อากาศยามสายเคล้าคลอล้อเล่นกับเส้นผมปลิวกระเจิงด้วลมพรูพร่างเข้าทางช่องหน้าต่างรถเมล์ครีมแดงในฤดูหนาวเดือนสุดท้ายของปี
บรรยากาศน่าจะอยู่ในห้วงแห่งความสนุกสนานอย่างที่ผ่านมาในแต่ละปี
สำหรับปีนี้กลับกลายเป็นเดือนที่กร่อย ดูสิ้นหวังอย่างไรพิกล ด้วยสถานการณ์ไม่สู้ดี ทั้งจากภัยพิบัติน้ำท่วมหนักตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงภาคใต้ โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
สร้างความเสียหายมากมายเหลือคณานับทั้งทรัพย์สินบ้านเรือนและชีวิตผู้คนอีกหลายสิบ
แล้วยังมาเกิดสงครามรบพุ่งดุเดือดตลอดแนวชายแดนติดกัมพูชายกสอง ตั้งแต่ต้นเดือนจวบจวนจะสิ้นปี ยังไม่มีทีท่าจะสงบลงได้อย่างไร
มีแต่กองศพทับพะเนินเทินทึกขึ้นไปทุกวันๆ จนเทียบเท่าเขาพนม ทั้งชีวิตนักรบกับชาวบ้านสองชาติพันธุ์ที่อยู่ติดกันมาสมัยบรรพกาล
ภาพความสูญเสียกับภาพแห่งชัยชนะมันแตกต่างกันอย่างไร คงรับรู้เอาเองด้วยญาณสำนึกของแต่ละคน แต่ภาพเหล่านั้นจะติดตามฝังลึกในร่องหลืบความทรงจำไปตราบนานเท่านาน
นั่งคิดนึกตรึกตรองแผ่ขยายต่อเติมไปทีละน้อยๆ บรรยากาศหฤหรรษ์รื่นเริงอันควรจะเป็นสถิตในดวงจิตดวงใจของคนทั้งหลาย มาปีนี้กลับไร้สิ้น
หลายครอบครัวกลับกลายดิ่งจมลงบ่อลึกแห่งน้ำตาอาดูร มันบ่งบอกให้รับรู้ว่าเมื่อถึงที่สุดแล้ว สงครามมันทิ้งหลายสิ่งหลายอย่างไว้เตือนใจ ก่อนมันจะเลือนรางจางหาย เหลือไว้เพียงตะกอนความทรงจำคือความทุกข์เทวษแสนสาหัสสำหรับผู้คนที่ต้องจากพรากคนที่สุดรักสุดห่วงใย ไม่มีอะไรจะมาช่วบลบเลือนความรู้สึกอันนั้นได้เลย
จุดเริ่มต้นของสงครามระหว่างสองประเทศ บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเป็นความขัดแย้งพิพาทเรื่องพรมแดนระหว่างรัฐทั้งสอง หาได้เกิดจากประชาชนพลเรือนสองชาติพันธุ์ไม่
เท่าที่รับรู้จากข่าวสารข้อมูล จากนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้านภูมิภาคนี้ รวมทั้งสื่อหลักสื่อรอง นักข่าวโซเชียลจากทุกด้าน ตลอดจนสื่อระดับโลกประดังประเดเข้าราวเขื่อนพังทลายประมาณนั้น
มาประมวลหาสาเหตุแท้จริงที่จุดไฟสงครามครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากพลเมืองของทั้งสองรัฐเลย
นอกจากนักการเมืองชนชั้นนำที่ยึดเอาผลประโยชน์ของตนเองเป็นที่ตั้ง มีความละโมบเม็ดเงินมหาศาลอยู่ในกมลสันดาน เสพติดอำนาจเข้าเส้นเลือด กลัวสูญเสียอำนาจและผลประโยชน์ที่ได้มาอย่างง่ายๆ
ประกอบกับผลพวงจากสภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยอย่างหนักอันสืบเนื่องจากสาเหตุหลายประการ
นับแต่สภาวะสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงเกิดภัยพิบัติน้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุถล่ม ไฟป่าผลาญเนื้อที่กว้างทำลายความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเป็นพิษกระจายครอบคลุมไปค่อนโลก
ตลอดจนความขัดแย้งทางการเมือง อุดมการณ์ ลัทธิศาสนาก่อศึกสงครามเข่นฆ่ากันไปทุกมุมโลก
กระทั่งยังถูกซ้ำเติมด้วยมหันตภัยการระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อห้าปีก่อน เศรษฐกิจโลกยิ่งซบเซาหนักเกิดปัญหาเงินฝืดการค้าการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ชะงักงัน ส่งผลกระทบเป็นระลอกคลื่นไปจนถึงธุรกิจรายย่อยกระทั่งระดับล่างชนชั้นแรงงาน ผู้คนว่างงานเพิ่มสูงขึ้นๆ
เมื่อเกิดสภาวะข้าวยากหมากแพงรายได้ไม่พอยังชีพ ผู้ยากไร้เพิ่มมากขึ้นๆ เศรษฐกิจฝืดเคือง โอกาสที่ประเทศเล็กๆ จะเงยหน้ายืนหยัดฝ่ามรสุมนี้ไปได้ด้วยตนเองย่อมเป็นไปไม่ได้
สุดท้ายการหาเม็ดเงินเข้าประเทศเพื่อพยุงสภาวะเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นก็ด้วยวิธีฉ้อฉลกลโกงเปิดศูนย์สแกมเมอร์ระดับโลกเสียเลย
นั่นคือความคิดของชนชั้นนำนักการเมืองผู้หิวกระหายตะกละตะกลามที่เหมือนๆกัน เงินจำนวนมหาศาลจะกอบโกยมาง่ายดายในเวลาเสี้ยววินาที ไม่มีวิธีใดนอกจากการหลอกลวงต้มตุ๋นเท่านั้น เยี่ยงพฤติการณ์ของอาชญากรนั่นเอง
แต่อาชญากรธรรมดาไม่สามารถจุดไฟสงครามระดับประเทศได้ นอกจากอาชญากรในเสื้อคลุมของชนชั้นนำหรือนักการเมืองระดับผู้นำประเทศ
มันจึงเกิดสงครามลุกลามใหญ่โตห้ำหั่นประหัตประหารนักรบชาวประชาล้มตายทับถมเป็นกองพะเนินเท่าภูเขาในช่วงบรรยากาศท้ายปีขนาดนี้ คงจะยืดเยื้อและค้างคาในจิตใจของพลเมืองทั้งสองชาติไปอีกยาวนาน
ข้าพเจ้ารับรู้ข่าวสารที่ทะลักล้นตลอดหลายวัน ได้ยินได้เห็นเสียงร่ำร้องหาสันติภาพ ผสานเสียงสนับสนุนให้บดขยี้ฝ่ายตรงข้ามจนสิ้นสภาพ มันจะดังข้ามปี ข้ามทศวรรษ ข้ามกาลเวลาไปตราบนานเท่าใด มิอาจจะรู้ได้ คำตอบคงล่องลอยไปกับสายลม
หยิบโทรศัพท์มาเลื่อนดูอย่างอื่นที่ไม่ใช่ข่าวสงครามบ้าง
เห็นภาพในเพจเกี่ยวกับเรื่องราวของอวกาศ เป็นภาพถ่ายจากกล้องของยานอวกาศที่ลอยอยู่ในห้วงเวิ้งว้างห่างจากโลกหลายพันล้านกิโลเมตร
เห็นอวกาศสีฟ้าเทาครามครื้มดูสงบ เห็นวัตถุเล็กๆในวงกลม มีข้อความบรรยายบ่งบอกว่า นั่นคือโลกที่มองจากระยะหกพันล้านกิโลเมตร ช่างดูสงบเงียบ ทุกสิ่งที่รับรู้ ทุกเรื่องราวเล่าขาน มันถูกเปิดเผยขึ้นบนจุดเล็กๆจุดนั้น
“ห้วงอวกาศไม่ได้แสดงให้เราเห็นว่าจักรวาลกว้างใหญ่ไพศาลเพียงใดเท่านั้น มันยังแสดงให้เห็นบ้านที่แสนล้ำค่าสุดคณา”
อยากให้เป็นจริงสมดังคำบรรยายเหลือเกิน
แต่ข้าพเจ้าคงจะต้องปิดหูปิดตาไม่รับข้อมูลข่าวสารทั้งหลายจากโทรศัพท์มือถือเสียก่อน.
20/12/2568
