การกลับมาใน “ภาค 2” ของ “ธี่หยด”
ภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญงานกำกับของ ทวีวัฒน์ วันทา เปิดตัวฉายวันแรกก็จัดว่าสุดไฉไลจริง ๆ เพราะทุบสถิติโกยเงินในวันแรกไปถึง 80 ล้านบาท เข้าป้ายหนังไทยเปิดตัวฉายวันแรกก็ได้รายได้สูงสุดตลอดกาลไปทันที
เอาเป็นว่าถ้าใครอยากจะดู “ธี่หยด 2” ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะตามหา “ภาคแรก” มาดู เพื่อจะได้เข้าใจถึงที่มาที่ไปของเรื่องราว ความสัมพันธ์ของตัวละคร และจุดประสงค์ของตัวละครทั้ง “ฝ่ายคน” และ “ฝ่ายผี” ได้อย่างสมบูรณ์ชัดเจนมากขึ้น
แต่ถ้าหากให้ย้อนความถึงเรื่องราวใน “ธี่หยด”ที่ปรากฏต่อสายตาผู้ชมในภาคแรกเมื่อปี 2566 ดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อเดียวกันเขียนโดย กฤตานนท์ หรือกิตติศักดิ์ กิตติวิรยานนท์ ซึ่งเป็นบุตรชายของเจ้าของเรื่องนี้ โดยถูกนำไปเขียนบนกระทู้พันทิป และถูกนำไปเล่าใน The Ghost Radio เล่าเรื่องราวความสยองขวัญในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่จังหวัดกาญจนบุรีในปีพ.ศ.2515
เมื่อเด็กสาวหลายคนในหมู่บ้านตายอย่างปริศนา โดยมีต้นตอมาจาก “หญิงชุดดำ” (มานิตา ชอบชื่น) ซึ่งผู้ชมได้รู้ในเวลาต่อมาว่าเป็น “ผีร้ายชุดดำจอมอาฆาต”
เหยื่อรายต่อไปของ “ผีชุดดำ” ก็คือ “แย้ม” รับบทโดย รัตนวดี วงศ์ทอง ลูกสาวคนหนึ่งในจำนวนพี่น้องชาย-หญิง 6 คน ที่เป็นลูกๆ ของ ฮั่ง (ปรเมศร์ น้อยอ่ำ) และ บุญเย็น (อริศรา วงษ์ชาลี)
พี่น้องทั้งหมดของแย้ม ได้แก่ “ยักษ์” รับบทโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ, “ยศ” (กาจบัณฑิต ใจดี), “ยอด”(พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ), “หยาด” (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และ “ยี่”(ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน)
ความสูญเสียมาเยือนครอบครัวนี้หลังจาก “แย้ม” ได้เห็นหญิงชุดดำและเริ่มมีอาการแปลก ๆ ที่ผู้ชมรู้ได้ทันทีว่า “โดนผีเข้า”
จนกระทั่ง “ยักษ์”ปลดประจำการจากกองทัพ กลับมาบ้านก็พบว่าบรรยากาศในบ้านรวมถึงรอบบ้านมีความไม่ชอบมาพากล และในที่สุดก็พบว่า “เสียงสวดลึกลับ”บังคับให้ทุกคนหลับใหล ซึ่งนั่นคือช่วงเวลาที่ผีร้ายออกปฏิบัติการบางอย่าง
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนอาการ “แย้ม” ทรุดลง อย่างไรก็ตามตัวละครทั้งหมดก็ไขปริศนาการเอาชนะแรงบังคับจากเสียงสวด จากนั้นเรื่องราวก็นำไปสู่การต่อสู้ระหว่างคนกับผีอย่างดุเดือด ทว่าทุกอย่างก็สายเกินไปเมื่อ “แย้ม” สิ้นใจไปด้วยน้ำมือของผีชุดดำ
https://www.youtube.com/watch?v=ZCEuUcE9oZw
“ธี่หยด 2” คือการสางแค้นเพื่อน้องสาวผู้เป็นที่รัก โดย “ยักษ์” และ“จ่าประพันธ์” (องอาจ เจียมเจริญพรกุล) ที่มีวิชาอาคมพอตัว ออกเดินทางไป“ดงโขมด” ป่าอาถรรพ์ที่เต็มไปด้วยภูติผีปีศาจ เพื่อตามหา “ตาพวง” (ยะสะกะ ไชยสร) หมอผีที่กบดานอยู่ในดงโขมด
หลัง “ยักษ์” ได้เบาะแสที่ทำให้เชื่อได้ว่าหมอผีคนนี้เป็นผู้อำนาจควบคุมผีชุดดำ โดย “ยักษ์” ได้ผู้ร่วมทางเพิ่มขึ้น เป็นกลุ่มครอบครัวนำโดย “ลือชัย” (สหัสชัย ชุมรุม) ที่อยากตามล่าผีชุดดำ เพราะตั้งแต่บรรพบุรุษของเขาลงมาถึงทายาทยุคปัจจุบัน ล้วนม้วยมรณาด้วยฝีมือของผีชุดดำทั้งนั้น
ในช่วงที่ “ยักษ์” เผชิญสารพันอันตรายในดงโขมด ครอบครัวของของเขาที่กาจญนบุรี ก็เผชิญกับการรังควานของผีชุดดำ ที่เฝ้าวนเวียนรอเล่นงานและขัดขวางไม่ให้ “หยาด” แต่งงานออกเรือนไปกับ “ประดิษฐ์” (พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร) ที่เป็นหนุ่มคนรัก
“ธี่หยด 2” คงความสนุกแบบครบรส ประเด็นของความสัมพันธ์ในครอบครัวยังเหนียวแน่น
โดยเฉพาะในแง่ของความรักและเอื้ออาทรต่อกันอย่างไม่มีวันจางหายที่คนในครอบครัวมีต่อกัน ส่งอารมณ์ขันเกลี่ยเข้ากันอย่างเหมาะเจาะ จัดมาแบบไม่มากเกินงาม
เซ็ตบรรยากาศอันสุดสะพรึงที่ทำให้ผู้ชมไม่วางใจกับทุกย่างก้าวของตัวละคร จังหวะชวนขนหัวลุก ทำให้ตกใจทำออกมาอย่างได้ผล จนแทบจะหรี่ตาหลบในหลายฉาก เพราะลุ้นไปกับสถานการณ์ที่ตัวละครต้องเผชิญ
เป็นภาพยนตร์ผีไทยที่ยังคงความรู้สึกถึง “ผี” ไทยในนิยายเล่มละบาท
ที่ยังโดดเด่นก็คือการแสดงของ ณเดชน์ คูกิมิยะ วาดลวดลายฝีมือแบบจัดจ้าน ภาพลักษณ์ของเขาเป็น “พระเอก” ในแบบที่ทำให้เรานึกถึง“พระเอกหนังไทย” ในยุคทองของหนังไทย
การปรากฏตัวในทุกฉากของณเดชน์ เสมือนเป็นที่พึ่งให้กับตัวละครทั้งเรื่อง หรือแม้แต่ผู้ชมนอกจอก็ยังรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจ!
Blue Bird12/10/67