คอลัมน์ อาชญา (ลง) กลอน
โดย…ธนก บังผล
ใกล้จะลาจอกันเต็มทีแล้วกับ ละครอิงประวัติศาสตร์ “บุพเพสันนิวาส” ที่สร้างกระแส “ออเจ้า” ติดปากกันทั้งสยาม จนทำให้เรตติ้งล่าสุดของช่อง 3 พุ่งแรงเป็นประวัติการณ์ แซงหน้าช่อง 7 แชมป์เก่าเจ้าของตำแหน่งที่ผูกขาดมาอย่างยาวนานไปแบบเฉียดฉิว
ฉากที่ถูกสร้างมาอย่างประณีต ลงรายละเอียดย้อนกลับไปสมัยกรุงศรีอยุธยาเมื่อประมาณ 300 ปีที่แล้ว แม้ละครจะออนแอร์แค่ 2 เดือน แต่ก็จุดกระแสการท่องเที่ยว แหล่งโบราณสถานต่างๆใน จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ลพบุรี ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ดูหนัง ดูละคร แล้วก็ย้อนดูตัวเองครับ
ละครบุพเพสันนิวาส เรื่องนี้แม้ผู้เขียนบทจะตั้งใจเน้นประวัติศาสตร์สมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นหลัก แต่ก็แฝงด้วยแง่คิดมากมาย อย่างน้อยเราก็แทบจะไม่ได้เห็นการกรีดร้อง แย่งผู้ชาย หรือบทริษยาอาฆาต เหมือนละครหลังข่าวทั่วๆไป
โดยเฉพาะตัวพระเอกและนางเอก ที่ให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ แทรกบทสะท้อนความสัมพันธ์อันอบอุ่น
พูดถึงประวัติศาสตร์ช่วงนั้นแล้วก็น่าสนใจไม่แพ้ละคร
เนื่องจากสมเด็จพระนารายณ์ทรงเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำมาค้าขายกันเป็นล่ำเป็นสัน จนคณะราชทูตฝรั่งเศสเข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ พยายามโน้มน้าวให้สมเด็จพระนารายณ์เข้ารีตเป็นโรมันคาทอลิก พร้อมๆกับต้องการจะยึดกรุงศรีอยุธยาให้เป็นเมืองขึ้นอีกด้วย
เหตุการณ์ยุคปลายรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีศึกทั้งภายในและนอกพระราชวังบานปลายไปเรื่อยๆ บันทึกบางฉบับระบุว่า บรรดาขุนนางที่ใกล้ชิดวางแผนลอบปลงพระชนม์ด้วยการค่อยๆใส่ยาพิษลงในโอสถให้พระเจ้าแผ่นดินเสวย จนกระทั่งเข้ายึดอำนาจได้อย่างเสร็จสรรพ
ความหวังของชาวฝรั่งเศสก็พลันต้องล่มไม่เป็นท่า แถมยังถูกขับไล่ออกนอกราชอาณาจักรจนเกลี้ยง
ผ่านช่วงเวลานั้นมากว่า 300 ปี จนถึงปัจจุบัน พุทธศาสนาก็ดำเนินมาตามสมัยกลายเป็นศาสนาที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือ ชาวไทยพุทธที่ดีๆจำนวนมากมักจะไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นถึงความแตกต่างเรื่องความเชื่อของคนต่างศาสนา เพราะอยู่กันมาได้ไม่มีปัญหาอะไรเป็นร้อยๆปี
ใครจะไปคิดว่าวันดีคืนดีก็มี อดีตนักร้อง ซึ่งผันตัวไปเป็นครูสอนศาสนาอิสลาม ลุกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์รูปปั้น หรือพระพุทธรูปที่คนไทยพุทธกราบไหว้นับถือ เผยแพร่ทางยูทูบจนกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว มีคนออกมาต่อต้านส่งผลกระทบกับธุรกิจร้านขายเนื้อของเจ้าตัวด้วย
เอาเป็นว่าผมคงไม่ลงรายละเอียด แต่ก็มีบทสรุปต่อมาคือ ผู้พูดได้เดินทางเข้าพบ นายอาศีส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา เพื่อขอโทษจุฬาราชมนตรีและพี่น้องชาวพุทธที่ทำให้ไม่สบายใจ
แต่ถ้าจบกันง่ายๆก็ไม่ใช่วิถีของ “ร็อค แอนด์ โรล” เพราะกระแสนี้ไปสะกิดต่อมทำให้ “เสก โลโซ” ศิลปินรุ่นใหญ่ออกมาโพสต์ข้อความตอบโต้ทันควันประมาณว่า
“หุบปากแล้วไปขายเนื้อซะออเจ้า เดี๋ยวจะโดนบาทาข้า”
ท่านขุนเสก นี่ไม่ยอมตกข่าวเลยครับ ทันสถานการณ์ตลอด ไม่ควรนำศาสนามาทำให้สังคมเกิดความแตกแยก เรื่องนี้ผมเห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์
ดูอย่างสมัยพระนารายณ์ ที่บาทหลวงชาวฝรั่งเศสพยายามจะทำให้พระองค์เปลี่ยนศาสนา จากแนวความคิดเล็กๆเพียงแค่นั้น นำมาซึ่งผลกระทบใหญ่หลวง จนถึงกับต้องเปลี่ยนแผ่นดินกันเลยทีเดียว