มีรายงานเมื่อวันที่8มี.ค.67 พ.ต.ท.สมหมาย โสภาเจริญ รองผู้กำกับการจราจร สถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ /พนักงานสืบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 593/2566 ลงวันที่ 25ตุลาคม 2566และตามคำสั่ง บช.น.ที่ 58/2567ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567
เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ให้ดำเนินคดีนายส.(อนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาประจำสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐวิสาหกิจ),นายจ. (พนักงานไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. ในสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 2 )และน.ส.อ. (เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ในสำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ 3)
ข้อหา เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอน.เพื่อให้เถิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด.หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต..ตามมาตรา172แห่ง..พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต .พ.ศ.2561 เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นถารปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด.หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต.ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157
เหตุเกิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ..เขตปทุมวัน.กทม.เมื่อวันที่ 5กุมภาพันธ์..2567
พฤติการณ์แห่งคดี สืบเนื่องจาก พนักงานสืบสวน ตามคำสั่ง ตร. 593/ 2566 ลงวันที่ 25ตุลาคม 2566และตามคำสั่ง บช.น. ที่ 58/2567ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งมีส่วนปฏิบัติการตั้งอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สืบสวนขยายผลจากการตรวจสอบข้อมูลเชลเลไบร์ท โทรศัพท์มือถือ พ.ต.ท.(ค)
พบข้อมูลการสนทนาระหว่าง พ.ต.ท.(ค) กับผู้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ เจ้าหน้าที่ในสำนักงาน ป.ป.ช. มีการพูดคุยเกี่ยวกับการจัดทำเอกสารยื่นบัญชีทรัพย์และหนี้สินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในการจัดทำคำชี้แจง ฯลฯ โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่าเป็นการให้ความช่วยเหลือในการตกแต่งพยานหลักฐานประกอบคำชี้แจง ผู้กล่าวหาจึงได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคลดังกล่าวข้างต้นตามกฎหมายต่อไป