ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก
บ่ายวันที่ 30 ธันวาคม 2565 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.
ได้สืบสวนติดตามจับกุม นายหมวดตรี วิทวัส หรือบาส อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1295/2565 ลงวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2565
กล่าวหาว่า ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และปลอมเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง หรือเครื่องหมายร่วมของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้ว ในราชอาณาจักร
จับกุมได้ที่ลานจอดรถชั้น 4 ภายในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 สาขาพระราม 3 ถนนพระรามที่ 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร
กล่าวคือชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนจากประชาชนว่าซึ่งถูกอาจารย์บาสหรือหมวดตรีใช้กลอุบายโพสต์เชิญชวนคนที่อยากหารายได้เสริมผ่านเพจ Facebook ชื่อบัญชี “ ชมรมลูกเสือสัมพันธ์ ” มีลงรูปกิจกรรมกับหน่วยงานราชการเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ใช้คิวอาร์โค้ดให้ผู้เสียหายแอดเข้าไปในห้องไลน์ที่สร้างขึ้น
หลังจากนั้นจะส่งข้อความเชิญชวนให้ร่วมลงทุน รับเหมาหรือรับจ้างทำงานกับส่วนราชการโดยเป็นการตัดชุดเครื่องแบบของหน่วยงานราชการหน่วยต่างๆ
ในการลงทุนแต่ละงานคนร้ายจะให้รายละเอียดเป็นชื่องาน จำนวนผลตอบแทนที่ผู้เสียหายจะได้รับจากการนำเงินมาลงทุนในจำนวนเงินที่สูงประมาณร้อยละ 20 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์แล้วแต่ชนิดของงานที่ประมูล และมีวันที่จะได้ผลตอบแทนพร้อมเงินต้นในงานนั้น
(เช่น งาน A มีค่าตอบแทนร้อยละ 20 ส่งงานภายในกำหนดวันที่ 12 ม.ค. รับเงินวันที่ 14 ม.ค. เท่ากับว่าหากลงทุน 10,000 บาท จะได้ผลกำไร 2,000 บาท รวมในวันที่ 14 ม.ค. จะได้เงินคืน 12,000 บาท เป็นต้น)
เมื่อผู้เสียหายตัดสินใจลงทุนจะต้องส่งชื่อบัญชีพร้อมเลขที่บัญชีธนาคารให้คนร้าย และโอนเงินค่าลงทุนเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 4681009138 ชื่อบัญชี บริษัท ลูกเสือสัมพันธ์ จำกัด
จากนั้นเมื่อถึงวันที่ผู้เสียหายจะต้องได้รับเงินพร้อมค่าตอบแทนคืน กลับไม่ได้รับเงินคืน เมื่อติดต่อไปกลับไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัด ซ้ำยังถูกบ่ายเบี่ยง และไม่สามารถติดต่อได้เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย
ชุดสืบสวนวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นเงินที่มีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเข้าพบว่ามียอดเงินที่โอนเข้ารวมกว่า 17 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าผู้ต้องหามีประวัติ เคยถูกจับกุมมาแล้ว 4 ครั้ง คือ
ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2554 ถูกจับกุมในข้อหา “ ฉ้อโกง ” ท้องที่ สน.ยานนาวา
ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2564 ถูกจับกุมในข้อหา “ ตัวการในข้อหาฉ้อโกง,ตัวการในข้อหาฉ้อโกงประชาชน,ตัวการในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ” ท้องที่ สภ.เมืองระยอง
ครั้งที่ 3 เมื่อปี 2564 ถูกจับกุมในข้อหา “ ฉ้อโกง ” ท้องที่ สภ.สาขลา จังหวัดสมุทรปราการ
ครั้งที่ 4 เมื่อปี 2565 ถูกจับกุมในข้อหา “ ตัวการในข้อหาฉ้อโกงประชาชน,ตัวการในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ” ท้องที่ สภ.เมืองระยอง
ตรวจสอบประวัติคดีของผู้ต้องหาในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า ณ ปัจจุบันผู้ต้องหายังมีหมายจับที่ยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี อีก 3 หมายจับ ประกอบด้วย
คดีที่ 1 คดีที่ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยมีลักษณะหรือมีการกระทำ (1) เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ” ตามหมายจับศาลแขวงนนทบรี ที่ จ.406/2564 ลงวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2564 ท้องที่ สภ.บางใหญ่
คดีที่ 2 คดีที่ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกง ” ตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 290/2564 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ท้องที่ สน.ทุ่งครุ
คดีที่ 3 คดีที่ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.585/2564 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ท้องที่ สน.ประเวศ
ชั้นจับกุมรับสารภาพ โพสต์เชิญชวนคนที่อยากหารายได้เสริมผ่านเพจ Facebook ตนเองรับว่าตนเองได้กระทำจริง ในครั้งแรกตั้งใจจะให้ผลกำไรคืนแก่ผู้เสียหายตามที่ได้มีการประกาศไว้
แต่เนื่องจาก ไม่สามารถยื่นประมูลงานจากหน่วยงานราชการมาทำได้ ด้วยความโลภที่มีในตัวถ้าจะคืนเงินต้นทุนคืนให้แก่ผู้เสียหายก็เสียดายเงินทุนที่มีอยู่ในมือ นำเงินที่ผู้เสียหายร่วมลงทุนดังกล่าวคงค้างในบัญชีไว้ก่อน
แต่เนื่องจากตนเอง ทนกิเลสความต้องการไม่ได้จึงนำเงินที่มีผู้เสียหายส่งมาร่วมลงทุนดังกล่าวนำไปซื้อรถยนต์หรูยี่ห้อดังต่างๆ เช่น รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น E250 , ยี่ห้อ BMW ซีรี่5 รุ่น 520 D , ยี่ห้อฟอร์ด มัสแตง GT5.0 , จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อ Triumph รุ่น Rocket 3 R มาใช้ในชีวิตประจำวัน
เมื่อถึงเวลากำหนดส่งเงินต้นพร้อมกำไรคือให้แก่ผู้เสียหาย ก็ได้โพสต์เชิญชวนประชาชนอื่นที่สนใจให้เข้าร่วมลงทุนในโครงการประมูลงานใหม่ เพื่อนำเงินทุนไปจ่ายเป็นเงินต้นและกำไรให้แก่ผู้ที่ลงทุนในโครงการก่อนหน้า
แต่เนื่องจากในบางครั้งโครงการประมูลที่เปิดใหม่ไม่มีผู้สนใจร่วมลงทุนมากพอ จึงไม่สามารถนำเงินไปส่งต้นและกำไรให้ผู้ร่วมลงทุนก่อหน้าได้ เป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดี ที่ผ่านมาเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ช่วงปี 2562 นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวหากพบคนร้ายรายนี้หลอกลวง ขอโปรดติดต่อสืบสวนนครบาล ขอแจ้งเตือนภัยว่ามิจฉาชีพมีกลโกงหลายรูปแบบ โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกง มิจฉาชีพมักใช้ความโลภเห็นแก่ผลกำไรมาเป็นจุดล่อใจให้หลงกล ควรมีสติวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม กลโกง
หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอขาย หรือชักชวนลงทุนในด้านต่างๆ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร