“เป็นแม่บ้านตำรวจ ต้องเข้าใจว่าตำรวจเสียสละเวลา ดังนั้นคู่ครองครอบครัวตำรวจทุกๆท่าน จึงควรตระหนักว่าอาชีพตำรวจต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขด้วยความเสียสละให้กับประเทศชาติ
พวกเราต้องเป็นผู้สนับสนุนที่ดีเพื่อให้เขาปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มที่ เพื่อให้ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของเขาประสบความสำเร็จ”
วรรคทองหลักคิดครองเรือน ที่หนักแน่นของ คุณชินชิน – จามจุรี พึ่งชัยชาญ ภรรยาสาวสุดน่ารักของ รองตุ้ม–พ.ต.ท.อัครเดช พรมโพธิ์ รองผกก.3 บก.ทท.2 บช.ทท. ที่สื่อถึงความเข้าใจในหน้าที่ภารกิจของสามีอย่างดี
ต้องบอกว่ารองตุ้มเป็นตำรวจอีกคนที่โชคดีในเรื่องคู่ครอง
คุณชินชิน จัดเป็นแม่บ้านตำรวจยุคใหม่ที่มีความคิดและหลักการครองเรือนที่เป็นแบบอย่างให้กับแม่บ้านคนอื่นๆได้อย่างดี
เธอรู้จักกับรองตุ้มตั้งแต่ยังเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในช่วงที่รองตุ้ม ยศร.ต.อ.สังกัดสน.ห้วยขวาง จนเรียนจบเป็นบัณฑิตสาว และทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
จากแค่คนรู้จัก ในตอนแรกไม่ได้คิดอะไร แต่ด้วยความสม่ำเสมอของรองตุ้ม ทำให้เอาชนะใจคุณชินชินได้
คุณชินชิน เล่าว่า
สมัยเรียนมีแต่กลุ่มเพื่อน จนมาวันหนึ่งมีพี่ที่รู้จักกันแนะนำให้รู้จักกับรองตุ้ม ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร พี่เขาไลน์มาเราก็ไม่ค่อยตอบ พี่เขาชวนทุกวัน ทานข้าวกันไหม แต่เราไม่ได้ไป
จนมาวันหนึ่งเราจะไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนแถวๆสุขุมวิท ก็เลยบอกพี่เขาว่าถ้าไม่ติดเข้าเวรก็มาได้ จะได้เจอเพื่อนๆเราหลายคน มีแต่กลุ่มผู้หญิง ตอนนั้นคิดสนุกๆว่าจะให้เพื่อนช่วยรับน้อง
“พอได้รู้จักนิสัยใจคอพี่เขาได้ระยะหนึ่ง พอเราเรียนจบและทำงานก็คบกัน รู้สึกว่าพี่เขาเป็นคนอบอุ่น จริงใจ ซื่อสัตย์ ค่อนข้างเข้ากับเพื่อนๆเราได้ดี เราอยู่ด้วยแล้วสนุก เป็นตัวเองเต็มที่ ไม่ต้องฝืนตัวเอง
พี่ตุ้มเป็นคนกล้าตัดสินใจ มีภาวะผู้นำ เป็นผู้ใหญ่ เราเลยรู้สึกว่าเขาเป็นที่ปรึกษาให้เราได้ คบกันมา 6 ปี
เมื่อทุกอย่างพร้อมเราจึงตัดสินใจแต่งงานกันเมื่อปี 2563 มาถึงวันนี้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาได้ 3 ปี”
คุณชินชินเผยและบอกอีกว่า
ในช่วงระยะเวลา 9 ปี ที่คบกัน ตกลงแต่งงานกัน ใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกัน ผ่านทุกๆอาถรรพ์มาหมดแล้ว ช่วงเวลาที่คบกันก็มีทะเลาะกันบ้าง
ด้วยวัยช่วงที่เราเป็นเด็กและพี่ตุ้มเป็นผู้ใหญ่ บางทีเราก็ทำอะไรไม่เข้าท่าบ้าง เกเรบ้าง เขาก็ดุในบางครั้ง มีอุปสรรคบ้าง แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ ด้วยความที่เรามีอะไรจะพูดคุยกันทั้งหมด ปัญหาทุกอย่างก็จบ
“มาถึงชีวิตคู่หลังแต่งงาน บทบาทเราเปลี่ยนไป ต้องอยู่ด้วยกันทุกวัน ช่วยกันดูแลบ้าน ทำงานบ้าน มีกิจกรรมร่วมกัน เราจะเป็นคนดูแลเรื่องอาหาร เที่ยวเล่นน้อยลง เรารู้สึกว่าเราโตขึ้น และพอซื้อบ้านใหม่ ย้ายมาอยู่ที่ จ.นนทบุรี
ตอนนี้เรามีเป้าหมายอีกอย่าง คือ อยากมีลูก เราเริ่มวางแผนมีลูก จึงลาออกจากงานประจำ ช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด-19กำลังระบาดด้วย จึงได้โอกาสมาพักผ่อนอยู่บ้านเพื่อเตรียมตัว”
คุณชินชินเล่า
ด้านการซัพพอร์ตสามีในฐานะหลังบ้าน คุณชินชิน บอกว่า เราจะเป็นผู้ฟังที่ดี คอยรับฟัง คอยคุย ให้กำลังใจเวลาพี่เขาเหนื่อยกลับมาบ้าน ให้เขารู้สึกผ่อนคลาย เพื่อวันพรุ่งนี้ต้องไปทำงานต่อ จะได้มีพลังงานบวก
“งานตำรวจเราเข้าใจว่าทำงานไม่ค่อยเป็นเวลา บางครั้งก็ทานข้าวนอกบ้าน กลับบ้านดึกๆ ทุกครั้งที่เราโทรไป จะไม่เคยถามว่ากลับกี่โมง กลับหรือยัง
เราจะถามว่ากินอะไรอยู่ อร่อยไหม ดื่มหรือเปล่า จะกลับมากินต่อไหม จะแช่เครื่องดื่มเอาไว้ให้ เราจะให้ข้อเสนอที่ดีกว่า เขาก็จะอยากกลับมาเอง”
“ถ้าบ้านเราน่าอยู่ ไม่ต้องไปกลัวว่าข้างนอกบ้านจะเป็นยังไง เพราะทุกๆคนอยากอยู่ในที่ที่สบายกายสบายใจ ก็เลยไม่ค่อยกังวลเรื่องนั้นเท่าไหร่
ถ้าเราไปตั้งคำถามบีบคั้น ถ้าไปถามว่าเมื่อไหร่จะกลับ จะกลับหรือยัง จะกลับกี่โมง เขาก็จะยิ่งไม่อยากกลับมา”
คุณชินชิน บอกด้วยว่า หัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตคู่ คือ การเชื่อใจ
“เราต้องเข้าใจว่าอาชีพตำรวจต้องเสียสละทุกอย่าง เมื่อเราตกลงเป็นภรรยาเขา เราก็ต้องเสียสละเหมือนกัน
เราคบกันมานานก่อนตกลงแต่งงานกัน รู้ว่าตำรวจต้องไปต่างจังหวัด ต้องกลับบ้านดึก ทำให้เรารู้อยู่แล้วว่าอาชีพตำรวจเป็นแบบนี้ เราเรียนรู้กันและกันมานาน”
คุณชินชินเผย
แม้จะงานยุ่งสักแค่ไหน แต่เมื่อมีโอกาสได้หยุดพักผ่อน กิจกรรมสุดน่ารักของครอบครัวนี้คือ การชวนกันไปตลาดต้นไม้ ซื้อกลับมาปลูกที่บ้าน คุณชินชินบอกว่า เราปลูกเองก็ได้ ถูกกว่าไปจ้างบริษัทรับทำสวน
นอกจากปลูกต้นไม้แล้ว ยังชอบทำคุกกี้ เบเกอรี่ โดยเราจะเป็นคนโชว์ฝีมือ ส่วนพี่ตุ้มจะเป็นฝ่ายสนับสนุน ล้าง ชิม บ่น (หัวเราะ) ทำทานเองบ้าง เอาไปฝากคุณพ่อคุณแม่บ้าง แจกเพื่อนบ้านบ้าง และถ้าเรามีวันหยุดหลายวัน ก็จะชวนกันไปพักผ่อนต่างจังหวัด ขึ้นเหนือเที่ยวเชียงใหม่ และไปทะเลบ้าง
เรียกว่าทั้งคุณชินชินและรองตุ้ม จัดเป็นคู่รักตำรวจที่น่ารัก เข้าใจกัน และเติมเต็มซึ่งกันและกัน ได้อย่างลงตัว
ปร์วีร์29/1/66
