“ทุกครั้งที่พยายามอาจจะไม่สำเร็จ แต่ทุกความสำเร็จนั้นได้มาจากความพยายาม ฉะนั้นจงมุ่งมั่นและตั้งใจ ท้อได้แต่อย่าถอย”
คำพูดจากใจของ “จ.ส.ต.ภูมิพัฒน์ เอ่งฉ้วน”ผบ.หมู่ กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.ปพ. บช.ก.หรือ พี่บอล
เส้นทางรับราชการตำรวจกว่า 10 ปี ตั้งแต่ 2555 ถ่ายทอดเล่าสู่กันเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม
ก่อนอื่นต้องขอเรียกพี่บอล เพราะเป็นหนุ่มใต้สวนยางคุยกันสบาย ๆ ในหนึ่งชั่วโมงนี้ หัวเราะกันไปแล้ว 59 นาทีเฉย อัดแน่นไปด้วยความรู้หลักสูตรมากมายของตำรวจ
เห็นรูปพี่บอลไม่ต้องตกใจ เต็มหน้าอกนั้นคือ เข็มหลักสูตรต่างๆ ที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและความภาคภูมิใจ . . .
พี่บอลเล่าย้อนกลับไปสมัยยังเด็ก ที่บ้านเป็นชาวไร่ชาวสวนทั่วไป เราก็เป็นแค่ลูกชาวสวนแต่ด้วยความเป็นเด็กจึงชอบความท้าทาย และด้วยความมุ่งมั่นที่เชื่อว่า ลูกชาวสวนคนนี้ก็สอบตำรวจได้เหมือนกัน !
ช่วงเวลาแห่งการพิสูจน์ความสามารถของตนเองจนได้มารับราชการเป็นตำรวจอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องปรบมือให้กับประโยคของพี่บอลที่ว่า
“เพราะความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ การได้ลงในพื้นที่นี่ก็นับเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งในชีวิตเช่นกัน”
เข็มเต็มหน้าอกขนาดนี้ ก้าวแรกของการเริ่มฝึกหลักสูตรพี่บอลเล่าว่า
การฝึกหลักสูตรก็เหมือนไปอ่านคู่มืออาวุธ ถ้าเราไม่รู้ว่าของในมือนั้นใช้ยังไง ไม่มียุทธวิธี พอถึงสนามจริงเราก็เหมือนมือเปล่าอยู่ดี
พี่บอลเริ่มจากหลักสูตรลาซู (LRSU) ลาดตระเวนระยะไกล 3 มิติ คือ น้ำ ฟ้า ฝั่ง แต่ละมิติที่มีความต่างกัน และสำคัญมากสำหรับพี่บอลที่ประจำอยู่ในพื้นที่สีแดงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การสนับสนุนจาก พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ดำรงตำแหน่ง ผบก.ปัตตานี ขณะนั้น เพื่อนำบุคลากรมาเป็นกำลังให้ชุด สู้ศึกปัตตานี ก่อนจะไล่ๆมาเป็นหลักสูตรเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD อยู่ 3 เดือน
ต่อมาในปี 2562 พี่บอลได้ย้ายมาอยู่กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ หรือ คอมมานโด และเปิดโอกาสให้ตัวเองได้หาความรู้นอกหน่วย
การฝึกหลักสูตรการรบแบบจู่โจม หรือ เสือคาบดาบ (RANGER) ของศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศรในพื้นที่ป่าภูเขา ต่อด้วยฝึกหลักสูตรสไนเปอร์
ตามด้วยหลักสูตรค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย (เรสคิ้ว) SEARCS AND RESCUE ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหลักสูตรที่พี่บอลบอกได้ว่า หินมากกกกกก ใช้ระยะเวลาอยู่ไม่น้อยจริง ๆ สำหรับหลักสูตรนี้
อีกหนึ่งหลักสูตรที่พี่บอลของเราชอบและเข้าร่วมอีก คือ หลักสูตรกระโดดร่มแบบกระตุกเอง เห็นเข้าร่วมหลายหลักสูตรขนาดนี้ แต่พี่บอลแชร์ว่า ต้องการไปโดดร่มวันเด็กในพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆที่อยากจะเข้ามาเป็นตำรวจ
ตำรวจไม่ได้มีหน้าที่แค่จับผู้ร้าย แต่อยากให้เด็กเห็นว่าตำรวจมีหลายรูปแบบและยังสร้างความประทับใจอีกมาก
หนึ่งในเหตุการณ์ช่วงรับราชการที่ยิ่งตอกย้ำว่าการเข้าร่วมหลักสูตรของพี่บอลนั้นสำคัญมาก คือ หลังฝึกหลักสูตรต่อต้านการก่อการร้าย รุ่น 14 (นเรศวร 261) เสร็จ ในปี 2563 เกิดเหตุ “กราดยิงที่โคราช” สร้างความระทึกในใจคนไทยเป็นอย่างมาก
พี่บอลไล่ลำดับเหตุการณ์ที่ตัวเองได้เข้าร่วมในกลางคืนของวันนั้นว่า
ไปถึงประมาณ 5 ทุ่มอยู่ระหว่างวางแผนเข้าเผชิญเหตุ ตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษทุกนายไล่เคลียร์พื้นที่ตั้งแต่ชั้นบนลงชั้นล่าง จุดผู้ร้ายหลบซ่อนอยู่ ช่วงเวลาตี 1-2 สถานการณ์ที่ตึงเครียด ผู้ร้ายเริ่มยิงตอบโต้
เมื่อได้สัญญาณปะทะจากผบ.ตร (พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ตำรงตำแหน่งในขณะนั้น) โล่และอาวุธก็เริ่มทำงานทันที ความคลั่งของผู้ร้ายทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บเเละเสียชีวิต
หนึ่งในนั้นคือเพื่อนร่วมรุ่น หลักสูตรต่อต้านการก่อการร้าย รุ่น 14 ที่โดนยิงเข้าบริเวณหัว วินาทีที่ได้ยินประโยคจากเพื่อนร่วมรุ่นว่าหายใจไม่ออก พี่บอลรีบปฐมพยาบาลพยายามมากที่สุดเท่าที่สถานการณ์ตอนนั้นจะเอื้ออำนวย
มัดผ้าต่อกันเป็นทอดๆ เพื่อให้ตำรวจนายอื่นดึงร่างเพื่อนให้พ้นพื้นที่เสี่ยง จนกระทั่งเกือบตีสองที่ยืนเฝ้าสถานการณ์บริเวณเดิมลำพัง
08.24 น. เสียงกระสุนกึกก้องดังทั่วห้าง ทุกวินาทีที่เคลื่อนไปข้างหน้าคือทุกย่างก้าวของการปะทะระหว่างตำรวจและผู้ร้าย กว่า 17 ชั่วโมงถึงหยุดการคลั่งของผู้ก่อเหตุกราดยิง เทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมาลงได้
โศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เป็นเครื่องหมายยืนยันถึงหลักสูตรความรู้ที่ได้สั่งสมมา หากไม่มีหลักสูตรอบรม ความสูญเสียอาจเกินกว่าจะคาดคิดได้
ความมากประสบการณ์และท่วมท้นไปด้วยความรู้ ทำให้พี่บอลได้มีโอกาสเป็นครูฝึก สอนในสนามที่ตัวเองเคยเข้าร่วมอบรม แบ่งแชร์ประสบการณ์ความเครียด ความกดดัน และไหวพริบระหว่างปฏิบัติหน้าที่
เห็นไหมล่ะว่า “คนนี้ของจริง”
ไลฟ์สไตล์แน่นอนหนีพ้นการออกกำลังกาย ดำน้ำ กิจกรรมที่เพิ่มทักษะคู่ไปกับการฝึกอบรมมา เรียกได้ว่า เป็นหนุ่มสายเสพติดการฝึกตัวยงงง (ฮ่า)
มาถามถึงสเปคสาวๆที่ชอบ ด้วยนิสัยพูดน้อยพูดไม่เก่งอย่างพี่บอล คงไม่พ้นสาวๆเรียบร้อย เป็นแม่บ้านแม่เรือน เรื่องเวลาและการทำงานไม่ต้องห่วง พี่บอลคนนี้จัดการให้ได้ค่า (10 10 ไม่หัก)
กว่าหนึ่งชม.เต็มที่พูดคุยกัน พี่บอลทิ้งท้ายว่า
อยากเป็นแบบอย่างแก่น้องๆรุ่นต่อไป หลายคนอยากลงฝึกด้วยความเท่หรืออะไรไม่ใช่ส่วนสำคัญ แต่การฝึกทำให้เราได้ใช้อาวุธเป็น รู้ยุทธวิธี การได้ฝึกก่อนลงสนามจริงคือความได้เปรียบ ลดโอกาสความสูญเสียและความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดโอกาสและแรงสนับสนุน ทั้งผู้บังคับบัญชา ที่มอบโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูฝึกทุกท่านที่เป็นทั้งอาจารย์และแบบอย่างให้ความรู้ติดตัว สร้างความภาคภูมิใจให้ตนเองขนาดนี้
ด้วยประสบการณ์ทั้งสนามจริงและสนามทดสอบ เป็นเครื่องพิสูจน์ผ่านเข็มบนอกแล้วว่า จ.ส.ต.ภูมิพัฒน์ หรือพี่บอลของเรา เป็นตำรวจน้ำดีอีกหนึ่งนาย
นอกจากจะเก่งแล้วยังมีจิตใจที่หวังถ่ายทอดความรู้สู่รุ่นต่อไปอีกด้วย
“ศุพิต พ.”บันทึก27/8/65