Thursday, November 21, 2024
More
    Homeบทความทั่วไปสลดนาฏกรรม“เด็กพิเศษ”ฆาตกรรมทำไม

    สลดนาฏกรรม“เด็กพิเศษ”ฆาตกรรมทำไม

    กรณีสะเทือนใจที่เด็กนักเรียนชายชั้น ม.2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านถนนพัฒนาการ เขตสวนหลวง กทม.

    ถูกนักเรียนร่วมโรงเรียนทราบว่าเป็น “เด็กพิเศษ” ใช้มีดบางแทงที่บริเวณลำคอ หลังเลิกแถวเคารพธงชาติ เช้าวันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2567

    เป็นเหตุที่น่าสลดใจและน่าเสียใจอย่างยิ่งกับตัวเด็กทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ รวมทั้งผู้ปกครองของเด็กทั้งสอง

    เมื่อปรากฏเป็นข่าวเผยแพร่ออกสู่สังคม ผู้เสพข่าวจำนวนไม่น้อยมีปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ไปต่างๆ นานา ทั้งในเชิงสร้างสรรค์และเชิงลบ

    ในส่วนที่แสดงความคิดเห็นในด้านลบ บ้างก็บอกว่า สาเหตุเพราะเด็กที่ถูกแทงไปแกล้งเด็กพิเศษก่อน สร้างความเจ็บแค้นจนพกมีดมาทำร้าย เพื่อระบายความโกรธแค้นของเด็กเอง

    โยนให้กับคำว่า “บุลลี่” หรือพูดเหยียดหยามกลั่นแกล้งไปเลย

    ไม่เป็นการตัดสินง่ายไปหน่อยหรือ ถ้าฟังความข้างเดียว โดยที่ผู้เสียชีวิตไม่มีโอกาสได้โต้แย้งเลย

    นั่นเป็นปมประเด็นที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งโรงเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ผู้บริหารการศึกษา ตลอดจนทุกภาคส่วนของสังคมไทย จะต้องร่วมมือกันหาทางแก้ปัญหาและรับมือกับอนาคตของเยาวชนไทยในวันข้างหน้า

    ที่นับวันปัญหาของเด็กเยาวชนจะทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ และโดยเฉพาะกรณีเด็กพิเศษที่ปัจจุบันมีมากขึ้น และสังคมต้องร่วมมือกันในการช่วยเหลือเพื่อให้เด็กเติบโตช่วยเหลือตนเองได้อย่างมั่นคง

    จำเป็นที่จะต้องให้เด็กพิเศษได้ร่วมเรียนร่วมทำงานกับเด็กปกติทั่วไป เพื่อให้เด็กได้พัฒนาตัวเอง ให้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุข 

    จากบทความของนพ.ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา จิตแพทย์เด็กและวัยรุุ่น ชื่อ “เด็กพิเศษ….หนูเป็นใคร มาจากไหน”

    บอกตัวตนเด็กพิเศษในความหมายว่า เด็กที่ต้องการความดูแลช่วยเหลือเป็นพิเศษ เรียกกันย่อๆว่า “เด็กพิเศษ”นั่นแหละ

    แต่ความหมายเด็กพิเศษจะกว้างมาก จนครอบคลุมเด็กที่มีความบกพร่องหรือพิการทุกกลุ่มปัญหา ตลอดจนเด็กอัจฉริยะ เด็กด้อยโอกาสทางการศึกษา

    แต่ปัจจุบันเมื่อพูดถึงเด็กพิเศษ มักหมายถึงเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา บกพร่องทางการเรียนรู้ และกลุ่มออทิสติกสเปกตรัม

    กลุ่มบกพร่องทางสติปัญญา(ID-Intellectual Disability) คือ มีระดับสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย ต่ำกว่า 70 จากการวัดโดยแบบทดสอบมาตรฐาน

    เด็กไม่สามารถเรียนรู้และปรับตัวได้ในชีวิตประจำวันได้เหมือนคนทั่วไป แต่สามารถเข้าใจในเรื่องที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนเกินไป

    กลุ่มเด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ (LD-Specific Learning Disorder) คือเด็กที่ดูลักษณะฉลาด คล่องแคล่ว แต่ให้อ่าน เขียน หรือคิดคำนวณ กลับทำไม่ได้ดี เด็กกลุ่มนี้เมื่อสอบข้อเขียนมักทำไม่ได้ แต่สอบปากเปล่ากลับทำได้ดี

    กลุ่มเด็กออทิสติก (ASD- Autism Spectrum Disorder) คือเด็กที่มีความบกพร่องในพัฒนาการทางสังคม ไม่สบตา เล่นไม่เป็น มีพัฒนาการทางด้านภาษาและการสื่อสารบกพร่องด้วย ไม่พูด หรือพูดภาษาที่ฟังแล้วไม่เข้าใจ สนทนาไม่ต่อเนื่องเป็นเรื่องเดียวกัน และมีพฤติกรรมซ้ำๆ ความหมกมุ้น ยึดติดบางสิ่งบางอย่างมากเป็นพิเศษ ไม่ยืดหยุ่น นอกจากนี้มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย

    นั่นคือคำจำกัดความ “เด็กพิเศษ”ที่คัดมาอย่างย่อๆ จากบทความของนพ.ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา แพทย์ผู้เชียวชาญจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น ซึ่งบอกว่าเด็กพิเศษเกิดมาคู่กับสังคมมนุษย์มาแต่โบราณ แต่อยู่กันมาแบบคู่ขนาน ไม่ค่อยได้เจอกัน จึงไม่รู้จักกัน

    เวลาเจอเขา บางครั้งเราก็กลัว คิดว่าเขาแปลกประหลาด ในทางกลับกัน เขาก็กลัวเราเช่นกัน คิดว่าเราก็ประหลาด

    ปัจจุบันนับว่าไม่ใช่เรื่องประหลาดที่เห็นเด็กพิเศษมากขึ้น ไม่ใช่เพราะจำนวนเพิ่มขึ้น หากแต่สังคม ผู้ปกครอง ยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดา และสามารถที่จะส่งลูกหลานที่เป็นเด็กพิเศษ เข้าโรงเรียนปกติร่วมกับนักเรียนทั่วไป

    จากเหตุสลดล่าสุดนี้ เป็นสิ่งที่สังคมจะต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้นว่าไม่ใช่มาจากความบกพร่องของเด็กทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตที่ถูกกล่าวหาว่าไปบุลลี่กลั่นแกล้งก่อน

    เราไม่ควรโยน “บาป”ให้กับฝ่ายไหนทั้งนั้น

    แต่เราจะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาและป้องกันเหตุ ไม่ว่าจะมาจากศึกษาหาแนวทางแก้ไข หรือทำอย่างไรก็ตาม ที่ไม่ส่งผลกระทบไปในทางที่เลวร้ายกว่าเดิม

    ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรองเด็กก่อนอนุมัติให้สามารถร่วมเรียนกับเพื่อนๆได้ หรือสอนให้เด็กปกติยอมรับที่จะอยู่ร่วมกับเพื่อนเด็กอย่างมีความเข้าอกเข้าใจและมีความเมตตาช่วยเหลือกันมากกว่าที่เพียงแค่ทำไปตามระบบระเบียบเท่านั้น

    นพ.ทวีศักดิ์ ให้ข้อคิดน่าสนใจตอนท้ายบทความว่า

    ถ้าเข้าใจเด็กพิเศษแล้ว ให้ลืมคำว่าเด็กพิเศษไปเลยนะ เพราะเด็กพิเศษทุกคนก็มีชื่อเฉพาะของตัวเอง ทั้งชื่อเล่นและชื่อจริง เรียกชื่อเขาเถอะ อย่างเรียกเขาว่า “เด็กพิเศษ”อีกเลย

    ดอนรัญจวน 29/1/2567

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments