วันนี้อาจารย์อิ๊กพาเลาะรั้วไปสัมภาษณ์นายร้อยตำรวจหญิงสาวน้อยแห่งกองปราบกันคะ ร.ต.ท.หญิง ภิษัชกร เลิศวิลัย (ฝน) นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 67 ตำแหน่งปัจจุบัน รองสารวัตร(สอบสวน) กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม
ความฝันวัยเยาว์ ก่อนเข้า รร.นายร้อยตำรวจ
ตอนเด็กเป็นผู้หญิงที่ซนมากและเป็นคนพูดตรง สมัยเด็กไม่เคยฝันอะไรเกี่ยวกับตำรวจ เพราะว่าพ่อแม่ทำงานสาธารณสุข แม่อยากให้เป็นหมอ ส่วนความฝันแรกอยู่ในจิตใจและจำได้จนถึงทุกวันนี้ก็คือ อยากเป็นทหาร ส่วนแรงบันดาลใจที่มาเป็นตำรวจ เพราะดูละครเรื่องนายร้อยสอยดาว 555 (หัวเราะ) ถ้าถามว่า ทำไมถึงอยากเป็นตำรวจ คุณพ่อชอบ พ่อออยากเป็นนักเรียนนายร้อย หนูอยากทำตามความฝันวัยเด็กของพ่อ
” แล้วอีกเหตุผลก็เพราะว่าตอนเรียนมัธยมปลายที่ รร.เตรียมอุดมศึกษา จะมีงานกีฬาประเพณีเตรียมอุดม-เตรียมทหาร ทุกปี ตอนนั้นเป็นเด็กกิจกรรมชมรมดนตรีไทยก็จะได้รู้จักกับเพื่อนหลายเหล่าค่ะ และก็เริ่มรู้จักโรงเรียนเหล่าถึงได้เริ่มมาสนใจทางเดินเส้นนี้ และคิดว่าเส้นทางสี่เหล่าอย่างไรเสียก็ได้รู้จักการช่วยเหลือคนอื่น ได้เห็นความเป็นสุภาพบุรุษ และฝันอยากเป็นผู้หญิงที่เท่ ไม่เหมือนใครและได้ใกล้ชิด สามารถช่วยเหลือคนอื่นที่มีเรื่องเดือดร้อนได้คะ”
การฝึกในโรงเรียนแตกต่างจากการฝึกของนักเรียนผู้ชายหรือไม่
สมัยตอนที่ฝึกนั้นเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิงรุ่นที่สอง เลยต้องเจอแต่รุ่นพี่ผู้ชายตลอด มีพี่ผู้หญิงเป็นรุ่นพี่รุ่นเดียว เพราะฉะนั้นการฝึกไม่ต่างกัน ผู้ชายฝึกอะไรผู้หญิงฝึกเหมือนกัน ต้องทำทุกอย่างเหมือนกันหมด อยู่ด้วยกันตลอด ยกเว้นตอนนอนซึ่งจะแยกตึกนอน กับตอนเข้าชมรมก็จะแยกกันไปตามความสนใจ
เคยท้อใจบ้างหรือไม่เป็นผู้หญิงส่วนน้อยในโรงเรียน
ถ้าตอนเรียนนายร้อยตำรวจไม่เคยรู้สึกท้อใจค่ะ เพราะว่าเตรียมใจมาแล้วว่าจะเรียนให้พ่อด้วย แต่พ่อไม่ได้บังคับนะคะ ตั้งใจทำให้เอง ก็บอกตัวเองว่ายังไงก็ต้องสู้ให้ไหว ก็มีบ่น เรื่องเหนื่อยบ้างค่ะ เป็นธรรมดาของการฝึก วันไหนฝึกก็คอยจะลุ้นให้ฝนตกวันนั้นทุกทีค่ะ พอเข้ามาเรียนเพื่อเป็นนายร้อยตำรวจหญิงแล้ว ตรงกับที่คิดไหม พอเข้ามาเรียนแล้ว ตกใจค่ะ ไม่นึกไม่ฝัน
อย่างแรกดีใจทำตามความฝันพ่อได้สำเร็จและ เหนื่อยกว่าที่คิดเยอะมากๆๆ เวลาน้อย นอนน้อย อ่านหนังสือสอบและฝึก ไม่เหมือนกับที่เราคิด และ หลายอย่างเราไม่สามารถเลือกได้ อะไรก็ตามมัน
“อยู่ที่ใจเรา ถ้าใจเราคิดบวก คิดว่าไหว เดี๋ยวขามันก็ก้าวไปเอ มีความเชื่อไว้ก่อนว่าต้องทำได้ ”