คอลัมน์ อาชญา (ลง) กลอน
โดย…ธนก บังผล
สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ากระแส “ขวานคุณป้า” ผ่าลงศาลาว่าการ กทม. กระตุกให้คนไทยหันกลับมาวิเคราะห์สังคมป่วยๆที่เราอยู่กันได้หลายประเด็นมากครับ
อย่างแรกเลยคือการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดในประเทศไทยมี กรุงเทพมหานครเพียงแห่งเดียวที่มีการเลือกตั้ง แล้วปรากฏว่าหลายครั้งที่ผ่านมาเราได้อะไรครับ บางท่านกลายเป็นผู้บริหารที่นิยมการจิบไวน์อยู่ในห้องแอร์เย็นเฉียบรายล้อมด้วยสตรีเพศมากกว่าที่จะสนใจความเดือดร้อนของชาวบ้านผู้เสียภาษี
คุณป้า เป็นคนเล็กคนน้อยที่มีความเดือดร้อนแต่ กทม.ไม่เคยจะสนใจ อย่าให้พูดเลยครับว่าสาเหตุมาจากอะไร เราต่างก็กล้ำกลืนกันมานานแล้ว
ระบอบประชาธิปไตยโดยแก่นแท้นั้นถูกบิดเบือนในทุกระดับการเมืองไทย โดยชูผลประโยชน์นำหน้า ปัญหาประชาชนมาทีหลัง
วันดีคืนดี เราก็มีผู้ว่าราชการ กทม.ที่อยากจะทำให้เมืองหลวงเป็นแลนด์มาร์คระดับโลก ด้วยการทำซุ้มไฟราคา 30 กว่าล้าน ระบุวัตถุประสงค์ว่าให้คนต่างประเทศมาถ่ายรูป ภายใต้ความงามของแสงไฟนั้นมีเงินสะพัดเข้ากระเป๋าพุงกางไปหลายคน
ในขณะที่หญิงสูงอายุคนหนึ่งต้องแบกหน้าไปฟ้องศาลทนอยู่กับการถูกข่มขู่คุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐ
นอกจากนี้เรายังมีอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ร่ำรวยแต่กลับไปยืมเงินเจ้าพ่อน้ำกามอาบอบนวด 300 ล้านบาท ด้วยตรรกะแปลกๆว่าเป็น “ไซด์ไลน์”
ผมถามคำเดียวเลยครับ คำว่าไซด์ไลน์ที่ท่านพูดมานั้น ท่านคิดอะไรอยู่ ถ้าตำรวจเป็นไซด์ไลน์ก็แสดงว่าท่านอาชีพตำรวจไปอยู่ในสถานที่อโคจรอย่างแต็มตัว
เราจะไม่สนใจว่าเงินนั้นได้มาอย่างไร แต่เราควรสนใจว่าคนที่ไปอยู่ในสถานที่แบบนั้นเป็นคนประเภทไหน …ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์?
มีกระแสให้ริบคืนยศ “พลตำรวจเอก” ออกเพราะทำให้เสื่อมเสีย แต่ผมคิดว่าประเทศไทยเราไม่ได้มีมาตรฐานทางจริยธรรมสูงขนาดนั้นครับ
รัฐมนตรีท่านหนึ่งไปพูดที่ต่างประเทศกรณีนาฬิกาว่าถ้าเป็นผมลาออกไปแล้ว เมื่อกลับมาเหยียบแผ่นดินแม่เท่านั้นเอง คำว่า “ขอโทษ” พรั่งพรูทันที แล้วรัฐมนตรีก็หายเข้ากลีบเมฆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คนระดับรองนายกรัฐมนตรี ประกาศลั่นว่าถ้าประชาชนไม่ต้องการผมก็พร้อมจะไป พอมีผลโพลออกมามีคนไปยื่นชื่อว่าไม่ต้องการ รองนายกรัฐมนตรีถามว่า “ทำไปเพื่ออะไร”
20 กว่าปีที่ผ่านมาปัญหาของประเทศไทยอยู่ตรงไหนครับ อยู่ตรงที่เอาคนพรรค์นี้มาบริหารประเทศ บริหาร กทม. เมื่อมีอำนาจแต่ไม่มีความรับผิดชอบมันก็เหมือนคนพวกนี้เข้ามาร่วมสร้างปัญหา และสุดท้ายวังวนของประเทศก็ไม่พ้นการรัฐประหาร
ถามว่าประชาธิปไตยดีหรือไม่ ผมก็ตอบว่าดีกว่าเผด็จการ
แล้วถ้าคนที่มาจากประชาธิปไตย ได้รับการเลือกตั้งมาแต่ชอบโกงกินจะดีหรือไม่ วันนี้คนไทยต้องตอบแล้วครับว่า ถ้าความเดือดร้อนของป้ามันมากเกินจะทนจนทำให้ขวานเล่มนั้นฟาดสะเทือนปัญหาให้คนทั้งประเทศได้รับรู้
ถ้าปัญหาของตำรวจคือการเป็นหนี้ยืมสิน 300 ล้านบาท
ถ้าปัญหาของคนกทม.คือฝนตกน้ำท่วม
บางทีปัญหาจริงๆของประเทศนี้น่าจะเป็น “คน” เราต้องร่วมกันอย่าให้คนพวกนี้เข้ามามีอำนาจบริหารประเทศ
