จู้กหู้กกู้ กราบสวัสดี ขอโทษทีมาช้าครั้งแล้วครั้งเล่า..
แสนเจ็บใจและเจ็บปวด จากผลการแข่งขันทีพ่ายแพ้แค่ 2 ครั้งทำให้ตกรอบถึง 2 รายการช่างเป็นสัปดาห์ที่เจ็บปวดมากที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้!
ถูก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
แพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แบบหมดรูปเกม หมดสภาพทีมในนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ ในวันอาทิตย์
เชื่อว่านี่น่าจะทำให้นักเตะ โค้ช และทีมงานเจ็บปวดมากที่สุดเช่นกัน
อีก 17 วัน (เบรคทีมชาติ) อยู่กับความเจ็บปวดนี้ไปจนกว่าจะกลับมาเตะอีกครั้งกับเอฟเวอร์ตัน ที่แอนฟิลด์ในวันพุธที่ 3 เมษายน
หวังว่าผู้เล่นทุกคนที่ไปรับใช้ทีมชาติจะกลับมาโดยปลอดภัย แม้จะเจ็บปวดก็จงเปลี่ยนความเจ็บปวดนั้นเป็นพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อเข้าเส้นชัยให้ได้ในอีก 9 เกม ที่เหลือจากนี้
เกมที่พ่ายแพ้ต่อ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 2-1 ในนัดชิงคาราบาว คัพ ที่ผ่านมา มีสิ่งหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ การสู้กันระหว่างแผงมิดฟิลด์ของทั้งสองทีม
แน่นอนว่า ทีมที่ได้รับชัยชนะในการดวลกันที่กลางสนามซึ่งนิวคาสเซิลทำได้ดีกว่า
บรูโน่ กีมาไรส์ ของ นิวคาสเซิล คนเดียว เอาชนะการดวล (9 ครั้ง) มากกว่ากองกลาง ลิเวอร์พูล ทั้งทีมรวมกัน (8 จาก 22 ครั้งที่ดวลกันในเกมนี้)
และนอกจากนั้น โจลินตัน ยังเป็นผู้เล่นที่มีการทำงานหนักที่สุดในการวิ่งในสนาม และเข้าปะทะมากกว่าผู้เล่น (11 ครั้ง) ลิเวอร์พูล ในสนามรวมกันอีกเช่นเดียวกัน
นี่เป็นความชัดเจนที่แสดงให้เห็นว่า การมีมิดฟิลด์ตัวรับจะสามารถเอาชนะในการดวลบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพที่มากยิ่งขึ้น และเมื่อดวลชนะแดนกลางได้ ทุกอย่างก็จะควบคุมเกมเอาไว้ได้อีกด้วย
จู้กหู้กกู้ให้ความสำคัญกับตำแหน่งนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่แมนยูขาดคาร์ริค จนมาถึงแมนซิตี้ขาดโรดรี่จากอาการบาดเจ็บ เพราะฟุตบอลสมัยใหม่
เกมรับตรงกลางคือหัวใจหลักในการตั้งเกมรับและรุก !!!
ท้ายทีสุดนี้ ขอให้แฟนๆลิเวอร์พูลพบกับความสุขสมหวังกับ 9 นัดทีเหลือ
ตอนฤดูกาลเริ่ม ไม่มีใครหวังถึงถ้วยแชมป์ ไม่มีใครมองว่าลิเวอร์พูลจะไปได้ไกลแค่ไหน
วันนี้ไม่มีอะไรต้องเสียดายเลย
ลิเวอร์พูลมาไกลเกินกว่าที่แฟนบอลคาดหวังไว้มากๆแล้ว
อย่าลืมรถแห่ทีจองไว้ ถ้าคืนตอนนี้ยังทันไหม 55555
บาย.