รวบ “ เว่ย ลินวู” นายทุนจีนตัวการระดับสูงแก๊งคอลเซนเตอร์คาสนามบินดอนเมือง หลังสืบภาค2ขยายผลคดีลวงหนุ่มไทยกู้เงินแต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการก่อนจนหมดตัวจนเครียดผูกคอตาย
เมื่ ช่วงเย็นวันที่ 27 ต.ค. 66 พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 สั่งการชุดสืบสวนประสาน ตม.ท่าอากาศยานกรุงเทพ บก.ตม.2 จับกุม นายเว่ย ลินวู ตัวการระดับสูงแก๊งคอลเซนเตอร์และมีหมายจับ 3 หมายจับ ได้ในที่สนามบินดอนเมือง กทม.
ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบ”
เบื้องต้น นายเว่ย ลินวู ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยประกอบธุรกิจโรงแรม ที่ปอยเปต ในประเทศกัมพูชาเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 14 ม.ค.66 เกิดเหตุสะเทือนใจ โดยนายอัฐวุฒิ ผมเพ็ชร หนุ่มโรงงานใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ใช้แอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า online loan Thailand หลอกจะให้กู้เงิน แต่ต้องโอนเงินไปให้ก่อน สุดท้ายไม่ได้รับเงินที่ต้องการขอกู้ ทำให้เกิดความเครียดและผูกคอตัวเองเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ภายหลังแก๊งคอลเซนเตอร์ยังได้แชตคุยกับภรรยาผู้ตาย และส่งข้อความมาเย้ยว่า “ถ้าเขาไม่โลภอยากได้เงินคนอื่นเขาก็ไม่เจอเรื่องแบบนี้ค่ะ ไม่โลภก็รอดค่ะ”
สำหรับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ จะใช้วิธีหลอกลวงผ่านทางสื่อโซเชียลต่างๆให้ผู้เสียหายหลงกลและเข้ามาทำเรื่องขอกู้เงิน โดยจะต้องโอนค่าดำเนินการหรือค่าธรรมเนียมไปให้ก่อน เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปให้ ก็จะไม่ได้รับเงินที่ขอกู้แต่อย่างใด ทำให้ได้รับความเสียหาย กรณีดังกล่าว สภ.แปลงยาว ได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแล้ว 5 คน
ต่อมา บก.สส.ภ.2 สืบสวนขยายผลต่อ ทำให้ทราบว่าเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ มีคนจีนเป็นหัวหน้า มีคนไทยเป็นลูกน้อง ใช้ประเทศกัมพูชาเป็นฐานตั้งออฟฟิศ ใช้บัญชีม้าโอนเงินที่หลอกลวงเหยื่อได้เป็นทอดๆในเวลาอันรวดเร็ว และเอาเงินออกหลายช่องทาง พบผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ไม่น้อยกว่า 40 รายทั่วประเทศ
หลังเกิดเหตุ ได้ดำเนินคดีกับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้มาโดยตลอด ได้มีการออกหมายจับ รวมทั้งหมด 29 หมายจับ ตรวจยึดทรัพย์สินเสนอตรวจสอบทรัพย์สินต่อ ปปง. มูลค่ารวม 2 ล้านบาทเศษ อายัดบัญชีธนาคารของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ 26 คน มียอดเงินในบัญชีธนาคารที่ถูกอายัด รวมเป็นเงิน 2,018,567.30 บาท
ขณะนี้มีผลจับกุมผู้ต้องหาแล้วรวม 11 ราย 21 หมายจับ คงเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังคงหลบหนีอยู่ 3 คน ซึ่งหนึ่งในผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ คือ นายเว่ย ลินวู ( MR.WEI LINWU ) ชาวจีน ตัวการระดับสูงแก๊งคอลเซนเตอร์และมีหมายจับในคดีนี้3 หมายจับ และจากการสืบสวนติดตามมาโดยตลอดของ บก.สส.ภ.2 ทำให้ทราบว่า นายเว่ย ลินวู จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ผ่านทางสนามบินดอนเมือง และเข้าจับกุมได้ในที่สุด