วันที่ 24 มี.ค.66 สภ.เมืองกาฬสินธุ์ รายงาน คดีที่น่าสนใจ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินฯ
กล่าวคือเมื่อวันที่ 23 มี.ค.66 เวลาประมาณ 07.00น. พ.ต.อ.เกษม มุฑาพร ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ รับแจ้งจาก นางมณีรัตน์ ดวงวิสุ่ย ว่านายทวีศักดิ์ ดวงวิสุ่ย พี่ชาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการใด จับกุม พร้อมยาบ้า 2,000 เม็ด
ต่อมาชุดจับกุมดังกล่าวได้ติดต่อมาหา นางมนีรัตน์ฯ โดยบอกว่าให้นำเงิน 500,000บาท มาให้ เพื่อแลกกับการไม่ให้ถูกจับกุมตัวนายทวีศักดิ์ฯ และนางมนีรัตน์ฯ ได้เจรจาต่อรองลดลงเหลือ 400,000บาท ตกลงที่จะนำเงินมาส่งมอบให้บริเวณหลัง สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในวันที่ 23 มี.ค.66 เวลาประมาณ 09.00น. ถ้าไม่มาจะส่งดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน
เมื่อทราบดังนั้นนางมนีรัตน์ฯ ก็ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปลงประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ที่ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์
หลังจากนั้นเจ้าหน้าทีตำรวจชุดจับกุม ได้วางแผนจับกุมโดยตกลงกันว่าให้ นางมนีรัตน์ฯ นำกระเป๋าซึ่งภายในบรรจุเงิน จำนวนดังกล่าวไปมอบให้บุคคลตามที่ตกลงกัน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ยืนดูสังเกตการณ์อยู่บริเวณลานจอดรถ ด้านหลัง สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ใกล้กับห้องปฏิบัติการสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์
เมื่อรับมอบเงินกันเสร็จแล้วนางมนีรัตน์ฯ จะส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเข้าแสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม เมื่อนางมนีรัตน์ฯ เดินทางมาถึงหลัง สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาเรียก และพานางมนีรัตน์ ดวงวิสุ่ย เข้าไปห้องปฏิบัติการสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ประมาณ 10 นาที ก็ได้เดินทางออกมา และได้โทรศัพท์แจ้งให้ พ.ต.อ.เกษมฯ ทราบว่า ได้ส่งมอบเงินให้ผู้ต้องหาพร้อมพวกแล้ว
จากนั้น พ.ต.อ.เกษมฯ ได้เข้าไปที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย นั่งอยู่ภายในห้องสืบสวน และสอบถามว่า ผู้ต้องหาชื่อทวีศักดิ์ ดวงวิสุ่ย อยู่ที่ใด ตำรวจทั้งสามนายแจ้งว่า “ให้กลับบ้านแล้ว” และได้ตรวจยึดกระเป๋าเงินพร้อมธนบัตร (จำนวนเงิน 364,700บาท) ไว้เป็นของกลาง
จากนั้น พ.ต.อ.เกษมฯ ได้สอบถามว่ามีใครได้ร่วมรู้เห็นและกระทำผิดในครั้งนี้ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งการให้การตรงกันว่ามีผู้ร่วมรู้เห็นและการกระทำในครั้งนี้ ประกอบด้วย ร.ต.อ.ธวัชชัย ทับธานี ร.ต.ท.สุพจน์ คำชนะ ด.ต.เศรษฐศักดิ์ มาตสะอาด ด.ต.สมศักดิ์ ชะริชน จ.ส.ต.สถิตย์ ภูแล่นดี จ.ส.ต.ศิริชัย ศรีมาตรา จ.ส.ต.ณัฐพล เพียรสร้าง ส.ต.อ.ธนฉัตร ฉายวิชัย
พ.ต.อ.เกษมฯ ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 นายทราบว่า
“เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ผู้ต้องหาทั้ง 3 นายทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีแล้ว ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง พร้อมของกลาง ส่ง ร.ต.อ.พิชัย กงทิพย์ รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์พงส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป