Monday, November 25, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันตำรวจไซเบอร์เร่งล่านายทุนจีนส่งของไม่ตรงปกแล้วตีเนียนเก็บเงินปลายทาง

    ตำรวจไซเบอร์เร่งล่านายทุนจีนส่งของไม่ตรงปกแล้วตีเนียนเก็บเงินปลายทาง

    โปลิศไซเบอร์บุกค้น2 โกดังสินค้าย่านบางนา พบพัสดุนับหมื่นชิ้น เร่งขยายผลล่านายทุนจีนตัวการ  หลังตีเนียนส่งของเก็บเงินปลายทางหลอกคนในบ้านจ่ายเงินไปก่อน พบเหยื่ออื้อทั่วประเทศ

    เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 24 เม.ย.พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท 2 พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจ นากูร ผกก.2 บก.สอท.2  นำกำลังบก.สอท. 2 ปิดล้อมตรวจค้น 3 จุด ในพื้นที่บางนา

    หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่มีพัสดุเก็บเงินปลายทางมาส่ง ทำให้หลงเชื่อว่าอาจจะมีบุคคลในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานเป็นคนสั่งก่อนชำระเงินให้ไป ทำให้เดือดร้อนและเกิดความเสียหาย มีผู้หลงเชื่อชำระเงินไปเป็นจำนวนมาก

    จุดที่น่าสนใจเป็นการเข้าตรวจค้นโกดัง เก็บของ รับของ 2 แห่ง ภายในซอยบางนาตราด 17 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กทม.  เป็นโกดังให้เช่า  โกดังแห่งแรกเป็นโกดังเก็บพัสดุสินค้า  ตรวจสอบพบพัสดุสินค้าหลายรายการ ภายในบรรจุสินค้าหลายชนิด

    อาทิ เครื่องสำอาง,รองเท้า, เสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบกล่องพัสดุเปล่าที่เตรียมแพ็กของสุ่มส่งลูกค้า และสติกเกอร์รายชื่ิที่อยู่ของเหยื่อที่ถูกทำลายเป็นจำนวนมาก

    อีกทั้งตรวจค้นในสำนักงานพบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีรายชื่อของผู้รับถูกบันทึกไว้อย่างละเอียดในระบบคอมพ์พิวเตอร์ และยังมีสินค้าตีกลับอีกนับหมื่นรายการ

    โกดังที่สองเป็นโกดังแพคพัสดุที่รอส่ง พบชั้นวางกล่องพัสดุที่ถูกตีกลับ และกระสอบใส่กล่องพัสดุที่ถูกตีกลับกว่าหมื่นกล่อง รวมทั้งบาร์โค้ดที่ใช้สำหรับส่งของพัสดุ

    นอกจากนี้ทั้งสองจุดสามารถควบคุมตัวผู้ดูแล คือน.ส.สุรีพร   อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ. 225 /2566 ลงวันที่ 24 เม.ย.ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และคุมตัวนายตู่ อายุ 27 ปีพนักงานแพ็กของ

    เบื้องต้นทั้งสองอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นว่าเป็นพฤติกรรมการหลอกลวงส่งของเก็บเงินปลายทาง ทั้งในส่วนบาร์โค้ด รายชื่อลูกค้า และโลโก้บริษัทส่งของต่างๆ อ้างเพียงถูกจ้างมาแพ็กของติดชื่อส่งพัสดุยังผู้รับ ได้ค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งในส่วนรายชื่อ หรือพัสดุ โดยเจ้าของกิจการ  เป็นคนจีนจัดหามาให้เพียงแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น

    แต่ให้ข้อมูลว่าสินค้าทั้งหมดนำเข้ามาจากจีน แต่ไม่ทราบวิธีการนำเข้า จากนั้นจะนำชื่อที่อยู่ของผู้รับ จากระบบคอมพิวเตอร์ปริ้นท์ลงกระดาษแปะหน้ากล่อง ก่อนจะนำไปส่งต่อยังบริษัทรับส่งพัสดุ เพื่อนำส่งไปตามที่อยู่ที่ระบุหน้ากล่อง ซึ่งทั้งหมดจะถูกเก็บเงินปลายทางยังผู้รับทุกวัน โดยแต่ละวันจะส่งวันละหลายร้อยกล่อง ที่ผ่านมาก็ถูกตีกลับเกินครึ่ง

    หากสินค้าที่ถูกตีกลับมาจะนำลอกชื่อหน้ากล่องออก แปะข้อมูลของอีกคนเข้าไปแทนจากนั้นดำเนินการส่งใหม่อีกรอบ ทำซ้ำๆ วนไปแบบนี้เป็นวงจรปกติ สำหรับรายชื่อของผู้รับไม่ทราบว่าเจ้าของซึ่งเป็นคนจีนนำมาจากไหน แต่จะมีเข้ามาในระบบเรื่อยๆ 

    พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า  รับแจ้งจากผู้เสียหายจำนวนมากว่าได้สั่งซื้อสินค้าผ่านเพจเฟชบุ๊กWdecd-US แต่ได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามที่สั่ง และกรณีที่ผู้เสียหายได้รับสินค้า ที่ไม่ได้สั่งซื้อ โดยเรียกเก็บเงินปลายทางกับผู้เสียหาย  ได้แจ้งความไว้ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ หลังรับเรื่องได้สืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีลักษณะเป็นขบวนการ จึงรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายค้นและหมายจับ

    พฤติกรรมของขบวนการนี้มีสองรูปแบบ คือ จะส่งสินค้าที่ไม่ตรงปกและส่งสินค้าทั้งที่ไม่ได้สั่ง และจะเก็บเงินปลายทาง  สินค้าส่วนใหญ่ เป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพและเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งหากผู้รับปฏิเสธไม่จ่ายเงินปลายทาง  จะสามารถตีกลับคืนไปยังต้นทางได้ทันที

    ส่วนเหยื่อรายไหนที่เผลอรับหรือจ่ายเงินปลายทาง นั้นถือเป็นรายได้ของแก๊งมิจฉาชีพ   ส่วนใหญ่คนที่มีรายชื่อระบุหน้ากล่องจะรู้ตัวเองว่าไม่ได้สั่ง แต่คนในบ้าน ซึ่งเป็นญาติพี่น้องจะไม่รู้ว่าไม่ได้สั่ง จึงเผลอจ่ายเงินปลายทาง รับของไว้ให้ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และมีอยู่ทั่วประเทศเนื่องจากขบวนการนี้จะทำการสุ่มกระจายรายชื่อเหยื่อ

    ส่วนชิ้นไหนถูกบริษัทขนส่งเอกชนตีกลับก็จะนำมาลอกรายชื่อกระดาษหน้ากล่องออก แปะทับรายชื่อใหม่ส่งวนไปสู่เหยื่อรายใหม่ โดยในแต่ละวันทางหัวหน้าขบวนการจะส่งรายชื่อไม่ต่ำกว่าวันละ 100-200 ราย

    อย่างไรก็ตาม จากแนวทางสืบสวนพบว่าทำมาไม่ต่ำกว่า 5เดือน มีเงินหมุนเวียนจากการที่หลอกลวงประชาชนกว่า 20 ล้านบาท อีกทั้งจากการตรวจสอบฐานข้อมูลในรายชื่อพบรายชื่อเหยื่อกว่า 2.5 หมื่นราย ส่งสำเร็จ 1.6 หมื่นราย และตีกลับ 7 พันราย และชุดสืบสวนได้พิสูจน์ทราบและรู้ตัวผู้เช่าอาคารดังกล่าวที่เป็นคนจีนแล้วอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเพิ่มเติม ผบช.สอท. กล่าว

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments