เดอะหม่อง–พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ อีกหนึ่งนักสืบจากขุมกำลัง นรต.36
ได้เห็นเดอะหม่อง–พล.ต.ต.สุรชัย ควรเตชะคุปต์ รองผบช.น.แถลงข่าวออกทีวี จับแก๊งลักจยย. โดยใช้วิธีปลอมเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ตระเวนลักจยย.ขายแล้วให้คิดออก นายพลคนนี้ กากีกลาย คุ้นเคยเจอกันตั้งแต่ยังเป็นสารวัตร หรือรองสารวัตรที่กองปราบฯ สมัยยังตั้งอยู่สามยอด ล่าสุดได้คุยได้เจอกันเมื่อช่วงที่พล.ต.ต.สุรชัย มาเป็นรองผบช.ภ.7 ตอนนั้นมีจังหวะไปพูดคุยสัมภาษณ์จิปาถะ บางเรื่องก็เก็บเอาไว้ พอมาเห็นพี่เขาออกทีวีแถลงข่าว ก็คิดว่าน่าจะเอาเรื่องราวที่ได้สัมภาษณ์มาให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนนายพลคนนี้ ที่มาที่ไปอย่างไร
พี่เป็นคนสมุทรสาคร มีพี่น้องมี 10 คน พี่เป็นคนที่ 9 ส่วนพี่พิชิต ควรเดชะคุปต์ (พล.ต.อ.)เป็นคนที่2 เป็นนรต.รุ่น 25 มีพี่ชายอีกคนรุ่น 34 เสียไปแล้ว จริงๆก็ไม่ค่อยได้ไปบู๊อะไร แต่เพราะเห็นพี่เป็นตำรวจ 2 คน ก็เลยเป็นตำรวจด้วย เรียนจบ นรต.36 ลงบรรจุครั้งแรกที่สระบุรี รอง สว.ส.สระบุรี แล้วมาอยู่ สน.บางซื่อ เป็นรองสารวัตรอยู่สายสืบ 5 ปี สมัยนั้นพี่จุ๋ม–จุมพล มั่นหมาย เป็น สวป. จากนั้น ไปอยู่ผ. 4 กก 8 ป.(ท่องเที่ยว) ตอนอยู่กอง 8ท่องเที่ยว ก็สนุก จับอุตลุด เพราะแต่ก่อนท่องเที่ยวยังไม่มีการจับ แต่พอเรามาจากบางซื่อ มาอยู่แผนก 4 กอง 8 เลยเหมือน แผนก 4 กอง 2 คือสืบสวนสอบสวนนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ ก็ไปลุยจับแก๊งจีน แก๊งอะไรที่เป็นต่างชาติ ลูกน้องดีด้วย ช่วงนั้นจับเป็นว่าเล่น ต่อมาสักพัก กก.8 ป. ยกฐานะเป็น บก.ท่องเที่ยว ก็อยู่อีกพักหนึ่ง ไม่นาน ขึ้นสารวัตร ผ. 5 กก. 5 ป. อยู่ทางใต้ สมัยนั้นพล.ต.ต. รังสิต ญาโณทัย เป็นผู้การ พี่แป๊ะ จักรทิพย์ ชัยจินดา อยู่ ผ.3กก.1ป. พี่ช้าง ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย อยู่ผ.2กก.2ป. จากนั้นมาเป็นสารวัตรผ.1 กก.1ป. ขึ้นรองผกก.1ป. ขึ้น ผกก.อำนวยการสระบุรี แล้วก็มาดำเนินสะดวก มหาชัย ขึ้นรองผู้การสมุทรสาคร รองผู้การหัวหน้าศูนย์สืบสวนภาค 7 ผู้การ ปปป.ไปอยู่มุกดาหาร 2 ปี หัวหน้าศูนย์สืบภาค 3 ปีหนึ่ง แล้วมาเป็นผู้การสืบภาค7 รองผบช.ภ. 7 ก่อนมาเป็นรองผบช.น. คุมงานสืบสวนและปจร.
พอมาเป็นนักสืบก็ชอบ เพราะเป็นคนชอบสอดรู้สอดเห็น ทำแล้วสนุกเหมือนเล่นเกมว่าเมื่อไหร่จะออก แต่ตอนหลังโตขึ้น ก็มาคุมงาน ป.ก็เอาความรู้จากสืบสวนมาใช้ เพราะเรารู้ช่อง เราต้องเหนือกว่าโจร โจรคิดอะไรเราก็เอาตรงนั้นมาวางแผนป้องกัน ใช้ในการทำงาน ก็เอางานสืบสวนที่เราสัมผัสมาวางมาตรการในการป้องกัน อย่างพวกรถมอเตอร์ไซค์ป้ายแดง ไม่ติดป้าย ยึดให้หมด แต่ก่อนเรามักจะมีคดีไปอุ้ม ไปหิ้วอะไร แล้วรถไม่ติดแผ่นป้ายหรืออะไรใช่มั้ย ก็เอาพวกนี้มาในการป้องกัน เรามองมุมกลับ ว่ามันคิดยังไง ก็เอามาวางมาตรการป้องกัน
รองผบช.น.เล่าให้ฟังอีก “ตอนอยู่เป็นสายสืบสน.บางซื่อ หรือเป็นรองสารวัตรใหม่ๆอยู่สระบุรี ทำงานแบบไม่กลัว ไปทำงานชนิดถลกมุ้งจับโจร อาจด้วยความคึกคะนองช่วงนั้น คือใจมันกล้า ช่วงใหม่ๆ มันกล้า ใจเรามันเหมือนมันนักเลง ไม่กลัวใคร มันคึก ไม่ได้คิดอะไร ไม่มีลูก ไม่มีเมีย มันก็ทำงานเต็มที่ ทำด้วยความสนุกสนาน ทุ่มเท อย่างตอนอยู่กองปราบฯไปทำงานอยู่ใต้ อยู่นาน อยู่ที 2-3 เดือน แต่ก่อนเราอยู่กอง 5 คดีฆ่า5 ศพครอบครัวบุญทวี ไอ้คดีศักดิ์ ปากรอ มีวิสามัญ พวกไอ้หว่า 9 นิ้ว ตรงอาบอบนวดพญาไท ตอนเราอยู่ท่องเที่ยว มันเป็นแก๊งคนจีนที่ตัดนิ้ว เคยได้ยินมั้ย มันนานแล้ว แต่ก่อน เป็นแก๊งคนจีน ตอนอยู่ท่องเที่ยว แก๊งคนจีน ก็ทำกับพี่ต้อย–พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ พิสุทธิศักดิ์ (เกษียณอดีตผู้ช่วยผบ.ตร.) แกก็ใช้เราเป็นหลักนั่น ไอ้ชัด(พ.ต.อ.นภันฑ์วุฒิ เลี่ยมสงวน) แต่ก่อนอยู่ด้วยกัน….”
“ สำหรับพี่ๆที่เป็นครูที่ดี มีพี่อ๊อด–ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา พี่วิน–อัศวิน ขวัญเมือง พี่พงษ์– สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ อยู่แล้วทำงานสนุก พี่ต้อย–พิสิฎฐ์ พี่โก๊ะ–สมภพ พงษ์ฤกษ์ แต่ก่อนทำงานกันสนุกอยู่แบบพี่น้องสนุก แต่ก่อนกองปราบนี่ขุนศึก เป็นที่พึ่งได้ เราไปทำงานทางใต้ คนกลัวนะ แล้วเป็นทีม มันศักดิ์สิทธิ์นะ ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ งานเป็นหลัก คนผู้มีอิทธิพลอะไร ถูกฆ่า เราไปจับได้หมด คดีที่เขามาร้องเรียน ส่วนใหญ่เราไปพลิกคดีได้ เอามาสอบสวนเอง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมี อาจจะท้องที่อาจจะดีขึ้นก็ได้ แต่ก่อนนี่ คนมาขึ้นกองปราบเยอะ เราก็ขอไปสอบสวนฝ่ายเดียว เดี๋ยวนี้โลกมันเปลี่ยน แต่ก่อนแต่ละภาคยังไม่แข็งแรง แต่ตอนนี้มันผลิตนักสืบที่มีคุณภาพไปตามแต่ละภาค ไปสร้างไว้ แต่ก่อนนักสืบมันอยู่เฉพาะใน นครบาลกับกองปราบ ตอนหลังกระจายกันไป ไปมีวิชาความรู้กัน เดี๋ยวนี้มันดีขึ้น แต่ก่อนถ้าทำด้านเทคนิค ด้านอะไร มันก็มีกองปราบ กับ นครบาล ที่ทำ ภูธร ไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่ว่าเราเก่ง แต่เรามีเทคนิคที่เหนือกว่า ไปทำคดีอะไร มันก็คลี่คลายหมด มันง่าย แต่ตอนนี้กองสืบ แต่ละภาคเก่งขึ้น มีพัฒนาการ เทคโนโลยีอะไรก็ก้าวทัน…”นายพลคนมหาชัยให้ความเห็น
งานสืบสวน เดี๋ยวนี้มันจะไปคือถ้าคนร้ายใช้เทคโนโลยี ส่วนใหญ่จะจับได้หมด เดี๋ยวนี้วิวัฒนาการงานสืบสวนมันดีขึ้น เพราะมีกล้องวงจรปิด กล้องเนี่ยมันได้ประโยชน์มาก ถ้าไม่ได้ก็ประสานหน่วยที่เกี่ยวข้อง อีกหน่อยมีคดีปุ๊บ นะ ถ้านักสืบขยันจริง ไปตามเส้นทางจับได้หมด เทคโนโลยีมันไม่ใช่เฉพาะโทรศัพท์ เดี๋ยวนี้มันพวกกล้องวงจรปิด อะไรพวกนี้ สรุปแล้วถึงตอนนี้ ไม่มีอะไร ก็ถือว่าโอเค. ตอนหลังใจเย็นขึ้น แต่ก่อนไม่รู้ทำไม ถ้าไม่ถูกต้องนี่ไม่ได้ และจะยอมกับบางคนอย่างพี่ต้อย พี่อ๊อด อย่างนี เราสนิทเราซี้ เรายอม แต่คนอื่นไม่ได้ แล้วมาถึงตอนนี้หลังจากที่บู๊มา ก็เห็นหมดแล้ว ทุกวันนี้ก็พอใจแล้วจากทำงานมา แล้วอยู่รอดปลอดภัยขนาดนี้ก็ถือว่าโอเค.ภาคภูมิใจ…….
ครับ…..นี่แค่เศษเสี้ยวหนึ่งจากนายพลนักสืบ สุรชัย ควรเดชะคุปต์
กากีกลาย 30/1/60