จู้กหู้กกู้ กราบ สวัสดีเป็นรอบวงกลม
จั่วหัวเรื่องไม่เกี่ยวอะไรกับหนังเรื่อง I am Legend น่ะ
” ออกตัวไว้ก่อน 555+ “
ปกติคำว่าตำนาน มักใช้กับดาวเตะประเภทรุ่นเก๋าที่สร้างชื่อยาวนานจนแขวนสตั๊ด….
เพราะสถานะคำนำหน้าที่ว่าตำนานนั้นมันคือเครื่องบ่งชี้ว่า ดาวเตะคนนั้นๆ เก๋าและยิ่งใหญ่
เควิน เดอบรอยน์
อาจจะไม่ใช่ดาวเตะที่มีชื่อเสียงเกียรติยศกับบอลระดับชาติมากนักกับทีมปีศาจยุโรป เบลเยียม…..
แต่กับบอลพรีเมียร์ลีค ลีคที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลกนาทีนี้ เขาคือตำนานแบบไม่ต้องสงสัย คุณภาพฝีเท้าที่เขามอบให้บอลอังกฤษกับแมนซิตี้นั้นมันมากมาย
ถึงเวลาเจ้าชายแก้มแดง ประกาศอำลาแมนซิตี้หลังคว้าแชมป์มาร่วมกับทีมมากมาย รวมไปถึงแชมป์ยูซีแอล…..
ทันทีที่ข่าวออก เรือใบสีฟ้าควรคิดสร้างรูปปั้นหน้าสนามให้เขาทันที เพราะถึงแม้ ดาบิด ซิลบา, แวงซอง กอมปานี หรือ กุน อเกวโร่ จะถูกยกขึ้นหิ้งไปแล้ว
แต่เมื่อเทียบกับตำนานทั้ง 3 แล้ว ผมว่า เควิน เดอบรอยน์ คือคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแมนซิตี้ในยุคปัจจุบันและอาจจะรวมถึงตลอดกาล
ลูกจ่ายเรดาร์ และการบัญชาเกมแบบจอมทัพกับถ้วยและเหรียญรางวัลของเจ้าแก้มแดง คือการเขียนตำนานบทใหม่ให้กับทีม….
ถ้านับว่ายุคของ กอมปานี คือการตั้งไข่ให้ทีม ยุคของเควิน เดอบรอยน์ก็คือการก่อร่างสร้างทีมจนถึงความสำเร็จ
”ความธรรมดาที่น่าอัศจรรย์“
หากตัดความยิ่งใหญ่จากจำนวนถ้วยแชมป์และคำยกยอที่สื่อพูดถึงเขามาตลอด 10 ปีที่ซิตี้ออกไป….เควิน เดอบรอยน์ ถือเป็นนักเตะที่ทำสิ่งธรรมดาที่น่าเบื่ออย่างการส่งบอลจ่ายบอลได้อย่างอัศจรรย์
ไม่ใช่การเลี้ยงบอลด้วยลูกเล่นแพรวพราว ไม่มีเทคนิคที่หวือหวาให้ต้องลุกจากเก้าอี้ ไม่ได้มีลูกยิงโอเวอร์เฮดคิก หรือ เลี้ยงหลบทั้งสนามให้ต้องจารึก……
แต่เขาคือคนที่ทำสิ่งธรรมดาๆบนฟลอร์หญ้าให้ดูอัศจรรย์ได้อย่างเหลือเชื่อ
เพราะการอ่านเกมล่วงหน้า ช่วยทำให้เขาสามารถจ่ายบอลธรรมดาๆให้กลายเป็นบอลคิลเลอร์พาสและมีความหมายทุกครั้งที่บอลอยู่กับเท้าของจอมทัพลูกหนังที่ชื่อ เดอบรอยน์
หากนักฟุตบอลยุคใหม่จะหาตัวอย่างนักเตะเป็นต้นแบบสักคน คิงเคฟแห่งเรือใบสีฟ้าก็น่าจะเป็นต้นแบบที่สมบูรณ์พร้อมที่สุด
เพราะเขามักทำแต่เรื่องเบสิคๆธรรมดาให้มันมีความหมายจนกลายเป็นตำนานได้ในที่สุด
โชคดีเจ้าหนูแก้มแดง