วันที่ 11 ก.พ.66 ที่ บช.ก.พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผบก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ รองผกก.5.บก.ป.
ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายวิริโย หรือโย อายุ 55 ปี ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและพกพาอาวุธปืนฯ” และยังเป็นผู้ต้องหารายสำคัญตามปฏิทินหมายจับมือปืน และผู้ร้ายรายสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลำดับที่ 18
จับได้บริเวณ ริมถนนเลียบคลอง ม.1 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช หลังหลบหนีมาได้ 15 ปี
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.51 มีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ขี่ประกบรถยนต์โตโยต้า ราฟโฟ ทะเบียน ข 2222 นครศรีธรรมราช มีนางคมคาย และนายอารยะ โฆษิตกุล สองสามีภรรยานั่งอยู่ ก่อนจะชักปืน 9 มม.จ่อยิงคนทั้งสองเป็นเหตุให้นางคมคาย เสียชีวิตคาที่ ส่วนนายอารยะได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่หน้าร้านญานิกาไทยยะสปา ถ.วิชิตสงคราม อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต
จากการสืบสวนเชื่อว่ามูลเหตุจูงใจในการจ้างวานฆ่า น่าจะมาจากการขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจในพื้นที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต เนื่องจากสองสามีภรรยาเป็นเจ้าของธุรกิจหลายพันล้านในจ.ภูเก็ต และเป็นผู้ดูแลศูนย์การค้าจินตนาพลาซ่า ที่หาดป่าตอง มีปัญหาแย่งชิงผลประโยชน์กันในขณะนั้น
ผบช.ก.กล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนขอศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาที่รวมก่อเหตุได้ทั้งหมด 7 ราย จับกุมได้แล้ว 6 ราย เหลือนายวิริโย ที่ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ให้มือปืน หลบหนีการจับกุมนานกว่า 15 ปี กระทั่ง สืบทราบว่าหลบหนีมาอยู่ใน อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังจับกุมดังกล่าว
สอบสวนรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้าง 10,000 บาท ขี่รถ จยย.ให้มือปืน วันก่อเหตุได้ขี่รถประกบรถยนต์ผู้ตายก่อนที่มือปืนจะยิงสองสามีภรรยาจนรถยนต์เสียหลัก หลังจากนั้นจึงได้หยุดรถ ก่อนจะลงไปยิงซ้ำก่อนหลบหนี นำตัวส่งสภ.กะทู้ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป