Monday, November 25, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันสืบนครบาลจับ”ผิงผิง”สาวสองลวงหนุ่มมอมยาทำร้ายร่างกายแล้วชิงทรัพย์

    สืบนครบาลจับ”ผิงผิง”สาวสองลวงหนุ่มมอมยาทำร้ายร่างกายแล้วชิงทรัพย์

    รวบ “ผิงผิง” นักวางยาหนุ่มทั่วกรุงเทพฯ แฉเป็นมือขวาบอสคอลเซ็นเตอร์ตึก ทำหน้าที่ HR อ้างพ้นโทษจะกลับมาทำอีก

    วันที่ 12 กันยายน 2566 พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชุด PCT 5 , พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น.

     พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ,ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น , ร.ต.อ.กฤษณะ ชนิดไทย , ร.ต.อ.อำนาจ แป้นดวงเนตร , ร.ต.อ.สุรศักดิ์ บุญนุ่ม , ร.ต.อ.วทัญญู เริ่มประชาธิปไตย , ร.ต.ท.คณาธิป ภูสมตา , ส.ต.อ.ณัฐกิต เชื้อสุข , ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย , ส.ต.ต.เมธิชัย คำดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 112

    ร่วมกันจับกุมนายอภิชาติ  หรือ “ผิงผิง” อายุ 22 ปี  ผู้ต้องหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน”ตามหมายจับ 2 หมายจับ ศาลอาญาที่ จ.2174/2566 ลงวันที่ 10 ก.ค. 66 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน” (พื้นที่ สน.สุทธิสาร) และหมายจับศาลอาญาที่ จ.2963/2566 ลงวันที่ 11 ก.ย. 66 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” (พื้นที่ สน.พญาไท)

    ตรวจยึดของกลาง 4 รายการบัตรประจำตัวประชาชน 6 ใบ (เป็นของบุคคลอื่น) รับว่าเป็นของบัญชีม้าโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง (ของตนเอง 2 เครื่อง , ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 เครื่อง)เงินสด 25,000 บาทยา Clonazepam จำนวน 3 แผง (ยาที่ใช้มอมเหยื่อ)หลังจับกุมนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมาย

    สำหรัจพฤติการณ์ผู้ต้องหากล่าวคือ ผู้ต้องหารายนี้ตระเวนก่อเหตุ “วางยาและรูดทรัพย์” เหล่าชายหนุ่มที่ติดกับดักเธออย่างนับไม่ถ้วน โดยแผนประทุษกรรมสุดแสบของเธอเริ่มต้นจาก “แอปหาคู่” โดยจะทำตัวเป็นสาวสองทรงเจ๊สายเปย์ สปีชีส์ตัวรับ ขึ้นข้อความทำนอง “สาวสอง ใครร้อนเงินทักมา”

    ล่อแมลงให้เหล่าชายหนุ่มสายเหลืองที่ไส้แห้งต่างเข้ามารุมเร้า อย่างที่ทราบกันดี วงการนี้ไม่สนทนากันนานเพราะต่างมุ่งไปตามกามอารมณ์กันอยู่แล้ว โดยทั้งสองฝ่ายต่างรู้กันจุดหมายปลายทางคือ “เพศสัมพันธ์”

    เมื่อนัดหมายสถานที่แล้วเหล่าเหยื่อชายสายรุกมักพุ่งมาอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัวว่า สถานที่ดังกล่าวคือ “ห้องเชือด” ที่เธอได้เตรียมการขุดหลุมพลางไว้รอเหยื่อไว้แต่เนิ่นแล้ว โดยจะนำยา Clonazepam   3-10 เม็ดมาบดให้ละเอียด ก่อนจะเทลงในแก้วน้ำที่เตรียมไว้และเพิ่มความแนบเนียนด้วยการใส่น้ำแข็งเปล่าให้เต็มแก้ว

    ทันทีที่เหล่าชายหนุ่มที่ตกเป็นเหยื่อย่ำเท้าเข้ามาในถ้ำเสือ เธอเริ่มสะกดจิตเหยื่อด้วยการเปย์แบงค์พันให้ชายหนุ่มก่อน 1 ใบ จากนั้นจะหว่านล้อมชักจูงให้เหยื่อดื่มเบียร์เปิดหัวเป็นอันดับแรก เหยื่อหนุ่มเกือบทั้งสิ้นล้วนติดกับดัก ยาดังกล่าวจะออกฤทธิ์รุนแรง ง่วงซึม มึนศีรษะ สับสน จดจำสิ่งต่างๆ ไม่ได้ เกือบทุกรายล้มพับไปในไม่กี่อึดใจ บางรายพยายามฝืนต้านฤทธิ์ยาเธอยิ่งชอบเพราะเธอจะลงมือทำร้ายร่างกายเช่น กระโดดถีบ ต่อยหน้า ตบหน้า ต่างๆนาๆโดยที่เหยื่อไร้เรี่ยวแรงต่อสู้ จนกว่าเหยื่อจะสลบไสล

    โดยภาพการล้มพับของเหล่าชายหนุ่มสร้าง ความสุข , ความสนุก , ความสะใจ ทำให้เธอรู้สึกว่า  “มีพลังวิเศษ” ให้เธอจนเธอเสพติดเข้าเส้นเลือดไปแล้ว  เมื่อเหยื่อไร้สติจะลงมือกวาดทรัพย์สินของเหยื่อไปจนเกลี้ยง รายใดโชคร้ายขับรถมาก็จะถูกขโมยไปด้วย

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 66  ได้ก่อเหตุกับชายหนุ่มรายหนึ่ง ที่โรงแรมชื่อดังในซอยศรีอยุธยา 12 แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี จ.กรุงเทพฯ โดยขโมยทรัพย์สินเงินสด โทรศัพท์ และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบท์ ของเหยื่อไป มูลค่าความเสียหายประมาณ 200,000 บาท

    จนเรื่องนี้ถึงหูนายตำรวจผู้ดูแลเมืองหลวงอย่าง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เร่งสั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สืบสวนแกะรอยจนสืบทราบว่าสาวประเภทสองรายนี้คือ นายอภิชาติ  อายุ 22 ปี และกำลังหลบหนีออกไปทาง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อหลบหนีออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

    พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ไม่รอช้าส่งชุดสืบนครบาลและนักเรียนสืบสวน 112 ไล่ล่าติดตามไปอย่างกระชั้นชิด ไล่กวดถึงริมชายแดนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ขณะกำลังพยายามจะหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน

    ในชั้นจับกุม นายอภิชาติ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา  ให้การว่า “ เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ใน ปอยเปต ประเทศกัมพูชา  ทำมาเป็นเวลากว่า 3 ปี หลอกคนไทยได้ยอดรวมประมาณล้านกว่าบาท  ได้ค่าคอมมิชชั่นมา 400,000 บาท แต่หมดกับการพนัน

    ภาพบอสจีน

    ปัจจุบันตนได้เป็นมือขวาของบอสชาวไต้หวันชื่อว่า เสี่ยว เฟ่ย เชียน  เจ้าของคอลเซ็นเตอร์ 3 ตึกในปอยเปต ล่าสุดได้ทำหน้าที่เป็น HR และคอยจัดหาบัญชีม้าให้กับบอสชาวจีน โดยจะเข้าๆออกๆกัมพูชาและประเทศไทยเป็นประจำเพราะเสพติดภาพการล้มพับของเหยื่อ เพราะทำให้มี ความสุข , ความสนุก , ความสะใจ

    มีอยู่ครั้งหนึ่งได้ไปลองมอมยาใส่กลุ่มชายหนุ่มในสถานที่ท่องเที่ยวแล้วเห็นเหยื่อล้มฟุบพร้อมกัน 4 คน ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีพลังวิเศษ  ตอนนี้ได้เสพติดความสุขนี้ไปแล้ว ซึ่งตนเองจะหาเวลาว่างจากการทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์เดือนละ 2-3 ครั้ง เพื่อเข้ากรุงเทพมาก่อเหตุลักษณะนี้ ความสุขก็ส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนก็หวังจะได้ทรัพย์สินจากเหยื่อด้วย

    จุดเริ่มต้นเกิดจากตนเองเคยถูกผู้ชายมามีเพศสัมพันธ์ด้วยแล้วโดนชายคนนั้นขโมยทรัพย์สินไประหว่างที่ตนเองหลับ  ถูกขโมยเงินไปกว่า 80,000 บาท  แค้นมากวางแผนล่อลวงชายคนนั้นมาและได้ลองมอมยาแบบนี้เป็นครั้งแรก  ตอนนั้นใส่ยาไปทั้งหมด 10 เม็ด จนล้มพับและขโมยของขโมยรถของชายคนนั้น

    จากนั้นก็รู้สึกสนุก สะใจ จึงติดเป็นนิสัยและก่อเหตุต่อมาเรื่อยๆ โดยยาที่ตนได้มานั้นตนเองไปหาหมอแล้วจะบอกว่าต้องการยาตัวนี้ ถ้าหมอคนไหนไม่ยอมให้ก็จะแสดงละครบอกหมอว่าถ้าไม่ให้จะไปฆ่าตัวตาย หมอก็จะยอมให้ โดยให้ทีละ 20-30 แผง

    และที่เลือกวางยาในเบียร์แบบนี้เพราะว่าตนเคยลองใส่ในน้ำเปล่าแล้วมันจะขุ่นๆทำให้เหยื่อดูออกได้ง่าย ส่วนรถที่ได้ขโมยมาจะนำไปขายให้กับขบวนการส่งรถออกนอกประเทศ โดยจะเก็บรถที่ขโมยมาไว้กับตัวเองไม่เกิน 2 ชั่วโมง ส่วนบัตรประชาชนที่ถูกตรวจค้นพบหลายๆใบนั้น  ได้มาจากเหยื่อบ้าง และได้จากพวกเปิดบัญชีบ้าง เลยนำมาใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆแทนชื่อของตนเองเพื่อปกปิดตัวเอง”

    พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของภัยสังคมรายนี้ โดยจากการขยายผลการจับกุมในขณะนี้เราพบพยานหลักฐาน รถจักรยานยนต์ ซึ่งต้องสงสัยว่าได้จากการก่อเหตุ กว่า 13 คัน และพบข้อมูลเหยื่อและผู้ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่ออีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย

    ขอประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ ให้แจ้งมาที่เฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง เราจะปกปิดข้อมูลของคุณเป็นความลับ และขอฝากเตือนไปยังเหล่าผู้ปกครองให้หมั่นเฝ้าระวังบุตรหลานที่ชื่นชอบการเล่นแอปพลิเคชั่นหาคู่ลักษณะนี้ ให้หลีกเลี่ยง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของท่าน

    ในส่วนของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตอนนี้เราได้ข้อมูลสำคัญของขบวนการมามากพอสมควร  เราจะมีการขยายผลต่อไปจนถึงที่สุด แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments