เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 ธ.ค.64ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบช.น. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ
แถลงข่าวจับกุมนายคเชน หรือหมี อายุ 28 ปี นายปู อายุ 25 ปี นายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี นายชานนท์ อายุ 24 ปี นายชาญเดช อายุ 21 ปี นายอธิวัฒน์ อายุ 18 ปี และน.ส.วิชุดา อายุ 20 ปี
ข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ตามความผิดพ.ร.บ.ยาเสพติดฉบับใหม่
พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง 704 ก้อน น้ำหนักรวม 704 กก.ปืน 9 มม. กระสุน 15 นัด รถยนต์ใช้ขนยาเสพติด 2 คัน รถจยย. 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง และอุปกรณ์การบรรจุกัญชาใส่กล่องส่งพัสดุไปรษณีย์
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า
สืบเนื่องจากวันที่ 19 ต.ค. ตำรวจ191 จับกุมผู้ต้องหา 5 คนพร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งหนัก 616 กก. ภายในบ้านพักย่านจ.นนทบุรี และขยายผลจับกุมเครือข่ายได้เพิ่มเติมอีกวันที่ 23 พ.ย. จับผู้ต้องหา 4 คน พร้อมของกลาง กัญชาอัดแท่งหนัก 600 กก. ซุกอยู่ในหมู่บ้านย่านท่าข้าม กทม. ผู้ต้องหาจะเช่าบ้านเป็นจุดพักยาเสพติดก่อนจำหน่ายให้ลูกค้าโดยส่งพัสดุทางไปรษณีย์
ชุดจับกุมขยายผลได้เบาะแสว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการระดับต้นตอหลงเหลืออยู่ จัดชุดสืบสวนเฝ้าติดตามพฤติกรรมจนได้เบาะแสว่า นายคเชนหรือหมีเป็นหัวหน้าใหญ่ขายกัญชาในกลุ่มไลน์ปิดชื่อ “ทีเด็ด 420”
เช่าบ้านในซอยพุทธมณฑล สาย 3 ซอย 19 แยก 6-14-1 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. ซุกซ่อนกัญชาและที่แพ็คสินค้าขายให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท อีกทั้งส่งขายทางภาคใต้และออกนอกประเทศ
รองผบช.น. กล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 13 ธ.ค. ชุดสืบสวนงานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ ปิดล้อมบ้านอยู่สะกดรอยตาม นายคเชน นายปู และนายธนวัฒน์ ขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน สจ 9099 กรุงเทพมหานคร ออกจากบ้านไปถึงบริเวณริมถนนเส้น 3004 ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
นายธนวัฒน์ลงจากรถไปขับรถกระบะเชฟโลเลต สีขาว ทะเบียน 2 ฒผ 2361 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในซอยริมถนนหลังรถบรรทุกสิ่งของคลุมด้วยผ้าสีดำขับเข้าบ้านดังกล่าว
จากนั้นผู้ต้องหาที่เหลือ 4 คนออกจากบ้านมาช่วยขนของจึงกำลังจู่โจมจับกุม ตรวจค้นพบเป็นกัญชาอัดแท่ง 704 ก้อน และพบอาวุธปืนพร้อมกระสุนในรถเก๋งฮอนด้า
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า นายคเชนรับกัญชามากจากชายไม่ทราบชื่อสกุลจริง นำเข้ามาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจำหน่ายทางออนไลน์ ได้กำไรลอตละ 200,000-300,000 บาท ทำมาแล้วประมาณ 1 ปี
เช่าบ้านเก็บกัญชามา 2 เดือน ที่เหลือช่วยทำหน้าที่ไปลำเลียงกัญชามาเก็บไว้ที่บ้าน บรรจุใส่กล่องพัสดุส่งลูกค้า ได้รับค่าจ้างคนละประมาณ 30,000 บาท
แจ้งข้อหานายคเชนเพิ่มเติมคดีครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ส่งบช.ปส.ดำเนินคดี รวมถึงขยายผลจับกุมลูกค้าและเอเย่นต์ อายัดทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติดต่อไป.
