พี่ต่อ-พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบก.ป.
จัดเป็นอีก1ตำรวจดาวฤกษ์อีกคนที่ผมรู้จัก
นับเป็นลูกหม้อกองปราบ เพราะอยู่รถวิทยุมาตั้งแต่เป็นรอง สว.
นอกจากจับโจรในหน้าที่แล้ว ยังมีผลงานพัฒนาหน่วยนับไม่ถ้วนโดยเฉพาะ กก.ปพ.บก.ป.จนพลิกโฉมไปมาก
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถวิทยุที่เปลี่ยนมาใช้สีเป็นสากล เป็นจิตวิทยาสี เครื่องแบบคอมมานโด ที่มีลายผ้าเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง สนามยิงปืนที่ทันสมัย รวมไปถึงอาคารที่ทำการคอมมานโด และที่พักของกำลังพล สะอาดสวยงามอินเตอร์ฯลฯ
แถมยังมีกำลังภายในกล้าแข็ง เป็นนายตำรวจทีมีออร่าเจิดจ้า มีแสงสว่างในตัวเองด้วย
นอกจากจะได้ชื่อจากสื่อเป็นมือปราบธรรมมะแล้ว ล่าสุดยังได้รับรางวัลจากสมาคมนักข่าว-ช่างภาพอาชญากรรม 1ใน20 ต้นแบบผู้พิทักษ์ สาขาปราบปรามผู้มีอิทธิพลด้วย
เลยขอย้อนนำบทสัมภาษณ์ที่เคยบันทึกเรื่องปืนผาหน้าไม้ที่พี่เขาเอาไว้กำราบผู้มีอิทธิพล สยบเหล่าโจรมิจฉาชีพมาอ่านกันอีกครั้ง เชิญครับ
ใช้ Kriss Super v สยบผู้มีอิทธิพล
หลังเกิดการปฏิวัติในกองปราบปราม มีปฏิบัติการลุยล้างอิทธิพลหลายที่ แต่ละที่จะเห็นคอมมานโดชุดเขียว พร้อมอาวุธครบมือแสดงแสนยานุภาพ รวมทั้ง Show Of Force ในการควบคุมคนร้ายคดีสำคัญอยู่บ่อยๆ
สังเกตเห็นผู้นำคอมมานโด พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป.ถือปืนทรงแปลกตา ไม่เหมือนลูกทีมที่ใช้ MP 5 หรือ M 4 เป็นปืนประจำกาย จำไม่ผิดเคยเห็นแว้บๆในภาพยนตร์แอ๊กชั่นบู๊ล้างผลาญล้ำอนาคต
เก็บความสงสัยไว้จนได้จังหวะเจอตัว ไม่พลาดที่จะเอ่ยปากถามความข้องใจที่พกมานาน แถม “โรนิน” ยังมีโอกาสได้ยิงปืนกระบอกนี้ด้วย ไม่น่าเช่ือ ว่าปืนที่ใช้ลูกกระสุน .45 จะยิงนิ่มนวลอะไรปานนี้
พ.ต.อ.ต่อศักดิ์บอกว่า ปืนนี้เรียกว่า Kriss Super v ถือเป็นปืนแห่งอนาคต ที่รวมข้อดีของปืนพกและปืนยาวเข้าด้วยกัน น้ำหนักเบาเพราะบอดี้เป็นโพลิเมอร์ มีแรงถีบที่น้อยทำให้อัตราการสะบัดของปืนต่ำ
ใช้เพราะหน้าที่หลักๆของคอมมานโดกองปราบฯ จะรบในเมือง หนักไปทางตรวจค้นห้องพัก ในบ้าน Close Quarters Battle (CQB)ถ้าใช้ M16 หรือ M 4 ยิง กระสุนขนาด .556 อาจจะทะลุไปห้องข้างๆ โอกาสจะไปถูกผู้บริสุทธิ์มีสูง หรือถ้าใช้ลูก 9 มม.ความเร็วต้นสูงมันก็ทะลุ
แต่อันนี้ลูก .45 หรือ 11 มม.ความเร็วต้นน้อย แต่แรงปะทะสูง จะหยุดยั้งคนร้ายได้ ถือว่าเหมาะมาก เพราะยังไม่เคยมีใครทำปืนเซมิออโตคล้ายๆ ปืนเล็กกล มาใช้ในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
หลังศึกษาข้อดีจากหน่วย SWAT ของสหรัฐอเมริกา ก็ซื้อมาใช้ส่วนตัว มีรองผกก.กับสว.ในหน่วยอีก2 คนที่ใช้….
ส่วนปืนสั้นประจำกาย ใช้ Glock 19 Gen 3 ปืน Backup ใช้ Keltec .380 กระบอกจิ๋วติดตัว
แต่กรณีมีภารกิจอารักขาบุคคลสำคัญ จะใช้ Glock 18 ลูก 9 มม. รุ่นนี้ยิงออโตเมติกได้เหมือนปืนกล แม้จะหวังผลได้ค่อนข้างน้อยเพราะคอนโทรลค่อนข้างยาก แต่ถือเป็นการกดดันคู่ต่อสู้ ขณะที่นำวีไอพี.หนี
นอกจากปฏิบัติหน้าที่ ผกก.ปพ.บก.ป. เดอะต่อ ยังทำหน้าที่หัวหน้าชุดถวายความปลอดภัย โดยทุกคนในทีม เขาจะบังคับให้ใช้ปืนขนาดเดียวกันหมด ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือกันได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
เมื่อถามถึงปืนกระบอกแรกในชีวิต พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ฟื้นความหลังเล่าให้ฟัง
“ใช้ 38 Smith Chief 5 นัด ลำกล้อง 2 นิ้ว ซื้อตั้งแต่ยังไม่เป็นตำรวจ แล้วก็มี Sig sauer P226 ซื้อเพราะเป็นปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฏหมายของอเมริกา ยิงมาเป็นหมื่นนัด ไม่เคยขัดลำกล้อง แต่ข้อเสียคือด้ามใหญ่ ไม่กระชับมือ เพราะแมกกาซีนเป็นแบบ 2 แถว เหมาะสำหรับฝรั่ง แต่ Glock เหมาะกับคนเอเชีย เลยใช้ยี่ห้อนี้มาเรื่อย….”
นอกจากนี้ก็มีลูกโม่ .357 Smith&Wesson Model 686 เอาไว้ล่าเหรียญรางวัล
พูดถึงรางวัล เดอะต่อ ไม่ธรรมดา ล่าสุดเพิ่งไปยิงปืนทดสอบประจำปี ของตร.ที่โคราช ได้เหรียญทองทั้งปืนยาว M-16 และปืนสั้น มาไว้ในมือ 2 เหรียญ
จะไม่ได้รางวัลได้ยังไง เพราะเป็นถึงอดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ ได้เหรียญทองประเภทปืนสั้นอัดลม สมัยเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่กรุงเทพฯ และงานฉลองวันชาติสิงคโปร์
ส่วนงานอื่นๆอย่างกีฬาแห่งชาติ เจ้าตัวบอกว่าก็ไปเรื่อย ได้บ้างไม่ได้บ้าง
ดีกรีอื่นๆ สมัยเป็นตำรวจสายตรวจรถวิทยุ191 ใหม่ๆ ไปสอบได้ที่ 1 ครูฝึกหลักสูตรยุทธวิธีของเอฟบีไอ.สหรัฐอเมริกา เลยได้เป็นครูสอนยุทธวิธีที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และยังพ่วงสอนยิงปืนให้ นรต.ไปด้วย
ประเดิมศิษย์รุ่นแรก นรต.54 สอนมาตั้งแต่ยศ ร.ต.ท. จนถึงปัจจุบันตอนนี้ก็ 16 ปีแล้ว
“ผมให้ความสำคัญกับการฝึกซ้อมยิงปืนมาก เมื่อฝึกซ้อมจนมีมาตรฐานการยิงปืนที่ดีแล้ว จะทำให้ขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ซึ่งมีการพกอาวุธปืนดีขึ้นไปด้วย…”
Cop’s Magazine Vol.10 No.110 2015.10
ปัจจุบันเป็นรองผบก.ป.
