จู้กหู้กกู้กราบ
สัปดาห์ที่ผ่านมามีเกมคัดบอลโลกระหว่าง บราซิลกับอาร์เจนติน่า ที่จบลงด้วยสกอร์ 0-0 แบบสุดเดือด
เป็นอีกครั้งที่จู้กหู้กกู้ได้เห็นฟอร์มของ เทพเฟร็ดแห่งผีแดง โชว์ฝีเท้าอันเอกอุให้เป็นที่ประจักษ์อีกครั้ง
ภาพ อ้ายเฟร็ดเฟ่ ของทีมผีแดง แฟนบอลหลายๆคนรวมถึงแฟนผี อาจจะมีภาพจำของ กองกลางบราซิล ที่เตะตัดเกมไม่ขาด เล่นเกมรับไม่ไหว ส่วนเกมรุกก็หมาไม่แหลกเช่นกัน…
แต่กับทีมชาติบราซิล ยิ่งในเกมล่าสุดแล้วละก็ ผมขอเทียบให้เฟร็ด เล่นได้ยอดเยี่ยมเกินบรรยาย
– เอาชนะการดวลกัน 11 ครั้ง (มากที่สุดในทีม)
– เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 4 จาก 5 ครั้ง
– โดนตัดฟาล์ว 4 ครั้ง (มากที่สุดในทีม)
– แย่งบอลสำเร็จ 8 ครั้ง
– ยิงชนคาน 1 ลูก
ถ้าใครยังไม่มีโอกาสชมไฮไลต์ของ เฟร็ดร่างทองในสีเสื้อบราซิลแล้วล่ะก็แนะนำว่า ลองไปเสียเวลาดูสักนิด แล้วจะเข้าใจว่า ที่ผ่านมา ที่แกเล่นได้ห่วยแตกในยามใส่เสื้อผีแดงนั้น 55+ มันอาจจะมาจากการที่แกเล่นผิดตำแหน่งเสียมากกว่า…..
เพราะตำแหน่งประจำของเขากับบราซิล คือการถูกขนาบข้างด้วยนักเตะเกมรับระดับเวิลด์คลาสอย่าง คาเซมิโร่ หรือ ฟาบินโญ่ จนทำให้เขาสามารถเล่นบอลดึงเกม ดึงจังหวะ รวมไปถึงจ่ายบอลงามๆให้เพื่อนแบบที่เราไม่เคยเห็นเขาทำที่โอลด์แทรฟฟอร์ด
การลงเล่นคู่กับ กองกลางที่รับหน้าที่คล้ายๆกันกับการเป็น CM (central midfield) ของเขาและ สก็อตต์ แมคโทมิเนย์ อาจจะเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่แม้แต่ น้ายิ้มเองจะคาดคิดถึง…
เพราะหากไม่เอาวันหยุดไปเที่ยวพักผ่อนเสียหมด ตลาดมกรานี้ ผีแดงอาจจะได้มีโอกาสใช้ เฟร็ดร่างทองแห่งบราซิลก็ได้
หากเพียงแต่บอร์ดผีแดงและน้ายิ้ม เลือกจะเสริม กองกลางตัวรับในตำแหน่ง CDM (central defensive midfield) มายืนคู่กับเขาสักคน
ว่าแต่ถ้าให้เดา…เผลอๆ น้ายิ้มแกอาจจะไม่เคยดูเฟร็ดเล่นให้บราซิลก็เป็นได้ ถึงได้ดันทุรังจับแกเล่นเป็นกองกลางตัวรับ(ความฮา) แทบทุกนัด!!! (ฮา)
เรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับ “เฟร็ด”
1. เฟร็ด เกิดวันเดียวกันกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เป๊ะๆ นั่นคือวันที่ 5 มีนาคม 1993 เอาเป็นว่าจัดปาร์ตี้ฉลองวันเกิดได้พร้อมกันเลย
2. เฟร็ด เติบโตมาโดยมี โรนัลดินโญ่ เป็นไอดอล และก่อนที่จะมารับบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับ เฟร็ด เคยเล่น “แบ็กซ้าย” มาก่อน
3. เฟร็ด ฉายแววกับสโมสร อินเตอร์นาซิอองนาล ก่อนได้บินมาตะลุยลีกยุโรปกับ “ชัคตาร์ โดเนตส์ค” ยักษ์ใหญ่แห่งลีกยูเครน ด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร โดยสโมสรดึงมาเสียบแทนตำแหน่งของ แฟร์นันดินโญ่ ที่ย้ายไปยังแมนเชสเตอร์ ซิตี้
4. ระหว่างค้าแข้งกับชัคเตอร์ 5 ฤดูกาล เฟร็ด ได้ชูถ้วยแชมป์จนเมื่อยแขน หลังจากกวาดแชมป์ลีกยูเครนมาครองได้ถึง 3 สมัย บวกกับแชมป์ยูเครน คัพ 3 สมัย และยูเครน ซูเปอร์ คัพ อีก 4 สมัย
5. เฟร็ด เคยถูกลงโทษแบน 1 ปีจากกรณีถูกตรวจพบสารกระตุ้นในร่างกาย ระหว่างเล่นให้ทีมชาติบราซิลในศึกโคปา อเมริกา 2015
ต่อมา เฟร็ด ได้ยื่นอุทธรณ์ โดยระบุว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้สารกระตุ้นดังกล่าว ก่อนจะได้ลดโทษแบนเหลือ 4 เดือน
6. เฟร็ด ย้ายมาร่วมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อซีซั่น 2018/19 ในยุคของกุนซือโชเซ่ มูรินโญ่ ด้วยค่าตัวถึง 47 ล้านปอนด์ โดยทีมผีแดงหวังให้มาเป็นตัวตายตัวแทนของ ไมเคิล คาร์ริค ที่แขวนสตั๊ดไป ซึ่งผลที่ออกมาก็ตามนั้นอย่างที่เห็นเลยจ้าาา…
7. ก่อนย้ายมาเป็นสมาชิกเร้ดอาร์มี่ “เฟร็ด” เคยลงสนามบู๊กับทีมผีแดง ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2013/2014 โดยเกมนั้นจบลงด้วยชัยชนะของแมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะแพ้ แต่ เฟร็ด เผยว่าเขารู้สึกปลาบปลื้มไม่น้อยที่ได้ดวลแข้งกับยอดทีมที่เขาติดตามมาตลอด
“ตอนกลับไปบ้านที่บราซิล เวลาพวกเราเล่นเกมฟุตบอลกัน ผมมักจะใช้ ยูไนเต็ด ในเกมวินนิ่ง อีเลฟเว่น ซึ่งผมได้บังคับนักเตะอย่าง เฟอร์ดินานด์, ฟาน เดอ ซาร์, เบอร์บาตอฟ, กิ๊กส์, รูนี่ย์, สโคลส์ และผู้เล่นระดับท็อปอีกหลายคน”
“ดังนั้นตอนได้ลงเล่นที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด และได้ดวลกับ กิ๊กส์, รูนีย์ หรือเฟอร์ดินานด์ ผมก็รู้สึกยังไงๆ อยู่เหมือนกันนะ แต่อย่างน้อย ผมก็ได้ดวลกับพวกเขา ซึ่งทำให้ผมมีความสุขมาก”
8. บุคคลสำคัญที่ทำให้ดีลย้ายมายังโอลด์ แทรฟฟอร์ด เกิดขึ้นได้ นั่นก็คือ “กิลแบร์โต้ ซิลวา” อดีตมิดฟิลด์อาร์เซน่อล ทำหน้าที่เป็นเอเยนต์ส่วนตัวให้กับ เฟร็ด นั่นแหละ
ตบมือ