พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีต รองผบ.ตร.จัดเป็นนายตำรวจที่เรียกได้ทั้งบู๊ทั้งบุ๋น
ใครที่รู้จัก หรือรู้โพรไฟล์ พล.ต.อ.ณรงค์วิช ไทยทอง อดีตรองอ.ตร.นรต.18 พล.ต.อ.วินัย อดีตนายเวร พล.ต.อ.ณรงค์วิช ก็จะมีรูปแบบการทำงานคล้ายๆกัน
เอาพอเป็นน้ำจิ้ม สมัย พล.ต.อ.ณรงค์วิช เป็นผกก.2ป.เมื่อปี2526 (ใหญ่มากครับตำแหน่งนี้)เคยนำกำลัง ใช้คอมมานโด ใช้ เฮลิคอปเตอร์ ปิดล้อมบ่อนใหญ่ย่านพัฒนาการ จับนักพนันได้หลายร้อยคน
สมัย พล.ต.อ.วินัย เป็นผู้การกองปราบฯก็สร้างความฮือฮาในยุทธการ The Cat ปิดประตูตีแมวจับบ่อนใหญ่ย่านเตาปูน ด้วยการใช้คอมมานโดโรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ จับนักพนันได้เป็นร้อย
สำหรับผมกับพี่วินัย เรามีสตอรี่กันยาว ไว้มีจังหวะจะเล่าให้ฟังครับ วันนี้มาแก้คิดถึงกันเรื่องพระเรื่องเจ้าที่พี่วินัยคล้องคอ ผมไปสัมภาษณ์สมัยพี่เขาเป็นรองผบช.ก.กันครับ
พระเครื่องนักสืบ เครื่องรางนักรบ ออกญาบุรีรัมย์
ช่วงหนึ่งของชีวิต ไม่ผิดกับหนุมานคลุกฝุ่น
ผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีฆ่าคนตาย อย่าง “ศรีวิชัย รุ่งแก้ว”ถึงกับดีใจสุดขีด เมื่อได้รับจดหมายจากบริษัทนมมะลิ ให้มารับรางวัลทองคำ 20 บาท
แต่กลับต้องตกใจสุดขีดถึงกับเข่าทรุด เมื่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทนมมะลิ ผู้นำข่าวดีมาบอก เผยโฉมแสดงตัวเป็นตำรวจยศ ร.ต.อ.หัวหน้าสายสืบ สน.ปทุมวัน
ผู้กองสมองใสที่เอาความโลภจับโจร ลงทุนแค่ 10 บาท ซื้อนมกระป๋อง และแสตมป์หลอกโจรในวันนั้น วันนี้เป็นนายพลหน้าใส ยศ พล.ต.ต. ตำแหน่ง รอง ผบช.ก.
ต้นตำรับจดหมายหลอกโจรคนนั้นคือ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง อดีตผู้บังคับการกองปราบปรามนั่นเอง
สมัยเป็นนักสืบเด็กๆเดินตาม บิ๊กอู๊ด-พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี ผบก.ส.2 ทำงานร่วมกับนักสืบระดับตำนานอย่าง บิ๊กอ๊อด-พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา(สบ10)เทียบเท่ารอง ผบ.ตร. เดอะคิด-พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 เดอะใหญ่-พ.ต.อ.ทรงพร สารพานิช
มีส่วนร่วมสะสางคดีอาชญากรรมกับมือปราบรุ่นใหญ่เหล่านั้นหลายคดี จนวันนี้เจ้าตัวก็ถือเป็นรุ่นใหญ่ยอดฝีมือในยุทธจักรอีกคน
เมื่อถูกถามถึงพระเครื่องคู่กาย บิ๊กวินัย ถอดพระที่คล้องคอออกมาให้ชมทันที
พวงนั้นมีพระสมเด็จวัดระฆัง ราชันแห่งพระสมเด็จ เป็นพระประธาน ส่วนองค์อื่นๆประกอบไปด้วย หลวงพ่อโสธรปี 97 พิมพ์ 2 หน้า พระนางพญาสังฆาฏิ พระซุ้มกอ และหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง เป็นคนชอบสะสมพระอยู่แล้ว
ยิ่งช่วงหลัง ได้พ่อตา (วรนันท์ อาจศิริ)อดีต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ท่านสะสมพระเครื่องมาก่อน มอบให้เป็นของขวัญอีกหลายองค์ เลยเอามาแบ่งกันๆแขวนแล้วแต่สถานการณ์
ถ้าไปจับโจร จะแขวนเดี่ยวพระท่ากระดาน หรือไม่ก็เป็นพระร่วงรางปืน ถ้ามานั่งโต๊ะทำหน้าที่บริหาร จะใส่พระพวงที่ห้อยอยู่
ตอนนี้ มีเรื่องขำๆ สมัยเป็นผู้การกองปราบฯใหม่ๆ เมื่อปลายปี 47 มีน้องคนหนึ่งเอาหนุมานหลวงพ่อพูลมาให้ ก็นำติดตัวใส่กระเป๋ามาโดยตลอด
น้องใกล้ชิดกันแซว สงสัยหนุมานที่ได้มา คงเป็นหนุมานอาสา หรือไม่ก็เป็นหนุมานคลุกฝุ่น เพราะหลังจากนั้น ไม่เคยได้อยู่ติดที่ ที่ทำงานกองปราบฯนับวันเข้าได้ เพราะต้องตะลอนไปทำงานที่ 3 จังหวัดภาคใต้เป็นแรมเดือน กลับมาก็ให้มีงานออกไปต่างจังหวัดจับโจรคดีอื่นอีก
นายตำรวจพ่อลูกแฝดบอกอีก สมัยเป็นนายตำรวจเด็กๆ เวลาจะเข้าไปจับโจร จะนึกถึงพระให้พระคุ้มครอง ทำให้มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่
พูดง่ายๆวิกฤติเมื่อไหร่ จะนึกถึงพระ ให้เรามีสติปัญญาแก้ไขปัญหาให้ผ่านไปได้
ทุกวันนี้ตอนเช้าก่อนออกมาทำงาน จะอาราธนาพุทธคุณของพระเครื่องที่สวมใส่ ให้คุ้มครอง และเตือนสติ ให้คิดดีทำดี ทำประโยชน์ให้กับประชาชนให้มากที่สุด
COP’S MAGAZINE VOL.04 NO.45 MAY 2010
ปัจจุบัน เกษียณอายุราชการ เมื่อ 30ก.ย.60 ในตำแหน่ง รองผบ.ตร.