ข่าวส่วยที่ภูเก็ต ไข่มุกอันดามัน ตอนนี้เพลาลงไปเยอะ หลังสั่งย้าย สั่งสอบข้อเท็จจริงตำรวจหลายนาย
มาวันนี้มีเรื่องแปลกๆที่ภูเก็ตอีก เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ลองติดตามอ่านแล้วคิดเอาว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่นครับ
มาเฟียบงการเผาฟาร์มงู อิทธิพลใหญ่คับเกาะภูเก็ต ตำรวจยื่นฟ้องคดีจ้างฆ่าข้ามคืน “อัยการ”สั่งยก
(ภูเก็ต- 30 พฤศจิกายน 2560) กลายเป็นข่าวร้อนสะเทือนวงการอัยการ และวงการตำรวจ ทั้งจังหวัดภูเก็ต หลังจากแหล่งข่าวในวงการยุติธรรมให้ข่าวถึงความไม่ชอบมาพากลของอัยการที่รับคดีฟ้องสามีภรรยาชาวจีน-ไทย กรณีจ้างวานให้วางเพลิงสวนงูภูเก็ต และทำร้ายพนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นคดีความมากว่า 5 ปี โดยตำรวจสถานีตำรวจภูธรฉลอง จ.ภูเก็ต รื้อคดีขึ้นมาใหม่หลังได้พยานหลักฐานสำคัญจากกองปราบปราม ใช้เวลารวบรวมหลักฐานใหม่เพิ่มเติมอีก 3 เดือน เพื่อช่วยทวงถามความยุติธรรมให้กับนายอนุชิต ไชยทองงาม พนักงานรักษาความปลอดภัย ที่โดนทำร้ายจนพิการตลอดชีวิต
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ทำหลักฐานกว่า 507 หน้า แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องแค่ข้ามคืน หลายคนมองว่ามีความผิดปกติแน่นอน ขณะที่ตำรวจเชื่อหากมีการพิจารณาสั่งฟ้อง 2 สามีภรรยา ที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตดิ้นไม่หลุดแน่ เนื่องจากหลักฐานมัดแน่นบ่งชี้ว่า ตู้ห่าวและเมียเป็นผู้จ้างวานชัดเจน
นายตำรวจระดับสูงกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ขอสงวนชื่อเนื่องจากเกรงอิทธิพล)จ.ภูเก็ต กล่าวถึงคดีนี้ว่า “เราจะถามหาความยุติธรรมให้กับผู้เสียหายได้ที่ไหน หากผู้ที่ทำหน้าที่ ไม่ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์และดำรงค์ไว้ซึ่งความยุติธรรม คดีนี้ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งตัวพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ตอนนี้พิการตลอดตลอดชีวิต ไม่สามารถทำงานเลี้ยงครอบครัวได้ และความเสียหายจากเหตุการณ์ถูกลอบวางเพลิงสวนงู เนื่องจากเป็นคู่แข่งธุรกิจของ 2 สามี-ภรรยา ทางเจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานและเอกสารกว่า 500 หน้า สืบสวนสอบสวนค้นหาพยานหลักฐานใหม่อีกกว่า 3 เดือน แต่อัยการใช้เวลาเพียงข้ามคืนในการสั่งไม่ฟ้อง ถือเป็นเรื่องช็อกขบวนการยุติธรรมอีกครั้ง
“เจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นคดีใหม่เข้าไปในวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน ผ่านวันเสาร์และวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ พอตกวันวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน อัยการจังหวัดภูเก็ตมีคำสั่งไม่ฟ้องทันที ทั้งที่คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจน์ได้รับความสนใจจากประชาชนโดยเฉพาะชาวภูเก็ต อยากให้สื่อมวลชนทุกแขนงช่วยกันขุดคุ้ยความไม่ชอบมาพากลของคดีนี้ด้วย” นายตำรวจระดับสูงคนนี้กล่าว
ขณะที่นางยุพิน ไชยทองงาม แม่ของนายอนุชิต ไชยทองงาม รปภ.เคราะห์ร้าย กล่าวด้วยน้ำตาว่า เสียใจมากๆจริงๆพวกเรามันคนจนจะไปมีปัญญาต่อสู้อะไรกับเขา ที่มีทั้งเงินมีทั้งอิทธิพลเป็นถึงหลานตำรวจใหญ่ คิดจะทำร้ายใครมองเห็นชีวิตคนจนเหมือนผักเหมือนปลา ลูกชายตนเป็นเด็กดีขยันเป็นเสาหลักของครอบครัวตอนกลางวันเป็นช่างเคาะพ่นสี ตกกลางคืนเป็นยามส่งเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ ถูกตีที่หัวจนกระโหลกแตกสลบไป 3 เดือนหมอผ่าเอาเลือดและก้อนสมองที่เสียหายออกไปจนพิการตลอดชีวิต ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2555
จนกระทั่งเดือนพฤศจิกายน ปี 2559 ตำรวจมาเรียกไปขึ้นศาล พอไปถึงศาลถามอัยการคนไหนผู้ต้องหา อยากจะถามเขาว่า ตีลูกฉันทำไม ไปทำอะไรให้ แต่อัยการบอกว่า ถูกขังอยู่ที่ใต้ถุนศาล เราก็ไม่รู้เรื่องไม่มีความรู้เลย อัยการเอารูปถ่ายมาให้ลูกชายตนดูก็ยืนยันว่าใช่ จากนั้นอัยการบอกเสร็จแล้วกลับบ้านได้ พร้อมกับควักเงินให้ 5,000 พันบอกสงสารเป็นค่ารถกลับบ้านได้เสร็จแล้ว
“ตนถามว่าต้องมาอีกมั้ย เขาตอบว่าไม่ต้องมาแล้วเสร็จแล้ว วันนั้นเมื่อปี 55 ก็ไม่รู้ว่านั่นคือการยกฟ้อง ต่อมาเมื่อ 3 เดือนที่แล้วไปร้องเรียนกองปราบปราม ตำรวจกองปราบบอกให้ไปที่ สภ.ฉลอง จะรื้อฟ้นคดีให้ ตำรวจฉลองก็ดีมากติดต่อสอบถามอยู่ตลอดเวลา พอรู้ข่าวว่าวันจันทร์ที่ผ่านมา อัยการสั่งไม่ฟ้อง มันพูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ ตนยังเชื่อว่าความยุติธรรมในประเทศไทยมีจริง ถ้าที่ภูเก็ตหาความยุติธรรมไม่ได้แล้ว ตนจะพาลูกชายไปร้องกับท่านนายกฯประยุทธ ท่านเป็นคนจริงต้องช่วยได้แน่ๆ” นางยุพินกล่าว
ก็ต้องดูต่อว่าพล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม รรท. ผบช.ภ.8จะมีความเห็นแย้งอัยการหรือไม่ ติดตามกันต่อไปครับ
กากีกลาย 1/12/60