อาชญา(ลง)กลอน
โดย…ธนก บังผล
เกือบ 1 เดือนเต็มๆที่ทุกโฟกัสของคนไทยจับจ้องไปยังปฏิบัติการณ์ช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง และผมคิดว่าตัวผมเองก็ได้เขียนถึงเรื่องนี้ทั้งในสื่อส่วนตัวและสาธารณะหลายแห่งจนหลายคนอาจจะเบื่อเหมือนผม
ยิ่งเมื่อมีการแถลงปิดส่งทีมหมูป่าอะคาเดมีกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย อะไรๆที่ควรจะเดินหน้าไปคุยเรื่องใหม่ในสังคมก็ควรจะได้เริ่มจริงจังเสียที
แต่เหมือนหลายๆคนอารมณ์ยังค้างอยู่ที่ขุนน้ำนางนอน ไม่เลิกไม่รา
ผมกำลังหมายถึง “กติกา” หรือที่เรียกกันด้วยภาษารื่นหูว่า “ขอความร่วมมือ” โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่ถูกจับจ้องจากประชาชนผู้รับสารในช่องทางต่างๆทั่วทั้งประเทศ
กติกา ที่ถูกขอให้ปฏิบัติร่วมกันนั้นมีไม่มากและทำไม่ยากครับ คือ ให้ความเป็นส่วนตัวกับครอบครัว ปล่อยให้เด็กๆกลับไปเรียนหนังสือ การสัมภาษณ์อะไรก็ให้หยุดให้จบตั้งแต่วันที่ออกมาจากถ้ำ สรุปง่ายๆคือ “ห้ามสื่อสัมภาษณ์ทั้ง 13 คนนอกรอบ”
ซึ่งทางสมาคมวิชาชีพสื่อเองก็ออกมากำชับให้ทุกสื่อปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ผมยอมรับว่ามีบางช่องพยายามจะแหกกฎหาวิธีเพื่อให้ได้ข่าวมา แต่ก็อย่าลืมว่ากระแสก่อนหน้านี้สังคมด่าสื่อเละเลยนะครับ เละกันจนถึงกับว่าสมาคมวิชาชีพสื่อต้องหาวิธีถอดบทเรียนการรายงานข่าวครั้งนี้กันเป็นเรื่องเป็นราว
ระหว่างที่ชุลมุนก็มีนักข่าวที่ลงไปทำงานในพื้นที่บ่นหลายครั้งว่า วิธีการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต่อ “สื่อไทย” และ”สื่อต่างประเทศ” เข้าขั้นทุเรศ น่าเกลียดยิ่งกว่า 2 มาตรฐาน
คือ อำนวยความสะดวกปรนนิบัตินักข่าวต่างประเทศราวกับเทวดา จนต้องตั้งคำถามว่าที่เจ้าหน้าที่ทำลงไปนั้นเป็นเพราะเกรงใจ หรือสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้กันแน่
แล้วก็เป็นสื่อต่างประเทศเองนี่แหละครับที่ทำมึนกับกติกาบ่อยๆ
ไม่ใช่แค่เพียงเสียมารยาทในการรายงานข่าวเท่านั้น แต่ถึงกับกระทืบข้อตกลงที่ทางรัฐได้กำหนดไว้แบบไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น โดยมีเจ้าหน้าที่คอยยืนยิ้มประหนึ่งยินดีกับการทำลายข้อตกลงร่วมกันกับสื่อ
บ้านผมเรียกอาการนี้ว่า “โรคบ้าฝรั่ง”
คนไทยมักเป็นแบบนี้ละครับ มีน้ำใจ มีรอยยิ้มให้กับคนต่างชาติเสมอ ในขณะที่คนร่วมชาติเองถ้าประเทศสงบก็แทบจะลากมาตบหน้าเสาธง
แล้วก็เป็นสื่อต่างชาติอีกเช่นเดียวกันที่กระโดดถีบปากสื่อไทยซึ่งกำลังกัดจรรยาบรรณไว้แน่นด้วยการไปตามสัมภาษณ์ 1 ใน 13 ทีมหมูป่าติดถ้ำถึงบ้าน โดยโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ประมาณว่า
ทางครอบครัวเด็กให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และรู้ว่ายังเด็กเลยไม่ถามลึกลงในรายละเอียดอะไรมาก
พอเป็นอย่างนี้ปุ๊บ พวกที่เป็นโรคบ้าฝรั่งก็เข้าไปอวยกันใหญ่ว่าสื่อต่างชาติทำดีอย่างนั้น อย่างนี้ เป็นมืออาชีพบ้างล่ะ น่ารักบ้างล่ะ โดยไม่ลืมหูลืมตาขึ้นมาดูเลยว่ามันกำลังโบ้ยทุกความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นไปให้ครอบครัวน้องเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ถ้าหากนี่เป็นเกมที่มีกติกา ก็ต้องเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่าเกมนี้มีคนโกง คือสื่อที่ละเมิดข้อตกลง และคนไทยที่เห็นดีเห็นงาม
ผมถามคำเดียวเท่านั้นละครับ ในทางกลับกันถ้าสื่อไทยไปสัมภาษณ์อย่างที่สื่อต่างชาติทำบ้าง คนไทยจะชื่นชมหรือก่นด่า
อย่างนี้ไม่เรียกว่า “โรคบ้าฝรั่ง” จะให้เรียกว่าอะไร