Saturday, November 23, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันสืบนครบาลบุกจับ”จีมินช็อง” เกาหลีเก๊ face off หนีคดียาเสพติด

    สืบนครบาลบุกจับ”จีมินช็อง” เกาหลีเก๊ face off หนีคดียาเสพติด

    สืบนครบาลบุกจับจีมินช็อง จากไทยบ้านสู่โอปป้า พ่อค้ายาอียาเลิฟ  face off จนไม่เหลือเค้าเดิม แฉมีคอนเนคชั่นทั่วโลก สั่งยาเสพติดจากดาร์กเว็บ โอนจ่ายด้วยบิทคอยน์ แต่ที่เกมเพราะลูกน้องทำผิดแผน

    วันที่ 23 ก.พ. 66 เวลาประมาณ 15.16 น. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศอ.ปส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,  พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.ศอ.ปส.ตร. ชุดที่ 5 , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.

     พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.4 , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น , ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ร่วมกับชุด ศอ.ปส.ตร. และ ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.)

    ร่วมติดตามจับกุม นายจีมิน-ซ็อง ชื่อเดิม นายสหรัฐ  อายุ 25 ปี ชาวไทยตามหมายจับศาลอาญาที่ 626/2565 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 65 โดยกล่าวหาว่า

    “ร่วมกันนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (MDMA) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (MDMA) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และ ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และ สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน”

    จับกุมได้ที่ห้องพักในคอนโดชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตบางนา จ.กรุงเทพฯ แขวงบางนา เขตบางนา จ.กรุงเทพฯ   ยึดของกลางโทรศัพท์ 2 เครื่อง  ใช้ในการติดต่อสั่งนำเข้ายาเสพติดจากต่างประเทศ และตรวจยึดทรัพย์สินอีก  22 รายการ

    พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากชุดวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศอ.ปส.ตร. ได้วิเคราะห์สถิติการจับกุมพบว่ามีการแพร่ระบาดหนักของกลุ่มยาเสพติดชนิด ยาอี หรือ ยาเลิฟ (MDMA)

    ต่อมาได้ประสานงานรวบรวมข้อมูลกับ บก.สส.บช.น. วิเคราะห์แกะรอยจากข้อมูลคดีการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ จนได้พบเบาะแสแหล่งที่มา  ให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่จนกระทั่งได้เบาะแสว่าแหล่งที่มาของยาเสพติดดังกล่าวคือ “หนุ่มเกาหลี” รูปหล่อรายหนึ่ง อยู่ในพื้นที่ย่านเขตบางนา กรุงเทพฯ

    มีพฤติกรรมจะสั่งนำเข้ายาเสพติดชนิด ยาอี หรือ ยาเลิฟ (MDMA) โดยสั่งนำเข้ามาทางพัสดุไปรษณีย์ทางอากาศ จากประเทศแถบทวีปยุโรป  ทำมาอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง โดยมักใช้บุคคลที่ตนเองรู้จักผ่านทางเฟสบุ๊คให้คอยรับส่งพัสดุยาเสพติดดังกล่าวให้ โดยที่ตนเองไม่ต้องสัมผัสกับยาเสพติดโดยตรง

    ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดชฯ สืบสวนจนกระทั่งยืนยันตัวตนของหนุ่มเกาหลีรายนี้ได้ คือ นายจีมิน-ซ็อง ซึ่งแท้จริงเป็นคนสัญชาติไทย แต่จงใจเปลี่ยนชื่อให้เหมือนคนเกาหลี โดยมีชื่อเดิมว่า นายสหรัฐ  อายุ 25 ปี อยู่  ตรอกวัดอัมพวา แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย จ.กรุงเทพ

    อีกทั้ง นายจีมิน-ซ็อง ยังศัลยกรรมไปจนกลายเป็นคนละคน ไม่เหลือเค้าโครงเดิม ( Face off )จากการตรวจสอบพบว่า นายจีมิน-ซ็อง เป็นบุคคลตามหมายจับ ซึ่งเคยถูกพนักงานสอบสวน บช.ปส. ออกหมายจับไว้ตามหมายจับศาลอาญาที่ 626/2565 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 65 ในคดีที่เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ตรวจพบยาเสพติดยาอี หรือ ยาเลิฟ (MDMA) แบบผลึกสีขาวขุ่น น้ำหนัก 2,575 กรัม และ แบบเม็ดยาจำนวน 290 เม็ด ที่แอบบรรจุมาในพัสดุ “กล่องจิ๊กซอว์” เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 65 ซึ่งมีแผนประทุษกรรมเดียวกัน

    จากความไม่ธรรมดาของ นายจีมิน-ซ็อง เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาสืบสวนติดตามมาเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน แต่ยังไร้ร่องรอย

    จนกระทั่ง พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้ใช้อุบายเสนอตัวผ่านทางเฟซบุ๊คเพื่อสมัครเป็น “เป็นเด็กส่งของ” จนสืบทราบได้ว่า พักอยู่ที่คอนโดหรูแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตบางนา จ.กรุงเทพฯ กระทั่งจับกุมได้

    สอบสวนรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาให้การว่า ” บ้านเดิมอยู่ย่านบางกอกน้อย  รับว่าที่ตนเองเปลี่ยนมาเป็นชื่อภาษาเกาหลีเพราะอยากย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศเกาหลีใต้ เนื่องจากเบื่อหน่ายชีวิตในประเทศไทย ซึ่งตนเองสามารถพูดภาษาเกาหลีได้เพียงเล็กน้อย และยังออกเสียงไม่ได้

    ยอมรับว่ามารดาของตนนั้น เคยถูกดำเนินคดีจำหน่ายยาเสพติดชนิด “ยาเสียสาว” จำนวนกว่า 200,000 เม็ด โดยนำเข้ามาจากประเทศปากีสถาน เมื่อปี 2554 ซึ่งปัจจุบันมารดาได้พ้นโทษออกมาแล้ว และย้ายไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส

    ทั้งนี้เริ่มเข้าวงการจำหน่ายยาเสพติด จากการเข้าไปศึกษาในดา มีคอนเนคชั่นนำเข้ายา MD หรือยาอี จากทั่วโลก แต่ที่ประสานงานดีที่สุดคือ ประเทศเนเธอแลนด์ โดยจะนำเข้ามาในรูปแบบการส่งเป็นพัสดุเข้ามาตามปกติ  และอ้างว่าตนเองสามารถเล่นแร่แปลธาตุแปลงยา จากน้ำเป็นก้อน จากก้อนเป็นน้ำได้ โดยศึกษาวิธีการจากอินเทอร์เน็ต

    การซื้อขายยาเสพติดจากดาร์กเว็บที่ตนใช้ประสานงานนั้น จะซื้อขายจ่ายเงิน ผ่านทางคริปโตเคอเรนซี่และได้ยอมรับว่า ล่าสุดได้สั่งยาอีที่กำลังจะเข้ามาในไทย อีกจำนวนครึ่งกิโลกรัมและ 30 กิโลกรัม แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

    ยอมรับว่ารู้ตัวว่ามีหมายจับ แต่เข้าใจว่าอาจเป็นคดีอื่น  ในคดีนี้ที่ถูกออกหมายจับเพราะว่า ทำพลาดจนถูกศุลกากรตรวจพบยาอีที่ส่งพัสดุเข้ามา  2.5 กิโลกรัม เพราะลูกน้องไม่ได้ทำตามแผนที่ตนสั่งการไว้”  หลังเสร็จสิ้นการจับกุมได้นำตัว นายจีมิน-ซ็อง ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.1 บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

    พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากข้อมูลของนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. วิเคราะห์ว่าคนร้ายรายนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในต้นตอสำคัญ ของการแพร่ระบาดของ ยาอีและยาเลิฟ ในพื้นที่กรุงเทพ และ ปริมณฑล

    เราสืบสวนติดตามตัวมาเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน ทำให้ทราบว่าคนร้ายรายนี้รู้จักวิธีการตัดช่องทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และมีการศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงใบหน้า เพื่ออำพรางการติดตามจากเจ้าหน้าที่ และด้วยคนร้ายรายนี้มีอายุเพียง 25 ปี แต่สามารถเป็นระดับหัวของการนำเข้ายาเสพติดจากทางยุโรปได้ น่าเชื่อว่าจะมีผู้ที่คอยให้การสนับสนุนอยู่ในต่างแดน ซึ่งเราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด

    เพราะปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาระดับชาติ เป็นปัญหาเรื้อรังที่หยั่งรากลึกอยู่ในสังคมไทย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดเป็นอันดับหนึ่งมาโดยตลอด และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายในการแก้ปัญหายาเสพติดโดยทำสงครามกับยาเสพติด จึงขอเตือนไปยังเหล่าผู้ค้ายาเสพติดทั้งหลายว่า หากยังยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดไม่ว่าอย่างไรก็ต้องถูกจับกุม และชีวิตพวกมันต้องไม่มีความสุข”

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments