เป็นนักข่าวกองปราบฯ ดีอย่างที่เคยบอกหลายครั้งว่า มีโอกาสได้สัมผัสนักสืบมือทำงานหลายคน ที่จะได้เติบโตต่อไปในอนาคต
พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รองผบช.น.เป็นอีก1นักสืบที่ได้รู้จักจากกองบังคับการแห่งนี้
เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนรต.36และอีก1มือทำงานของ บิ๊กแป๊ะ-จักรทิพย์ ชัยจินดา
วันนี้มาดูกันทำไม เฮียดาวถึงมาเป็นผู้ช่วยเดอะบัว-สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.ในเรื่องหน้างานยาเสพติดจากบทความที่ผมเคยบันทึกสัมภาษณ์ไว้ และรู้ถึงเขี้ยวเล็บไว้ใช้ปราบโจร เมื่อครั้งเฮียดาวเป็น รองผบก.สส.บช.ภ.8กันครับ
GLOCK 26 ครบเครื่อง
พ.ต.อ.ดาวลอย เหมือนเดช รองผบก.สส.ภ.8 นักสืบอีกคนของ นรต.36
เป็นคนสมุทรปราการ แต่ชีวิตราชการโลดแล่นไปทั่วทั้งภูธร นครบาล กองปราบปราม โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคใต้ ลงไปอยู่ตั้งแต่ติดยศ ร.ต.ต.ใหม่ๆ
จัดเป็นมือปราบยาเสพติดอีกคนหนึ่ง เพราะนำระบบไอทีเข้ามาใช้ในการสืบสวนสอบสวนเชื่อมโยงเครือข่ายยาเสพติด
และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทลายเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำนครศรีธรรมราช ภายใต้ชื่อ นครโมเดล อันโด่งดังของภาค 8 จนได้รับโล่และใบประกาศเกียรติคุณ เป็นผู้ทำหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดดีเด่น จาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เมื่อ 13ต.ค.55
ด้วยผลงานดังกล่าว ป.ป.ส.เชิญไปเป็นวิทยากรหลักสูตรการเพิ่มประสิทธิภาพชุดขยายผลและตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด สังกัด บช.น. ภ.1-9 ศชต. ตชด. จนท.ป.ป.ส.ภาค 1-9
มีจังหวะได้คุยกันถึงเรื่องเขี้ยวเล็บติดตัว รองดาวลอยเล่าว่า
พ้นรั้วสามพรานปีแรก ลงไปเป็นรองสว.ส.สภ.อ.เมืองยะลา พอออกเวรก็ไปเดินป่าอยู่กับ พี่เพียร-พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา สมัยที่พี่เขายังเป็นตำรวจชั้นประทวน เพิ่งได้รับเครื่องราชมาใหม่ๆ
ตอนนั้นนอกจากปืนยาวของหลวงแล้ว ปืนสั้นที่ติดตัวใช้ปืน COLT 9 มม.ของพ่อ
ปี 29 เข้ากรุงมาเป็นหัวหน้าสายสืบอยู่ สน.พระโขนง ช่วงนี้ได้เรียนรู้ได้สัมผัสยอดนักสืบอย่าง ธนู หอมหวล คำนึง ธรรมเกษม ก็ได้วิชานักสืบจากปรมาจารย์เหล่านี้ติดตัว
ช่วงอยู่นครบาล ปืนที่ใช้ต้องเล็ก พกซ่อนมิดชิด คล่องตัว ซื้อต่อจากตำรวจด้วยกันที่ สน.พระโขนง เป็นปืน สมิทชิพ 5 นัด ขนาด.38
เจ้าของเป็นนักแม่นปืน พอเราลองยิงดู มันนิ่มจริงๆเลยขอซื้อต่อ จำได้เลยราคา 1,250 บาท
อยู่นครบาลสักพัก ย้ายกลับใต้ไปเป็น สารวัตรรถหุ้มเกราะ บก.ภ.12 คุมทั้ง โก-ลก สงขลา ยันสตูล ก็กลับไปใช้ COLT ของพ่อตามเดิม
ได้รับโอกาสมาอยู่กองปราบฯ เป็นสารวัตรอยู่กองกำกับการ 4 เป็นรองผู้กำกับการ 5 ได้สัมผัสกับอัศวิน ขวัญเมือง วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์
และมาอยู่กับเพื่อนรุ่นเดียวกันหลายคน อาทิ ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รณศิลป์ ภู่สาระ สุชาติ ธีระสวัสดิ์ สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ทำงานสนุกไปอีกแบบ
ตอนอยู่กองปราบฯ เปลี่ยนมาใช้ GLOCK 19 ขนาด 9 มม. แต่ความที่เราเคลื่อนไหวตลอด ไปโน่นมานี่ตลอด เลยเกิดความคิดว่า จะใช้ปืนอะไรที่อยากให้จบแค่กระบอกเดียว แต่มีความคล่องตัวสูง พกพาซุกซ่อนง่าย มีอานุภาพสูง
สุดท้ายมาจบที่ GLOCK 26 ขนาด 9 มม. เล็กกว่า GLOCK 19 ลงมาหน่อย
แต่ข้อดีคือ สามารถเพิ่มจำนวนลูกกระสุนได้ สามารถเปลี่ยนจากแมกกาซีนสั้นเป็นแมกกาซีนยาว จุ 30 นัดได้
เพราะหากจำเป็นมีงานสืบสวนเข้าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน อาจเกิดเหตุได้ตลอดเวลา แต่มีแค่นี้พอแล้ว
ส่วนเรื่องการพกพา ได้ทริกมาจาก เฮียเก้า-พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.สส.ภ.9 แกเป็นคนแรกที่สะพายเป้ ใช้กระเป๋าสะพาย เอาปืนใส่ เอาอะไรใส่ไว้ในนั้น มีครบทั้งที่ชาร์จ แม็กปืน อยู่ในนี้หมด
แล้วมีตำรวจรุ่นน้อง รองแมน-พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยประดิษฐ์ รองผบก.ภ.จว.สงขลา ใช้ตาม
ผมก็เลยเลียนแบบ พอใช้แล้วคล่องตัวขึ้น ไปไหนมาไหนไม่เป็นที่สนใจใคร ไม่สะดุดตาใคร แถมหยิบง่ายใช้สะดวก
หลักใช้ปืนคือ ต้องพยายามซ้อมยิง หมั่นดูแล ต้องดูตลอด ต้องดูมากกว่ารถราอีก บางคนไม่เคยดูเลย สปริง ไกไม่ตี พอถึงเวลาใช้ปืนบางทีมันอาจลืมได้
ปัจจุบัน เป็นรองผบช.น.