ด้วยเลือดเนื้อและชีวิต-สยบความคิดบ้าๆ
ช่วงนี้ข่าวอายัดทรัพย์จากเครือข่ายยาเสพติดเยอะมาก อายัดทรัพย์สินแต่ละครั้ง แต่ละเครือข่ายเป็นเงินหลายร้อยล้านบาท ไม่นับโทษทัณฑ์ทางกฏหมายที่รุนแรง เราจึงเห็นข่าวอยู่บ่อยครั้งว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดบางรายจึงไม่ยอมให้จับโดยง่าย บางรายต่อสู้ตำรวจด้วยอาวุธปืนที่บางครั้งดูทันสมัยว่าตำรวจด้วยซ้ำ
อย่างวันก่อน เหตุปะทะแก๊งแทงกิ้วปาร์ตี้ยา เครือข่าย ไอ้โน้ต ศดายุ เหลืองประดับใจ จนตำรวจเจ็บไป1 คน เป็นนายตำรวจระดับสารวัตร ชื่อ พ.ต.ต.ทวิพงษ์ พลูโต สว.การข่าวบช.ปส. เห็นบาดแผลจากอำนาจการทะลุทะลวงของกระสุน .357 ของคนร้าย ภาพที่เขาแชร์กันน่ากลัวมาก ผู้รู้บางคนบอก ดีที่กระสุนมันพุ่งมาแล้วหมดแรง ไม่เช่นนั้นอาจจะเจ็บหนักกว่านี้
หรือเมื่อช่วงต้นเดือนวันที่ 4ก.ย.ที่่ผ่านมา ไอ้โน้ต หรือนายสิทธิพร กลิ่นหอม กับพวกคือนายเฉลิมพล จิตนิยม ชื่อเล่นโน้ต เหมือนกัน สะเดาะกุญแจมือหนีระหว่างถูกจับกุมในคดีค้ายาบ้าที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี แล้วไอ้โน้ต สิทธิพร ชิงปืน 9 มม.ยิง ด.ต.สกล บุญสาย ผบ.หมู่งานปราบปราม กก.1 ปส.4 บช.ปส.บาดเจ็บไปด้วย ต่อมาไอ้โน้ต เฉลิมพล มอบตัว ส่วนไอ้โน้ต สิทธิพร หนีไปกบดานในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในอ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี แต่ตำรวจปส.ตามล่าจนพบ นายสุทธิพร กลับใช้ปืนจี้หัวแฟนสาวเป็นตัวประกัน ก่อนยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี เลยถูกวิสามัญฯเสียชีวิต
นี่เป็นแค่ 2 ตัวอย่างภายในเดือนนี้ที่ทำให้เห็นว่าคนร้ายคดียาเสพติดไม่ยอมให้จับกุมง่ายๆ ขนาดตำรวจปส.ถึงแม้จะมีการฝึกการทบทวนการซักซ้อมมาอย่างดีตลอด ยังพลาดพลั้งได้
อย่างกรณีสารวัตรพงษ์ พ.ต.ต.ทวิพงษ์ ตำรวจที่บาดเจ็บจากการยิงปะทะกัับแก๊งยาเครือข่ายเหลืองประดับใจ นายตำรวจบช.ปส.คนหนึ่งเล่าให้ฟัง ถือว่าเป็นลูกหม้อ บช.ปส. เติบโตมาตั้งแต่ตำรวจชั้นประทวน อยู่ในสายงานล่อซื้อ เริ่มตั้งแต่เป็นลูกเลี้ยง ซึ่งเป็นภาษาของตำรวจปส. ทำหน้าที่คอยตามเสี่ยหรือคนซื้อยา เป็นการทดสอบจิตใจ ไม่ต้องพูดอะไร นั่งนิ่งๆทำตัวเป็นคนสนิทหรือมือปืนของเสี่ยที่จะทำหน้าที่ติดต่อล่อซื้อยา คอยศึกษาอากัปกิริยาของรุ่นพี่ ที่ทำตัวเป็นเสี่ย ของอย่างนี้ไม่ได้ทำแค่วันแค่เดือน แต่ต้องขลุกกับวงการยานรกเป็นปี จะเอานายตำรวจที่มาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจบางคนไปล่อซื้อก็ไม่ได้ เคยมีตัวอย่างบางคนล่อซื้ออยู่ มีคนจำหน้าได้เดินมาสวัสดี เล่นเอาเอ๋อไปพัก แต่ก็เอาตัวรอดไปได้
แต่ถ้าโชคไม่เข้าข้าง จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ถ้า 2 ตำรวจ ปส.ใน 2 เหตุการณ์น้ีไม่ได้แค่บาดเจ็บ ไม่อยากคิดว่าครอบครัวหรือคนอยู่หลัง พ.ต.ต.ทวิพงษ์ หรือ ด.ต.สกล เขาจะอยู่อย่างไร ต้องขอขอบคุณในความเสียสละของตำรวจปส.และครอบครัว ที่ยอมเสียเลือดเนื้อเสี่ยงต่อความสูญเสีย ทำให้ความคิดบ้าๆจากทีมเสนาบดีบนหอคอยยุติธรรม ที่จะหั่นงบรางวัลนำจับซาลงไปบ้าง
สังคมไทยปลอดยาเสพติดได้เมื่อไหร่ ค่อยปัดฝุ่นทบทวนอีกครั้งแล้วกัน?
กากีกลาย 20/9/59