฆ์” อยู่เหนือคำกล่าวนี้เพราะคนที่บวชแล้วย่อมทำให้พุทธศาสนิกชนคาดหวังมากกว่าปกติ อย่างน้อยๆก็ต้องกราบไหว้ได้อย่างสะดวกใจ
แต่เราต้องยอมรับความจริงกันสักทีแล้วว่า ที่ผ่านมา “คุณภาพ” ของพระสงฆ์ ตั้งแต่คนที่เข้ามาครองผ้าเหลืองที่ไม่ได้คัดกรอง เป็นโจรกลับใจมาบ้าง เป็นคนหนีคดีมาบ้าง เป็นคนที่ฐานะทางครอบครัวยากจนแล้วบวชตั้งแต่เป็นเณรด้วยหวังจะกอบโกยมาบ้าง ฯลฯ
เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องจริงที่เราทำเป็นหลับตาข้างเดียวมาโดยตลอด
แล้วเราก็ได้พระเณรที่เป็นตุ๊ดแต๋วประกาศหาคู่ทางโซเชียลมีเดีย ได้พระที่เห็นช่องทางหาเงินจากการปัจจัยจนร่ำรวย ได้พระที่มั่วสีกา มั่วยาเสพติด โชว์กระเป๋าแบรนด์เนม ฉันอาหารหรู ไม่อยู่ในร่องในรอย
วงการนี้จะไปแตะก็ไม่ได้นะครับ บางรูปยิ่งกว่ามาเฟีย นอกจากไม่ยอมรับว่ามีความเสื่อมแล้วยังกล่าวหาผู้ที่เข้าไปคุ้ยแคะว่าเป็นมารศาสนา
ถามว่าพระสงฆ์ในประเทศไทยมีกี่รูป บิณฑบาตตอนเช้ากี่รูป เข้าถึงพระธรรมที่ท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทองกี่รูป
อย่าลืมว่าศาสนาเป็น 1 ใน 3 สีที่อยู่ในธงชาติไทย เราให้ความสำคัญกับศาสนาพุทธมาก มากเสียจนบางคนรอยากจะให้บัญญัติในรัฐธรรมนูญว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ โดยไม่มองว่าคนที่จะเข้ามาเป็นผู้ขับเคลื่อนให้วงการสงฆ์เป็นอย่างไร
การสะสมรถหรู ของแพง อวดอุตริ ใบ้หวย สร้างพระเครื่องมามอมเมา ช่างห่างไกลจากคำว่า “สันโดษ” เหลือเกิน
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ครับว่ามีพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ไม่น้อยคอยเป็นหลักให้คนได้กราบไหว้ พระผู้ใหญ่ที่ยังคงยึดพระธรรมคำสั่งสอนเผยแผ่พระพุทธศาสนายังมีมาไม่เคยขาด เหมือนกรุงศรีฯไม่เคยสิ้นคนดี
ครับ ที่กรุงศรีอยุธยาแตกก็เพราะหนอนบ่อนไส้เปิดประตูให้ข้าศึกฉันใด พระที่ไม่น่านับถือก็บ่อนทำลายอริยสงฆ์ฉันนั้น
หมดจากเงินทอนวัด อาจมีบางคนคิดอยากจะ “ปฏิรูป” หรือ “จัดระเบียบ” วงการสงฆ์บ้าง คำถามคือทั้งพุทธมามะกะผู้อ่อนไหว และพระสงฆ์ผู้หวงผลประโยชน์จะยอมเช่นนั้นหรือ
ในฐานะที่บวชเรียนมาบ้าง ผมพูดถึงเรื่องนี้เพราะอยากให้วงการสงฆ์เป็นสถาบันที่มั่นคง วางตัวให้เหมาะสมไม่อิงการเมือง ไม่ต้องมาทำสติ๊กเกอร์แปะหลังรถกันให้เกร่อเมือง ไม่อยากให้เกิดความเสื่อมใดๆทั้งปวง ปรารถนาจะเทิดทูนให้ผู้ที่บวชเรียนได้เข้าสู่นิพพานอย่างแท้จริง
การอุปสมบทต้องศักดิ์สิทธิ์และมีความขลังมากกว่าจะเป็นเรื่องบันเทิง
ก็ฝันไปอย่างนั้นละครับ ความฝันนั้นแทบไม่มีทางเป็นจริงได้เลย
ใครเขาจะไปอยากด่าพระกัน จริงไหมครับ และถ้าวางตัวได้สูงพอ เราก็คงไม่อาจมองเหล่าบรรดาแก๊งห่มเหลืองด้วยสายตาเคลือบแคลงอย่างนี้
