“จะนานเพียงไหน จะพ้นไปกี่ปี ขอได้อยู่ ใกล้ใกล้กัน ก็ยังคงรู้สึก เหมือนเดิมอย่างนั้นมันยังคงเหมือน เพิ่งรักกัน
ไม่เปลี่ยนไปเลย”
การที่คนเราจะใช้ชีวิต คู่อยู่กันมา เชื่อว่าหลายคู่ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านเรื่องราวและบทพิสูจน์อันท้าทาย บ้างก็ถอดใจ
แต่จะดีกว่าไหมหากเราจะยอมปรับตัวปรับใจเพื่อให้ความรักได้ไปต่อ ???
แม่บ้านตำรวจวันนี้มีเคล็ดลับการครองเรือน ในแบบฉบับของ“คุณนายแมว” คุณรสสุคนธ์ รอดลอย
ภรรยาสุดที่รักของ พ.ต.อ.รณชัย รอดลอย รอง ผบก.ภ.จว. ลำพูน (รอง เก่ง นรต. 49)
ถ้าอยากรู้ตามไปดูกันค่ะ

สาวเชียงใหม่หัวใจสตรอง ที่เติบโตมาจากครอบครัวนักธุรกิจที่ปิดประตูหัวใจไม่ต้อนรับสำหรับอาชีพตำรวจ เหตุเพราะ “ความเจ้าชู้ ประตูดิน” ของหนุ่มในเครื่องแบบสีกากีที่เลื่องลือ ทำให้เธอมีอคติกับผู้ชายในอาชีพนี้
คุณนายแมว จบการศึกษารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยนอร์ทเชียงใหม่ และทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งกรุงเทพ ฯ และเชียงใหม่
อยู่มาวันหนึ่งประมาณปี 2547 ได้ไปนั่งทานอาหารที่ “ร้านแซ่บ” ย่านสุทธิสาร ของรุ่นพี่ที่สนิทกัน ในวันนั้นเธอได้พบกับรองเก่ง ตอนนั้นเป็นรองสารวัตร อยู่ที่ สน.สุทธิสาร ผ่านการแนะนำของพี่คนเดิม
เธอรู้สึกเหมือนรู้จักกันมาก่อนทั้งๆ ที่เพิ่งเห็นหน้าครั้งแรก
หลังจากนั้นก็ได้พูดคุยกันเรื่อยมา เมื่อยามที่เธอต้องการคำแนะนำทางด้านกฎหมาย ก็มีผู้ชายคนนี้ที่คอยเป็นที่ปรึกษาและช่วยหาทางออกให้เสมอ


ยิ่งเกลียด…ยิ่งเจอ
ตอนนั้นก็รู้สึกเพียงว่าผู้ชายคนนี้บุคลิกดีดูอบอุ่น เธอรับรู้ได้ถึงความใส่ใจและไมตรีที่ฝ่ายชายแสดงออก แต่ก็ไม่ได้คิดไปไกลกว่านั้น
การที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องไตร่ตรองให้ดี แต่ด้วยความดีของผู้กองเก่ง ก็สามรถเอาชนะใจคุณนายแมวได้ จากนั้นทั้งสองคนจึงตัดสินใจใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกัน
ขุนแผนเรียกพี่…ดีกรีความเจ้าชู้อยู่ขั้นเทพ
เมื่อถามว่ากลัวความเจ้าชู้ของอาชีพตำรวจไหม คุณนายแมวบอกว่าจนถึงวันนี้ถือว่าได้ก้าวผ่านความกลัวมาแล้ว พร้อมเล่าต่ออย่างอารมณ์ดีเรื่องความเจ้าชู้ของรองเก่ง
ไม่สามารถใช้คำว่า “เจ้าชู้ไก่แจ้” เพราะถือว่ายังห่างชั้นอยู่มาก เนื่องจากสามีสุดที่รักมาไกลเกินกว่านั้นเยอะ
หากจะบอกว่า “ขุนแผนเรียกพี่” คำนี้ก็ไม่ไกลเกินจริงเลยคุณนายเล่าพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
เวลาที่คุณนายแมวจับได้ว่าฝ่ายชายออกนอกลู่นอกทาง จนเป็นเหตุให้ทะเลาะกันบ้าง แต่รองเก่ง ก็จะมาง้อขอคืนดีเสมอ เธอเองก็ยอมใจอ่อนทุกที…..เมื่อนึกถึงความดีที่สามีเคยทำมาตลอด
ชีวิตคู่ไม่ได้โรย…ได้กลิ่นกุหลาบ
ด้วยความที่คุณนายแมวมีอายุมากกว่าสามี ทำให้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์มากพอที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ได้ ถึงแม้บางครั้งจะออกอาการเหวี่ยงวีนบ้างตามประสาคู่สามีภรรยาทั่วไป แล้วเหตุใดทั้งคู่จึงครองรักครองเรือนอยู่มาได้จนทุกวันนี้

คุณนายแมวเผยเคล็ดลับให้ทราบว่า “อภัย” คือคาถาสยบความเจ้าชู้ให้อยู่หมัด สูตรนี้ยังใช้ได้ทุกยุคสมัยนะคะ
รวมทั้งการศึกาษภูมิหลังของคนรัก ว่าคนของเราเติบโตมาแบบใด จะช่วยให้เราเข้าใจและเข้าถึงสามีมากขึ้นค่ะ เช่น การเป็นลูกคนเดียวก็ถูกตามใจ และชีวิตในรั้วโรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนนายร้อยก็อยู่ในกรอบมาตลอด
ทำให้ช่วงชีวิตตอนเป็นวัยรุ่นขาดหาย ก็อาจจะมาออกลวดลายในภายหลัง
ในเมื่อเราโตกว่าก็ต้องพร้อมให้อภัยเปิดใจและปรับใจให้พร้อมเริ่มต้นใหม่เสมอ ว่าแล้วเสียงเพลง “ความรัก” ของออโต้บาร์นก็ลอยขึ้นมาในหัวเด็ดดาวทันทีค่ะ
“รัก” คือคำ คำนี้ …รักคือความอดทนทุกอย่าง จริงใจให้กันรักคือความเข้าใจ รักคือยอมอภัยทุกอย่าง อภัยให้กัน ดั่งดวงตะวัน ที่ยังยั่งยืนคู่ฟ้า…
แม้คุณนายแมวจะไม่ได้จัดงานวิวาห์ เชิญแขกเหรื่อมาร่วมเป็นสักขีพยาน เธออาจมีเพียงทะเบียนสมรสเป็นเครื่องการันตีความรักของทั้งคู่ และไม่จำเป็นต้องมีคำสัญญาบนเวที …มีเพียงสัญญาใจที่ให้ไว้แก่กันก็พอ
แต่เธอก็รับรู้ได้ว่า ความรักความใส่ใจ ความห่วงใยเอื้ออาทรที่รองเก่ง มีต่อเธอและครอบครัวไม่ต่างจากเดิม ที่เพิ่มเติมคือความผูกพันที่นับวันจะยิ่งทวีคูณ
พร้อมย้ำว่า รูปร่างหน้าตาความหล่ออาจเป็น First impression แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ความดีของสามีเธอมากกว่า

จับมือไว้…แล้วไปด้วยกัน
เพราะเราคือ “ครอบครัว” ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาไม่เคยปล่อยมือเรา และจะอยู่เคียงข้างเป็นกำแพงอันแข็งแกร่งสร้างความอุ่นใจเสมอ รองฯ เก่ง มักพูดว่า
“ป๊าจะอยู่ตรงนี้นะ อย่าคิดมาก”
นั่นไม่ใช่เพียงแค่คำพูดแต่เป็นการกระทำ ที่เธอเห็นบนเส้นทางรักกว่า 20 ปี จนคุณนายแมวเชื่อมั่นว่าผู้ชายคนนี้
“ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคู่รัก…หากแต่เกิดมาเพื่อเป็นคู่ชีวิต”
ที่ยังเกี่ยวก้อยร้อยดวงใจประคับประคองกันมาได้จนถึงทุกวันนี้
ทำบุญเข้าวัด…ขจัดกิเลส
คุณนายแมวบกว่า อาชีพตำรวจต้องแบกรับภาระหน้าที่อันหนักหนาไว้บนบ่า และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูแลทุกข์สุขของประชาชน
เมื่อมีมีเวลาว่างจึงชวนสามีทำบุญเข้าวัดปฏิบัติธรรม เพื่อจะได้มีพลังบวกกลับไปทำงานอย่างเต็มที่



เธอเองก็ยังนำหลักธรรมมาปรับใช้ในชีวิตคู่อีกด้วย เช่น การชนะความโกรธด้วยความอดทน ความเมตตา การดึงสติกลับมาอยู่ที่ลมหายใจ ก็จะช่วยให้ความโกรธนั้นลดระดับความรุนแรงลง
ภูมิใจที่ได้เป็นคู่ชีวิตรองเก่ง
เธอบอกว่า รู้สึกภูมิใจอย่างมากที่คนข้างกายได้ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจด้วยความทุ่มเทเสียสละและมีพัฒนาการทั้งหน้าที่การงานและจิตวิญญาณจากข้างใน
แต่ก็อดห่วงไม่ได้กับเรื่องสุขภาพ อยากบอกให้สามีดูแลตัวเองให้มากกว่านี้จะได้มีสุขภาพที่ดีอยู่ด้วยกันไปนานๆ นะคะ
พร้อมฝากถึงภรรยาตำรวจ ด้วยว่า
ความห่วงใยจากหลังบ้านที่ส่งผ่านออกไปด้วยความรักความเข้าใจ ผ่านถ้อยคำดีๆ และให้เกียรติกันนั้น มีพลังส่งผลต่อการขับเคลื่อนของสามีให้พร้อมเผชิญกับภาระหน้าที่อันหนักหน่วง โดยไม่รู้จักคำว่า “เหน็ดเหนื่อย”
เพราะพวกเขามั่นใจว่ายังมีครอบครัวอันอบอุ่นให้พักพิงอิงใจได้เสมอ

ทั้งหมดนี้ ก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวของคู่รักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่มีครบทุกรสชาติทั้งดุเด็ดเผ็ดมัน
แต่ก็ยังเป็นลมหายใจของกันและกันแบบนี้ตลอดไป
เด็ดดาว…รายงาน27/12/68

























