22ปีที่เจ็บช้ำที่สุด…
จาก”บีอีซีเทโรศาสน”มาเป็น”โปลิศเทโร”ที่ร่วงจากไทยลีก1สู่ลีก2 หลังพ่ายราชนาวี4-2กอดคอกันตกชั้นเมื่อค่ำวันที่3ต.ค.ที่ผ่านมา
ใครๆจะไปเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้จากฟุตบอลลีกสูงสุดไปสู่สามัญชนลีกรอง สำหรับ”โปลิศเทโร”หรือชื่อเดิม”บีอีซีเทโรศาสน”ที่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุด เคยโลดแล่นบนถนนลูกหนังฟุตบอลเอเชียมาหลายปี
ในวันนี้ทำไมถึงเป็นไปได้ ที่ต้องตกชั้นไปสู่ไทยลีก2ต้องค้นหาคำตอบกัน….
สมัยก่อนต้องยอมรับว่า”บีอีซีเทโรศาสน”คือมหาอำนาจลูกหนังไทยที่นักฟุตบอลทั้งไทยและเทศต่างมุ่งหน้าเข้ามาร่วมชายคา
เพราะทีมนี้ได้ฉายาว่า”ทีมเจ้าบุญทุ่ม”แห่งไทยแลนด์ เจ้าของคือนักธุรกิจฝรั่งที่มีลุ่มหลงมนต์เสน่ห์ฟุตบอล”ไบรอัน มาร์คา”
ก่อนที่จะมี”บุรีรัมย์”และ”เมืองทอง”2มหาอำนาจลูกหนังไทยน้องใหม่ที่ก้าวขึ้นมาเทียบรัศมี
หลังจาก 2มหาอำนาจลูกหนังก้าวขึ้นมาแทนที่แย่งตำแหน่งแชมป์ไปครอง ทีม”บีอีซีเทโรศาสน”โดยประธานสโมสรได้หันหลังให้วงการฟุตบอลไทย เมื่อช่วงตอนเปลี่ยนนายกสมาคมฟุตบอลจาก”บังยี”มาเป็น”สมยศ” เพราะทนสภาพการขาดทุนต่อไปอีกไม่ไหว
ประกาศขายทีม500ล้านบาท ตอนหลังๆลดลงมา300ล้าน
ช่วงจังหวะนั้นทีม”เมืองทองยูไนเต็ด”เล็งเห็นนักเตะคนดังๆระดับเกรดเอ อย่าง”เมสซี่เจ,ธนบรูณ ,อดิศักด์,อดิศร,และคนอื่นๆอยู่ในทีม เลยเข้าไปร่วมเป็นพันธมิตร เข้าไปบริหารงานเอง
แล้วดึงนักเตะระดับหัวกะทิเข้าสู่”เมืองทองยูไนเต็ด”สำเร็จ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อขายแต่อย่างใด ด้วยการสลับกับนักเตะสำรองจาก”เมืองทอง”ไปสู่”บีอีซีเทโรฯ”
พอกิจการค้าสำเร็จลุล่วง ฝ่าย”เมืองทองยูฯ”ก็ไม่อยากอุ้มแบกภาระค่าใช้จ่าย เลยเปลี่ยนถ่ายมาสู่ค่าย”สีกากี”เมื่อประมาณ2ปีที่ผ่านมา…
ในช่วงเวลาปี2017 ทีม”เพื่อนตำรวจ”ที่ต้องถูกยุบทีมจากปัญหาภายในของประธานสโมสรในขณะนั้น
”บิ๊กแป๊ะ”ผบ.ตร.ท่านเป็นคนชื่นชอบกีฬาอยู่แล้ว ถึงท่านผบ.ตร.จะไม่ได้เป็นนักฟุตบอลก็ตาม(เป็นนักรักบี้)
ท่านก็อยากให้ทางตำรวจได้มีทีมฟุตบอลเป็นของตัวเองขึ้นมา เลยมีการเจรจากับทาง”ไบรอัน”ทุกอย่างก็ลงตัว คือได้เป็นพันธมิตรกันเรียบร้อย
ในปีแรก ยังเป็นทีมงานของ”เมืองทอง” ทั้งหมดมาทำทีม ใช้ชื่อทีมว่า”เทโรโปลิศ”เพราะว่ายังเปลี่ยนชื่อใหม่ไม่ได้ ตามกฎของAFC
ในปีนั้น”ไบรอัน”ยังมีบทบาทในการบริหารจัดการทีมทั้งหมด เพราะว่าถือหุ้นใหญ่อยู่….และก็อยู่รอดมาได้ในไทยลีกมา…
พอมาสู่ฤดูกาลนี้2018 มีการเปลี่ยนแปลงทีมทั้งหมดจาก”เทโรโปลิศ”มาเป็น”โปลิศเทโร”
”ไบรอัน”ที่เคยถือหุ้นใหญ่ลดลงมาเหลือ20%ที่เหลือ ”บิ๊กแป๊ะ”ผบ.ตร.และนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง”เสี่ยท็อป”ถือคนละ40%
พออำนาจไม่ได้ตกอยู่ที่”ไบรอัน”แล้วการเปลี่ยนแปลงถือว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก เหล่าสปอนเซอร์ดังๆต่างวิ่งมาหามากมาย งบสนับสนุนการทำทีมเหลือเฟือในการที่จะลุ้นอันดับต้นๆ
แล้วยังไปดึงโค้ชฝีมือดี”สก๊อต คูเปอร์”มาจากทีม”อุบลยูเอ็มที ยูไนเต็ด”เข้ามาเป็นเฮดโค้ช พร้อมซื้อนักเตะทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาร่วมทีม
แต่ทุกอย่างที่คาดหวังเอาไว้ว่าต้องดี มันกลับตรงกันข้าม ทีมไม่ชนะเลย อันดับหล่นไปอยู่แถวๆท้ายตาราง
สุดท้ายก็ต้องปลดโค้ชนอก แล้วหันมาใช้นักเตะกึ่งโค้ช”อ้น รังสรรค์”ถูกดันขึ้นมาให้รับตำแหน่งหัวหน้าทำทีม
ในช่วงเลค2ท่าทางดูจะไม่ดี ผู้บริหารเลยไปดึงโค้ชยอดฝีมือมาเพื่อกอบกู้สถานการณ์หนีการตกชั้น
”โค้ชแบน”ธชตวัน ศรีปาน เข้ามาร่วมงานกับทีมงานชุดเดิม เป็นข่าวใหญ่โตมาก
ด้วยฝีมือมันสมองของโค้ชจะเก่งกาจแค่ไหน แต่ถ้าในเรื่องของจิตใจสปิริตในการต่อสู้ของนักฟุตบอลที่ไม่ค่อยจะเป็นมืออาชีพสักเท่าไหร่
สุดท้าย”โค้ชแบน”เลยขอแยกทาง แล้วให้”อ้น รังสรรค์”ขึ้นมารับผิดชอบเหมือนเดิม
จากวันนั้นมาถึงวันนี้ ที่ไม่มีคำว่า”เทโรโปลิศ”ในไทยลีกสูงสุดแล้ว ปีหน้าขอไปท้ารบในลีกที2แทน…..
สาเหตุมาจากอะไร พอสังเขปได้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น
แม้ว่าผู้บริหาร ทั้งประธานสโมสร”โปลิศเทโร”จะกระตุ้นนักเตะด้วยการอัดฉีดมากมาย แต่ทำไมถึงไม่รอด
ถึงขนาดให้”โค้ชตุ้ม”รังสิวุฒิ ผอ.สโมสร ทำพิธีทางไสยศาสตร์ กราบไหว้เจ้าที่ในสนามขนาดไหนก็ยังไม่ได้ช่วยอะไรๆเลย…
ปัญหาโลกแตกที่ทำให้ทีม”โปลิศเทโร”ต้องลำบากถึงขั้นนี้ คงจะไม่มีอะไรมากมายนอกจากคำว่า”เอาคนที่ไม่รู้เรื่องฟุตบอล”เข้ามาเป็นผู้ทรงอิทธิพล
จะเป็นใครๆก็รู้กันอยู่ มีพระเดชแต่ไม่มีพระคุณ เวลาฟุตบอลชนะชื่นชม แต่เวลาแพ้ขึ้นมานี่แหละคือตรงกันข้าม
เลยทำให้นักฟุตบอลไม่มีใจ แล้วจะใครๆที่ไหนๆเขามีใจให้สู้ และนักเตะต่างชาติที่มีคือ”ของปลอม”….
สรุปได้ตอนนี้ทั้ง4เหล่า ตำรวจ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ลงไปอยู่ด้วยกันลีก2แล้วครับ ……
ยันแข้ง4/10/61