ถ้าเอ่ยชื่อภาพยนตร์ไทยแนว “ผีสาง” เน้นตลกขบขันปนความประหวั่นพรั่นพรึง ที่มี “ภาคต่อ” มากที่สุด
คงไม่พ้นตระกูล “บ้านผีปอบ”ที่สร้างกันมาถึง 14 ภาค ในระยะเวลามากกว่า 2 ทศวรรษ อีกเรื่องที่เร่งเก็บแต้มตามมาก็ “หอแต๋วแตก”
ตอนนี้ “พี่นาค” ที่สร้างกันมาจนถึง 4ภาค กำกับโดย ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ ก็กำลังเดินตามรอยในการสร้างจักรวาล “ผีพี่นาค” บ้าง
ปฐมบทของภาพยนตร์ “พี่นาค” ได้วาง “ตัวละคร” และแบ่งกลุ่มอย่างชัดเจน คือ “ก๊วนคน” กับ “พี่นาค” ที่เป็นผีร้ายเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท ซึ่งโครงเรื่องของ “พี่นาค” แต่ละภาคก็ไม่ได้แตกต่างกันนัก
หนังจะเริ่มจากให้ “ตัวละคร” ทั้งหมดมาจับกลุ่มก้อนในสถานที่แห่งหนึ่ง โดยในสถานที่แห่งนั้นมี “ผีพี่นาค” คอยรังควานหมายเอาชีวิต จากนั้นก็จะใส่บท “สถานการณ์หนีผี” แบบฮาป่าแตก
แต่ถึงจะถูกหลอกหลอนแค่ไหน “คนก๊วนนี้” ก็พยายามหาทางไขปริศนา “ความแค้น” ของ “ผีพี่นาค” ให้ได้
ใน “พี่นาค 4” ก็ยังคงความเป็น “ตัวตน” ของความเป็น “พี่นาค”ที่ถ่ายทอดมาจากภาคแรกอย่างแข็งแรง นักแสดงที่เล่นกันในภาคแรก ยังร่วมขบวนกันอยู่ ในคาแร็คเตอร์ที่คงเดิม
ทั้ง พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร รับบท “โทมินจุน” นักร้องลูกครึ่งไทย-เกาหลี และคู่หูคู่ฮาสุดสะดิ้งอย่าง วิทวัส รัตนบุญบารมี ในบท “บอลลูน” กับ ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์ รับบท “เฟิร์ส”ที่มาถึงภาค 4 ก็ยิ่งเล่นได้ได้อย่างเข้าขา
“พี่นาค 4” คืองานต่อยอดแบบชาญฉลาดของตระกูลหนัง “พี่นาค” เพราะในภาคก่อนหน้า “ผีพี่นาค” ได้ถูกกำราบไปแล้ว
ดังนั้น “พี่นาค 4” จึงต้องนำเสนอ “ผีพี่นาคตนใหม่” ผ่านเรื่องราวชีวิตของ “โทมินจุน” ซึ่งหากว่ากันตามตรง “พี่นาค 4” ก็คือภาคของการย้อนสำรวจชีวิตของหนุ่ม“โทมินจุน” นั่นเอง
หนังเปิดฉากด้วยการให้ “โทมินจุน” เดินทางกลับบ้านเกิดในจังหวัดแห่งหนึ่ง เพื่อมาบูรณะโบสถ์หลังหนึ่ง พร้อมกับ “น็อต” (อธิวัตน์ แสงเทียน)อดีตเณรจากภาพยนตร์ “พี่นาค” ภาคก่อน ๆ รวมทั้ง “บอลลูน” และ “เฟิร์ส” ที่เลื่อนขั้นได้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของ “โทมินจุน” ซึ่งการกลับมาถิ่นเดิมวัยเด็กซุปตาร์หนุ่มครั้งนี้นอกจากได้หวนระลึกถึงวันเก่า ๆ แต่ยังมี “ผีพี่นาค” ที่รอเขาอยู่เพื่อทวงสัญญาบางอย่างในอดีต
https://www.youtube.com/watch?v=g0xVjv1JYNE
การปรากฏตัวของ “ผีพี่นาค” เวอร์ชันนี้ ยังคงไว้ซึ่ง “ทรงบังคับ” คือ สวมชุดตามธรรมเนียมการ “บวชนาค” แต่เสริมมาด้วยสวมหน้ากากสุดสยอง มองเห็นแค่ดวงตาอันมาดร้ายผูกใจเจ็บ
ภาพยนตร์ยังปูพื้นให้เห็นว่าก่อนที่ใครสักคนจะเดินเข้าสู่การเป็น “ผีร้าย” นั้น ต้องผ่านความทุกข์ทนอะไรมาบ้าง และมิจฉาทิฐิที่ตนเองยึดมั่นไว้ได้ส่งผลร้ายกับเขาอย่างไร ไม่ว่าจะยามมีชีวิตหรือม้วยมรณาไปก็ตาม
ในระหว่างที่ภาพยนตร์ประเคนฉากดราม่า ฉากฮาระทึกกับการหนีผี หรือฉากเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติขึ้นไปอีกขั้น
หนังจะหยอดเติมประเด็นปัญหาบางอย่างของสังคมอยู่เรื่อย ๆ เด่นชัดมากก็คือประเด็นการดูหมิ่นเหยียดหยามคนที่แตกต่าง การเลือกปฏิบัติต่อคนที่ไม่ใช่พวก รวมถึงการด้อยค่าเพียงแค่เขาไม่ได้มีรูปลักษณ์มาตรฐานอย่างที่ “คิดกันเอาเอง” ว่ามนุษย์พึงมี
จริงอยู่ที่ “พี่นาค 4” อาจไม่ได้มีอะไรหวือหวาชวนว้าว เพราะยังคงอาศัยโครงเรื่องแบบเดิม ๆ มานำเสนอ การนักแสดงมือใช้กลุ่มก้อนเดิม ก็หายห่วงเรื่องการต่อบทต่ออารมณ์ เปรียบเหมือนมีดที่ถูกลับคมอยู่ตลอดเวลา
ทว่าสิ่งที่ฉายชัดคือภาพยนตร์เรื่องนี้ให้แง่มุมความสัมพันธ์และมิตรภาพที่น่าคิด สร้างความตระหนักถึงการมีความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยทั้งหมดทั้งปวงก็ไม่ได้ยากหรือซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจ
และหนังยังเปิด “ปมใหม่” ชี้เป้าว่า “พี่นาค 5” มาแน่!
Blue Bird25/2/67