อาชญา (ลง) กลอน
โดย ธนก บังผล
กล่าวกันว่าแม้สภาพเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร แต่ความนิยมในการลุ้นรางวัลล็อตเตอรี่ของคนไทยรับรองว่าไม่เป็นที่สองรองใครในโลก
แต่คนไทยนั้นน่าจะเป็นชาติเดียวในโลกที่สามารถอุปโลกน์หลอกชาวบ้านได้ว่าถูกรางวัลที่ 1
แล้วคนก็ชอบตามอ่านกันด้วยว่าใครถูกรางวัล ได้เงินกี่สิบล้านบาท และอาจเป็นวิธี “ดัง” เร็วที่สุด หากไม่ “โป๊ะแตก” เพราะจะมีหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ขุดคุ้ยนำเรื่องไปเสนอ
ซึ่งก็เพราะถูกขุดคุ้ยจนมาถึงจุดที่ “ความจริง” ไม่เป็นความจริง และไม่มีใครจะสร้างเรื่องหลอกประชาชนได้ตลอดไป
กรณีครูปรีชา หวย 30 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม มีคลิปเสียงหลุดมาแฉว่อนโซเชียล คนก็เข้าไปฟัง ไปกดไลค์และคอมเมนต์จนยอดการเข้ารับชมเว็บไซต์พุ่งกระฉูด
พอสร่างซาจากกระแสไปข่าวใครถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ทั่วไทยก็จะคนแห่เข้าไปอ่านแล้วเก็บไปนอนฝันหวานว่า “ถ้าเป็นฉัน จะเอาเงินไปใช้อะไร”
ในขณะที่ข่าวอื่นๆที่จับต้องได้กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
จนกระทั่งมา ถึง “พีท” ผู้แหกทุกกฎของการถูกหวยด้วยวิธีสร้างเรื่องขึ้นมาเพราะอยากดัง
ที่ว่าแหกทุกกฎเนื่องจากมีการวางแผนเป็นขึ้นเป็นตอน
อันดับแรกเลยคือด้วยความที่เป็นคนขายล็อตเตอรี่ ก็กุเรื่องขึ้นมาว่ามีการเก็บสลากที่ถูกรางวัล 90 ล้านบาทไว้ให้เจ้าของ โดยได้รับสินน้ำใจมาแล้วด้วยเป็นเงินหลักแสนบาท
ความซื่อสัตย์ที่ถูกสร้างขึ้นมาประโลมสังคมไทยที่แห้งผาก ได้กลายเป็นน้ำทิพย์เพียงไม่นานก่อนจะมีพิรุธให้ชาวเน็ตตามจับผิดได้เพิ่มขึ้น
จากน้ำทิพย์สุดท้ายก็กลายเป็นยาพิษที่ทิ่มแทงกลับเข้าหาตัวเอง
ทีแรกพ่อค้าหวยยังไม่ยอมรับแม้แต่นิดเดียว และยังเที่ยวไปออกรายการโทรทัศน์อย่างหน้าชื่นตาบาน เหมือนสถาปนาว่าตัวเองเป็นผู้ซื่อสัตย์ที่ถูกจับผิด
แต่… “ความจริงก็คือความจริง” วลีติดปากของครูปรีชา ที่เคยกล่าวก่อนหน้านี้ช่างล้ำลึกยิ่งนัก
เมื่อถูกกดดันจากนักสืบไซเบอร์มากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดพ่อค้าหวยคนนี้ก็ยอมรับสารภาพว่าทั้งหมดเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่มีลูกค้าถูกลอตเตอรี่ 90 ล้านบาท
โดยเกิดขึ้นจากการถ่ายรูปเล่นกัน เนื่องจากมีลอตเตอรี่ที่ขายไม่หมด และมีเลขใกล้เคียงกับรางวัลที่ 1 จึงนำมาตัดต่อเลขตัวหน้าเป็นเลข 7 ก่อนจะมีคนนำไปเผยแพร่จนเป็นข่าวใหญ่โด่งดัง
2 วันต่อมาตำรวจออกหมายจับ “พีท” ที่เริ่มต้นด้วยความซื่อสัตย์กลายเป็นลวงโลก ใน 2 ข้อหาหนักคือปลอมแปลงเอกสาร และ ผิด พรบ.คอมพิวเตอร์
สาแก่ใจอีช้อยยิ่งนัก
อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ก็ทำให้นักข่าวเองต้องย้อนกลับมามองดูการทำงานของตัวเองด้วยว่าที่ผ่านมา “ถูกหลอก” มาแล้วกี่เรื่อง
การทำงานแบบปฏิเสธว่า “ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ” หรือ “ไม่มีความรู้” ในด้านนั้นๆ ถือเป็นการฆ่าตัวตายอย่างหนึ่ง เพราะข่าวต้องผ่านการตรวจสอบก่อนนำเสนอให้กับประชาชนทุกข่าว
บางครั้งที่เราคิดว่า พีท ลวงโลก แต่ความจริงพีท อาจจะแค่หลอกนักข่าวเพราะอยากดัง
ส่วนนักข่าวก็เอามาขยายต่อเป็นเรื่องเป็นราว โทรทัศน์หลายช่องติดตามตัวพีทไปออกรายการ มีการรายงานข่าวของพีทพาดหัวหน้าหนึ่งติดต่อกันเกือบสัปดาห์
ที่ไปว่าเขาลวงโลก แท้จริงแล้วอาจเจ็บใจที่ถูกหลอกก็เป็นได้
