สืบนครบาลล็อก”ตั้มฟองเบียร์”จุดจบสายกินเด็ก

ผู้การจ๋อ สืบนครบาล  ซ้อนแผนใช้นกต่อรวบ “ตั้มฟองเบียร์” หนุ่มจิตวิปลาสรสนิยม “ใคร่เด็ก”

คนร้ายรายนี้เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเด็กหญิงซึ่งมีอายุต่ำกว่า 15 ปี มาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ราย ซ้ำถ่ายคลิปโป๊เปลือยระหว่างมีเพศสัมพันธ์เก็บไว้ โดยล่าสุดได้ก่อเหตุกับเหยื่อซึ่งเป็นเด็กหญิงวัยเพียง 11 ปี โดยล่อลวงมามีเพศสัมพันธ์บนรถก่อนพาตัวเด็กหนีออกจากบ้านไปเป็นเวลากว่า 11 วัน โดยล่าสุดถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาลจับกุมตัวได้ด้วยแผน “นางนกต่อ” เจ้าตัวอ้างว่า “รักจริงหวังแต่ง”แต่ตรวจสอบโทรศัพท์พบคลิบเหยื่ออีกคน อายุ15 ปีถูกล่วงละเมิดถ่ายเก็บไว้

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ , จ.ส.ต.เอกวุฒิ เชื้อโชติ , ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย

ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.)จับกุมนายศรัณย์ จันทศรี หรือฉายา “ตั้มฟองเบียร์” อายุ 30 ปี ชาวอ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ  ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.228/2566 ลงวันที่ 27 มี.ค. 66

ข้อหา “ปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบหาปีไปเสียจากบิดามารดา” โดยชุดจับกุมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น”จับกุมที่ ริมถนนในซอยเอกชัย 64/5 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน จังหวัดกรุงเทพ

พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจาก ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของสืบนครบาลได้รับแจ้งจากผู้เสียหายรายหนึ่งผ่านเฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB  แจ้งว่า บุตรสาววัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ได้ถูกคนร้าย มีศักดิ์เป็น “อดีตน้าเขย” พาตัวหนีออกไปจากบ้านกว่า 11 วัน และกระทำชำเราหลายครั้ง  แจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ซึ่งปัจจุบันได้มีการออกหมายจับคนร้ายรายนี้แล้ว แต่ยังลอยนวลเกรงว่าลูกสาวจะไม่ปลอดภัย แล้วอาจจะมีการถ่ายคลิปโป๊เก็บไว้

จากตรวจสอบแล้วคือ นายศรัณย์  อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 ม.1 ต.ตำแย อ.พยุห์ จ.ศรีษะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.228/2566 ลงวันที่ 27 มี.ค. 66 โดยผู้เสียหายได้ขอความช่วยเหลือให้ช่วยติดตามจับกุมตัวโดยเร็วเพราะครอบครัวของผู้เสียหายไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้ ต้องอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวว่าคนร้ายจะมาพาตัวบุตรสาวไปอีก

หลังรับแจ้งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมได้ตรวจสอบประวัติ พบเคยต้องโทษกว่า 4 คดี 1. พ.ศ. 2553 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล” , 2. พ.ศ. 2555 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “ใช้สารระเหย” ,3. พ.ศ. 2558 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง” และ 4. พ.ศ. 2558 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย”

หลังรับแจ้งและวิเคราะห์ข้อมูล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ไม่ว่าอย่างไรต้องจับคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยและอนาคตของเหยื่อที่เป็นเด็กเพียง 11 ปี” จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) ลงพื้นที่โดยเริ่ม

จากการเข้าไปพบปะพูดคุยกับครอบครัวของเหยื่อ จนได้ทราบข้อมูลว่าหลังจากที่ครอบครัวของเหยื่อได้พากันไปแจ้งความ นายศรัณย์ฯ ได้หลบหนีไปไม่สามารถติดตามตัวได้ กระทั่ง พล.ต.ต.ธีรเดชฯลงมาควบคุมการปฏิบัติด้วยตนเองและได้เปิดแผนปฏิบัติการสุดคลาสสิค  ใช้ “นางนกต่อ” ติดต่อไปหา นายศรัณย์ฯ จนกระทั่งสามารถตกลงนัดหมายได้

กระทั่งเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 66 เวลา 18.40 น. เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายศรัณย์ฯ ได้เดินทางมา ณ จุดนัดหมายซึ่งเป็นบริเวณที่มีเจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่แล้ว พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงได้นำกำลังชุดสืบสวนนครบาลเข้าจับกุมตัว นายศรัณย์ฯ ตามหมายจับ  ขณะกำลังนั่งรอเด็กนกต่ออยู่ริมถนน ในซอยเอกชัย 64/5 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน  กรุงเทพ

ในชั้นจับกุม นายศรัณย์ จันทศรี ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเหยื่ออายุ 11 ปี กระทั่งได้มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่อเดือน ม.ค. 66 โดยได้กันบนรถที่ตนเองใช้ทำงาน และหลังจากนั้นก็มีเพศสัมพันธ์กันอีกหลายครั้ง กระทั่งทางบ้านของเหยื่อจับได้และมาติดตาม ตนจึงพาเหยื่อ 11 ปี รายนี้หลบหนีไปอยู่ที่อื่นเป็นเวลากว่า 11 วัน และสุดท้ายเหยื่อก็ขอกลับบ้าน ตนเองก็ได้ปล่อยไป

และยังยอมรับอีกว่านอกจากเหยื่อรายนี้ยังมี เด็กหญิงวัย 15 ปี อีกคนหนึ่ง ซึ่งคบหากันเป็นแฟนและเคยมีเพศสัมพันธ์ด้วยกันมาแล้ว  ตั้งใจจะคบเป็นภรรยาทั้ง 2 คน และในอดีตตนเองเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์  ตอนนั้น ได้มีความสัมพันธ์กับเด็กหญิงอายุ 14 ปี ในลักษณะเดียวกัน  ปัจจุบันยังไม่ทราบว่าชอบเด็กเพราะอะไร และยอมรับว่าได้เคยถ่ายคลิประหว่างมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อรายอายุ 15 ปีไว้ในโทรศัพท์แต่ไม่ได้เอาไปเผยแพร่

ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ได้ขยายผลการจับกุมจนพบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของ นายศรัณย์ฯ คือ คลิปโป๊ ซึ่งเป็นการบันทึกภาพระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อจริง และยังมีภาพลักษณะวาบหวิวของเหยื่ออีกด้วย จึงแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีตามกฏหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ในชั้นนี้เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา  ผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นภัยสังคม เพราะพฤติกรรมของผู้ต้องหาเป็นการทำลายอนาคตที่สดใสของเด็กไปทั้งชีวิต และจากรสนิยมของผู้ต้องหารายนี้ ที่มักมีความสัมพันธ์ลึกซึ่งกับเหยื่อซึ่งเป็นเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และยังมีการบันทึกคลิปไว้ขณะมีเพศสัมพันธ์ ลักษณะใคร่เด็ก และน่าเชื่อว่าอาจมีเหยื่อมากกว่านี้

จากการตรวจสอบผู้ต้องหารายนี้เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตรวจสอบ บุตร หลาน ของท่าน หากเคยตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหารายนี้ สามารถแจ้งได้ทางช่องทาง เฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB ซึ่งเรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง และแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”