แฟ้ม(ไม่)ลับสีกากี โดย สมถวิล
หน้าที่ 11 ตอน “ผู้กองอิฟแซงค์” อดีตเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในบริษัทยักษ์ใหญ่ ขอเดินตามรอยคุณลุงบนทางสีกากี
ร้อยตำรวจเอกกุลฐรัศมิ์ รุจเจริญผล “ผู้กองอิฟแซงค์” อายุ 28 ปี เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2531 พื้นเพเป็นคนกรุงเทพมหานคร จบการศึกษาปริญญาตรีจากสาขาบัญชีบัณฑิต มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จบปริญญาโทจากคณะศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาผู้นำทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง มหาวิทยาลัยรังสิต ก่อนเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการ (หลักสูตร กอส.) ตำรวจชั้นสัญญาบัตรรุ่นที่ 34 และปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช ประวัติการทำงานช่วยราชการอยู่ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ชุดปฏิบัติการที่1) ศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง และปัจจุบันตำแหน่งรองสารวัตรงานธุรการ กก.6 บก.จร. (โครงการพระราชดำริ)
ปฏิบัติราชการงานตรวจพิสูจน์มลภาวะ กก.5 บก.จร.
ผู้กองอิฟแซงค์มาเป็นตำรวจได้อย่างไร!?
ก่อนเข้ารับราชการตำรวจเคยทำงาน ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ส่วนการที่ตัดสินใจสมัครเข้ามาเป็นตำรวจเพราะมีแรงบันดาลใจมาจาก น้องชาย (ร้อยตำรวจตรีชนะชาติ เจริญผล) นักเรียนนายร้อยรุ่น 70 ซึ่งตอนนี้ฝึกงานสอบสวนอยู่ที่ สน.บางรัก ซึ่งตอนที่เราเข้ามาเป็นตำรวจ น้องชายกำลังอยู่โรงเรียนเตรียมทหาร ปี 3 ตอนนั้นได้ไปรับ-ส่งน้องชายเป็นประจำทุกอาทิตย์จนรู้สึกผูกพันกับโรงเรียนเตรียมทหารไปเลย เห็นน้องชายจากเป็นนักเรียนโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ดูเป็นเด็กนักเรียนมัธยมทั่วไป พอเข้าไปอยู่ที่โรงเรียนเตรียมทหารกลายเป็นผู้ใหญ่ มีระเบียบวินัยมากๆ มีความอดทนอดกลั้นและมุ่งมั่นกับอุดมการณ์ ที่จะจบมาจะเป็นตำรวจที่ดี เป็นตำรวจของประชาชนที่ช่วยเหลือเป็นที่พึ่งประชาชนจริงๆ เลยรู้สึกอยากทำแบบนั้นบ้าง
“เราพยายามศึกษาเรียนรู้งานตำรวจในทุกๆด้าน ทุกรูปแบบ เพราะประชาชนที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ พอเห็นตำรวจเขาไม่รู้หรอกว่าเราเป็นตำรวจฝ่ายธุรการ สืบสวน สอบสวน ปราบปราม หรือฝ่ายไหน สิ่งที่เขาเห็นคือ ตำรวจที่เขาน่าจะพึ่งได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราแก้ปัญหาให้เขาได้ หรือช่วยอะไรเขาได้แม้เพียงเล็กน้อย อาจเพียงแนะนำข้อมูลหรือขั้นตอนที่ถูกต้องตอบคำถามให้เขาได้ เขาก็ประทับใจกลับไป เวลาเห็นคนที่เดือดร้อนเป็นทุกข์ยิ้มได้เพราะเรา เราก็มีความสุขไปด้วย” ผู้กองอิฟแซงค์ พูดไปพร้อมอมยิ้ม
ตำรวจที่เป็นแบบอย่างมาตลอด คือ พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล เป็นคุณลุงมักจะสอนการเป็นแบบอย่างตำรวจที่ดี ตั้งใจทุ่มเทกับการทำงานเป็นอย่างมาก ใส่ใจผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอและท่านได้ทำอะไรให้กับสังคมไว้เยอะ
คติประจำใจ คือ เรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่นจะได้ไม่ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง ซึ่งในการทำงานหรือการใช้ชีวิตนั้นเราพบปะคนมากมายหลายรูปแบบ เราก็พยายามนำข้อดีของคนอื่นมาใช้และพยายามเรียนรู้บทเรียนจากความผิดพลาดของคนอื่นเสมอ เพื่อที่จะนำมาปรับปรุงตัวเอง
และเนื่องจากการทำงานเป็นตำรวจนั้นมีทั้งคนรักและคนเกลียด มีคนเข้าใจและไม่เข้าใจ จึงต้องยึดถือคติประจำใจในการทำงานอีกอย่างเพื่อไม่ให้ย่อท้อคือ เราห้ามคนคิดไม่ดีกับเราไม่ได้ แต่เราทำให้เขาคิดกับเราดีขึ้นได้ เป็นคนดีให้คนเกรง ดีกว่าเป็นนักเลงให้คนกลัว